ป.ป.ส. ร่วมภาคี รวบเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมไอซ์ 11 กก.

11 ธ.ค. – รักษาการ เลขา ป.ป.ส. ลั่นเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับยาเสพติดต้องถูกจัดการ พร้อมเปิดช่องทาง LINE OA แจ้งเบาะแสเจ้าหน้าที่รัฐค้ายาเสพติด


วันที่ 11 ธันวาคม 2566 พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. เผยการจับกุม เจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ลั่นข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ต้องถูกจัดการ พร้อมเปิดช่องทาง LINE สำนักงาน ป.ป.ส. แจ้งเบาะแส ข้าราชการเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายในการลดความรุนแรงจากปัญหายาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหายาเสพติด โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้มีการดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีอิทธิพลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดในทุกพื้นที่


โดยเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ได้สืบพบข้อมูลทราบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.สงขลา โดยขนส่งยาเสพติดผ่านพัสดุภัณฑ์และนำมากระจายในพื้นที่ จึงได้จัดชุดปฏิบัติการเข้าจับกุม ณ ค่ายรัตนพล อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา และสามารถจับกุมผู้ต้องหารับราชการเป็นทหารธุรการ อายุ 29 ปี พร้อมของกลาง ไอซ์จำนวน 11 กก. มีหน้าที่เก็บยาเสพติดและจำหน่ายให้ลูกค้าในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผลผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หรือบิ๊กหลวง กล่าวว่า ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดจะต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด และถูกลงโทษทั้งทางวินัย และทางอาญา และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ประมวลกฎหมายยาเสพติด กำหนดโทษผู้กระทำผิด หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือข้าราชการ “ต้องระวางโทษเป็น 3 เท่า” โดยการค้ายาเสพติดประเภท 1 หากเป็นการกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ห้าแสนบาทถึงห้าล้านบาท ถ้าเป็นข้าราชการต้องระวางโทษ 3 เท่า คือ จำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึงตลอดชีวิต และ ปรับตั้งแต่หนึ่งล้านห้าแสนบาทถึงสิบห้าล้านบาท


พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ ยังได้เผยถึง การ เปิด LINE OFFICIAL รับแจ้งเบาะแส ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด “ขอเชิญประชาชนหากพบเห็นข้าราชการเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดไม่ว่าทางใด สามารถ แจ้งเบาะแสได้ผ่าน LINE “ข้าราชการค้ายาเสพติด” ID @govoff.drugtrade โดยตนขอยืนยันว่าการแจ้งเบาะแสปลอดภัยแน่นอน และตนจะร่วม ควบคุม ติดตาม การแจ้งด้วยตนเอง และนอกจากช่องทางไลน์ ท่านยังสามารถแจ้งเบาะแสเจ้าหน้าที่รัฐ หรือการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดผ่านการโทรสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” .-119.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”