ตร.ร่วมกับ อย.ทลายโกดังผลิตเครื่องสำอางเถื่อน พบของกลางจำนวนมาก

ชลบุรี 21 ธ.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม อย. ตัดตอนเครื่องสำอางเถื่อนเร่งขาว ตรวจยึดครีมถุงหลากสี กว่า 145 กิโลกรัม


ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกปฏิบัติการตรวจค้นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางปลอม และเครื่องสำอางไม่มีเลขจดแจ้ง โดยลวงขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ตรวจยึดของกลาง 9 รายการ รวม 241 ชิ้น สืบเนื่องจากการปรากฏข่าวโรงงานแห่งหนึ่งที่มีการผลิตครีมเถื่อนที่ไม่ได้มาตรฐานโดยพบซากหนูตายในภาชนะที่ผลิต โดยผู้ผลิตเครื่องสำอางได้ถูกดำเนินคดีไปแล้วนั้น จากเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงมีมาตรการเชิงรุก โดยการติดตามเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งผู้บริโภคอาจซื้อมาใช้จนได้รับอันตรายแก่ร่างกาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ตรวจสอบการโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กชื่อ “ครีมกิโลเร่งผิวขาว ครีมตัวขาวราคาส่ง” ซึ่งเฟซบุ๊กดังกล่าวมียอดผู้ติดตามกว่า 1,000 ราย และพบว่ามีการรับผลิตเครื่องสำอางโดยใช้สีและกลิ่นตามสั่ง อีกทั้งมีการโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ครีมทาผิวบรรจุถุงพลาสติก ถุงละ 1 กิโลกรัม โดยอวดอ้างสรรพคุณการเร่งผิวขาว เช่น ใช้แล้วจะทำให้ผิวขาวไวภายใน 3 วัน, รักษากระแดดตามผิวกาย, รักษารอยแผลเป็นให้จางลง, ลดจุดด่างดำ ฯลฯ ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าว อาจมีส่วนผสมของสารอันตรายที่เป็นสารต้องห้ามในเครื่องสำอาง เช่น สารปรอท ไฮโดรควิโนน กรดวิตามินเอ สเตียรอยด์ ซึ่งหากใช้เป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวหน้าดำ ผิวบางลง แพ้แสงแดดหรือแสงไฟได้ง่าย ผิวแตกลายถาวร เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้รับสารปรอทในปริมาณมาก อาจเกิดพิษสะสม ส่งผลให้ไตอักเสบ ซึ่งเคยมีผู้แพ้สารปรอทในเครื่องสำอางจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงทำการสืบสวนจนทราบถึงสถานที่จัดเก็บผลิตภัณฑ์ดังกล่าว


ต่อมาวานนี้ (20 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำหมายค้นของศาลแขวงชลบุรี เข้าทำการตรวจค้นสถานที่จัดเก็บผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ในพื้นที่ ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ผลการตรวจค้นพบ น.ส.มนทิกานต์ แสดงตัวเป็นเจ้าของสถานที่ดังกล่าว ซึ่งให้บริการเกี่ยวกับการรับฝากและจัดส่งสินค้า ตรวจยึด 1. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางปลอมเนื้อครีมคละสีบรรจุถุงละ 1 กิโลกรัม (เลขที่ใบรับจดแจ้งสิ้นอายุ) จำนวน 7 ถุง, 2. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เนื้อครีมคละสี บรรจุถุงละ 1 กิโลกรัม จำนวน 138 ถุง, 3.ฉลากและบรรจุภัณฑ์อื่นๆ รวมตรวจยึดของกลาง 9 รายการ รวมทั้งสิ้นจำนวน 241 ชิ้น โดยเป็นเครื่องสำอางเนื้อครีมหลากสีบรรจุถุงละ 1 กิโลกรัม จำนวน 145 ถุง ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี

จากการสืบสวนขยายผลทราบว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเถื่อนดังกล่าว น.ส.ณัฐถาวรีย์ เป็นผู้นำมาฝากจัดเก็บในลักษณะ “เก็บ แพ็ค ส่ง” ที่อาคารดังกล่าวเพื่อรอการจำหน่าย โดยมีค่าเช่าเดือนละ 1,000 บาท เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้า น.ส.ณัฐถาวรีย์ จะส่งข้อมูลการสั่งซื้อให้ผู้ให้เช่าทำการแพ็ค และส่งให้กับลูกค้า โดยทำมาแล้วประมาณ 1 ปี ซึ่ง การตรวจค้นครั้งนี้พบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เป็นผลิตภัณฑ์ปลอม และไม่มีเลขจดแจ้งส่งขายให้กับประชาชนซึ่งจะทำให้ได้รับผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ในส่วนตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ตรวจยึด พนักงานสอบสวนจะส่งผลิตภัณฑ์ตรวจพิสูจน์กับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข หากพบวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง จะเป็นความผิดเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง ฐาน “จำหน่ายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้” ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. กล่าวฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่าระมัดระวังและไตร่ตรองให้รอบคอบ ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ควรตรวจสอบฉลากบรรจุภัณฑ์ สี กลิ่น อย่างถี่ถ้วน และควรเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยา ที่ถูกเกินกว่าปกติ หรือโฆษณาอวดอ้างผลที่เกินจริง ให้ระลึกไว้เสมอว่าท่านกำลังเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อการโฆษณาและได้ของปลอม ของไม่มีคุณภาพ ใช้แล้วอาจเกิดอาการแพ้ และขอเน้นย้ำกับผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหลายว่าอย่านำสินค้าที่ผิดกฎหมายมาจำหน่ายหรือหลอกลวงผู้บริโภคโดยเด็ดขาด หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ผู้ที่พบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา


เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ อย. และ บก.ปคบ. สืบสวนขยายผลจนสามารถตรวจยึดเครื่องสำอางที่ผิดกฎหมายได้จำนวนมาก ในครั้งนี้พบเครื่องสำอางปลอม ที่นำเลขที่จดแจ้งเครื่องสำอางที่มิใช่ของตนเองมาแสดงและเลขที่จดแจ้งดังกล่าวมีสถานะสิ้นอายุแล้ว ในส่วนของประชาชนขอย้ำเตือนว่า ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ จะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนจำหน่าย โดยสามารถดูได้ที่ฉลากผลิตภัณฑ์ หรือที่บรรจุภัณฑ์ ควรซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอน กรณีซื้อออนไลน์ให้ซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เรียบร้อยแล้ว และอย่าหลงเชื่อโฆษณา “รักษาสิว รอยแผลเป็น ฝ้า กระ” “ช่วยให้ผิวขาว” เพื่อจูงใจในการสั่งซื้อสินค้า

ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ได้ที่ www.fda.moph.go.th และ Line@FDAThai หากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยหรือไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือผ่าน Email: 1556@fda.moph.go.th Line@FDAThai, Facebook: FDAThai หรือ ตู้ปณ.1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ.-413-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน