DSI สั่งฟ้อง 2 คดีบริษัทต่างด้าวประกอบธุรกิจไม่ได้รับอนุญาต

กทม. 23 ธ.ค.-รักษาการอธิบดี DSI เร่งปราบปรามบริษัทต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต ล่าสุดสั่งฟ้อง 2 คดี ส่งพนักงานอัยการ

เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2566 ภายใต้การอำนวยการของ นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง นายวรพจน์ ไม้หอม รองผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง ได้มอบหมายให้ ร้อยตำรวจโทเสฎฐวุฒิ สายป้อง ผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง 2 และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำสำนวนการสอบสวนการสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมตัวผู้ถูกกล่าวหา ส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ดำเนินการ จำนวน 2 คดี ประกอบด้วย


1.คดีพิเศษที่ 38/2564 กรณีกล่าวหาว่า บริษัท ลีฟ ลัคกี้ จำกัด โดยนางสาวออคซาน่า กรรมการผู้มีอำนาจ ในฐานะผู้แทนนิติบุคคล และนายเดวิด (สงวนนามสกุล)ในฐานะส่วนตัว รวม 2 คน กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 การสอบสวนมีพยานหลักฐานพอฟ้องว่ามีความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นคนต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าว ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่คนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามกฎหมาย“ และ“เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล รู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดของนิติบุคคล หรือมิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น”

2.คดีพิเศษที่ 39/2564 กรณีกล่าวหาว่า บริษัท ซันนี่ วิวส์ จำกัด โดย นางสาวอิรินะ กรรมการผู้มีอำนาจ ในฐานะผู้แทนนิติบุคคล นายโยสซี่ กรรมการบริษัท ในฐานะส่วนตัว และนางสาวอิรินะ (สงวนนามสกุล) กรรมการผู้มีอำนาจ ในฐานะผู้แทนนิติบุคคล รวม 3 คน กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 การสอบสวนมีพยานหลักฐานพอฟ้องว่ามีความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นคนต่างด้าว ยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าว ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่คนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามกฎหมาย” ฐาน “เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล รู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดของนิติบุคคล หรือมิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น”และฐาน “เป็นคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นคนต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าว ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่คนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามกฎหมาย”


ที่มาของทั้งสองคดีสืบเนื่องมาจาก กองคดีความมั่นคงมีการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษที่ 7/2561 กรณีมีบริษัทที่ปรึกษากฎหมายสำนักงานตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายมาคัส สัญชาติอังกฤษ และนายพอล สัญชาติสหรัฐอเมริกา เป็นผู้บริหาร มีพฤติการณ์จัดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นคนไทยเป็นตัวแทนอำพราง ก่อตั้งบริษัท ซันนี่ ชอร์ส พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด แล้วนำบริษัทดังกล่าวเข้าไปถือครองหุ้นในบริษัทต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดภูเก็ต ในฐานะสัดส่วนของผู้ถือหุ้นที่เป็นสัญชาติไทย เพื่อประกอบธุรกิจการค้าที่ดินให้กับชาวต่างชาติ และเมื่อมีชาวต่างชาติเข้ามาซื้อที่ดินของบริษัทเหล่านั้นถือครองอยู่ก็จะดำเนินการจำหน่ายหรือขายหุ้นของตนเองหรือปิดบริษัทเดิม เพื่อให้ลูกค้าซึ่งเป็นชาวต่างชาติเข้ามายึดถือและครอบครองต่อไป โดยผลประโยชน์ที่ได้รับจากการซื้อขายที่ดินดังกล่าวจะตกอยู่แก่บุคคลต่างด้าวข้างต้น มิได้ตกอยู่แก่บริษัท ซันนี่ ชอร์ส พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด หรือผู้ที่เป็นผู้ถือหุ้นคนไทยแต่อย่างใด ซึ่งสอบสวนจนเสร็จสิ้น และเสนอสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว โดยศาลอาญาได้พิพากษาลงโทษบริษัท ซันนี่ ชอร์ส พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัดกับพวกแล้ว และต่อมาพนักงานอัยการได้แนะนำให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีกับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง จนเป็นที่มาของคดีพิเศษทั้งสองคดีนี้

กรมสอบสวนคดีพิเศษขอขอบคุณประชาชนที่ช่วยในการแจ้งเบาะแสด้วยดีมาโดยตลอดและหากประชาชนยังมีข้อมูลหรือทราบเบาะแสในกรณีดังกล่าว หรือการกระทำความผิดอื่น สามารถแจ้งข้อมูล/เบาะแส ได้ที่สายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 1202 โทร.ฟรีทั่วประเทศ หรือเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th “การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว เป็นเรื่องสำคัญ และกระทบต่อความมั่นคงรวมทั้งระบบเศรษฐกิจของประเทศ จึงเป็นนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงยุติธรรม รวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการปราบปรามอย่างจริงจัง” พันตำรวจตรียุทธนา กล่าว.-119.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก