กทม. 23 ธ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนุ่มเจ้าของบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์สวมรอยเป็น ก.พาณิชย์ หลอกเหยื่อโหลดแอปดูดเงิน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกูล ผบก.ทล., สั่งการ ให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. (นครปฐม) นำโดย พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สภ.ขุนทะเล ร่วมกันจับกุม
นายวิชัยฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฏร์ธานี ที่ จ.๔๓๖/๒๕๖๖ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหลอกลวง นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้เมื่อต้นปี พ.ศ.2566 ที่ สภ.ขุนทะเล จ.สุราษฎร์ธานี ว่าได้มีคนร้ายโทรศัพท์ติดต่อมาหาผู้เสียหาย โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แจ้งให้ผู้เสียหายอัปเดตสถานะบริษัทของผู้เสียหาย โดยคนร้ายได้แอดไลน์ติดต่อมาพูดคุยกับผู้เสียหาย ใช้ชื่อไลน์ว่ากรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมกับตั้งภาพโปรไฟล์เป็นโลโก้ของหน่วยงานดังกล่าว หลังจากนั้นคนร้ายได้แนะนำตัว พร้อมส่งข้อมูลการจดทะเบียนบริษัทของผู้เสียหาย ซึ่งตรงกับข้อมูลจริงของผู้เสียหาย จากนั้นคนร้ายได้ให้ ผู้เสียหายทำตามขั้นตอนที่คนร้ายบอกเพื่ออัปเดตสถานะบริษัทฯ โดยได้มีการส่งลิงก์มาให้กด และเเจ้งให้ผู้เสียหายกดปุ่มต่างๆ ตามที่คนร้ายบอก ซึ่งภายหลังจากที่ผู้เสียหายกดตามที่คนร้ายบอกแล้ว ปรากฏว่าหน้าจอโทรศัพท์ของผู้เสียหายค้างเป็นสีเทาทันที ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ แต่สายโทรไลน์ที่คนร้ายโทรติดต่อมาหาผู้เสียหายยังสามารถพูดคุยกันได้อยู่ คนร้ายจึงอ้างว่าอยู่ในช่วงระหว่างดำเนินการอัปเดตข้อมูล ซึ่งภายหลังจากที่คนร้ายวางสายไป โทรศัพท์ของผู้เสียหายจึงสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ผู้เสียหายจึงรีบตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคารของตน จนกระทั่งพบว่า มีเงินจำนวน 50,000 บาท ถูกโอนออกจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย หลังจากนั้นผู้เสียหายจึงได้เข้าเเจ้งความดำเนินคดี
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า บัญชีที่ใช้ในการรับโอนเงินของผู้เสียหาย เป็นบัญชีของ นายวิชัยฯ พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเเละขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สภ.ขุนทะเล สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้มาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม จึงได้มีการประสานมายังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตำรวจทางหลวงนครปฐม ให้ช่วยลงพื้นที่ติดตามจับกุม ผู้ต้องหา ซึ่งภายหลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตำรวจทางหลวงนครปฐมสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ขณะนั่งอยู่บริเวณริมถนนเลียบคลองชลประทานบ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม หลังจากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขุนทะเล จ.สุราษฏร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาอ้างว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้ทำการหลอกลวงผู้เสียหายแต่อย่างใด โดยเชื่อว่าตนถูกสวมรอยเปิดบัญชี เนื่องจากเคยทำบัตรประชาชนหาย
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอประชาสัมพันธ์ประชาชนในกรณีที่ท่านทำบัตรประชาชนสูญหาย ขอให้ท่านรีบดำเนินการเข้าทำบัตรประชาชนใหม่ในทันที เนื่องจากการทำบัตรประชาชนใหม่จะทำให้บัตรประชาชนที่สูญหายถูกระงับการใช้งาน ไม่สามารถนำไปสวมรอยใช้แอบอ้างแทนท่านได้ ทั้งนี้หากพบว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินโดยใช้บัตรประชาชนของท่าน ขอให้ท่านเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจใกล้บ้านในทันที หลังจากนั้นให้นำบันทึกประจำวันดังกล่าวไปแจ้งกับธนาคาร เพื่อป้องกันการถูกแอบอ้าง หรือสวมสิทธิ์บัตรประชาชนอีกทางหนึ่ง.-413.-สำนักข่าวไทย