ตำรวจโชว์ผลงานปราบปรามอาชญากรรมช่วงเทศกาลลอยกระทง

สตช. 28 พ.ย. – สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โชว์ผลงานปราบปรามอาชญากรรมช่วงเทศกาลลอยกระทง ระหว่าง 20-26 พ.ย. จับกุมความผิดอาชญากรรมทั่วไปได้กว่า 14,000 คดี ผู้ต้องหา 14,909 ราย


พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการปราบปรามอาชญากรรมในห้วงเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2566 หลังจากสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมาย และระดมกำลังทั่วประเทศกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท ระหว่างวันที่ 20-26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

สำหรับผลการปฏิบัติสามารถจับกุมความผิดอาชญากรรมทั่วไปได้ทั้งหมด 14,339 คดี ผู้ต้องหา 14,909 ราย ประกอบด้วย ความผิดเกี่ยวกับการพนัน 1,877 คดี ผู้ต้องหา 2,248 ราย, ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 9,053 คดี ผู้ต้องหา 9,055 ราย, ความผิดเกี่ยวกับการหลบหนีเข้าเมือง 3,218 คดี ผู้ต้องหา 3,415 ราย และความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ 191 คดี ผู้ต้องหา 191 ราย


จับกุมความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1,750 คดี ผู้ต้องหา 1,776 ราย ประกอบด้วย ความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ทางด้านการเงิน 116 คดี ผู้ต้องหา 112 ราย, ความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์และสินค้าผิดกฎหมาย 301 คดี ผู้ต้องหา 314 ราย, ความผิดเกี่ยวกับการเผยแพร่ข่าวปลอม 269 คดี ผู้ต้องหา 261 ราย, ความผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ และอื่น ๆ 1,043 คดี ผู้ต้องหา 1068 ราย

จับกุมตามหมายจับได้ 2,651 หมายจับ ผู้ต้องหา 2550 ราย, จับกุมตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 88 คดี ผู้ต้องหา 86 ราย, จับกุมความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ยึดของกลางมาได้ 1,320 กระบอก ประกอบด้วย อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 1,133 กระบอก และอาวุธปืนมีทะเบียนแต่ครอบครองผิดมือ 187 กระบอก

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า การระดมกวาดล้างในครั้งนี้ มุ่งเน้นการกวาดล้างความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุน และการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนผิดกฎหมายเป็นหลัก เนื่องจากที่ผ่านมามีเหตุรุนแรงที่เกิดจากความขัดแย้งของนักศึกษาต่างสถาบัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอุกฉกรรจ์ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่าจะทำให้ความรุนแรงของอาชญากรรมและการทำผิดกฎหมายลดลง


ส่วนการใช้อาวุธปืนก่อเหตุของคนร้ายนั้น ส่วนใหญ่จะใช้อาวุธปืนไม่มีทะเบียน เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบลงค์กัน และปืนไทยประดิษฐ์ หรือหากใช้ปืนที่มีทะเบียน ก็จะเป็นปืนที่ถูกขโมยมา ซึ่งตำรวจจะต้องเดินหน้ากวาดล้างอาวุธปืนอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ปัญหาอาวุธปืนเถื่อนนั้นยังแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง จับกุมเท่าไหร่ก็ไม่หมด สาเหตุมาจากการที่ยังมีปัญหาอาชญากรรมอยู่ ตราบใดที่ยังมีปัญหาอาชญากรรม ปืนเถื่อนก็ยังคงจะแพร่ระบาดต่อไป ตำรวจจึงต้องเดินหน้ากวาดล้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงจากการใช้อาวุธปืน.-412-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

วธ.เผย ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567

รัฐบาลจัดพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว อย่างยิ่งใหญ่

พระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ววันนี้ พร้อมริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนเปิดให้ประชาชนสักการะ พรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก

เปิดนาทีระทึก! เรือบรรทุก ชนเรือนำเที่ยวกลางเจ้าพระยา

ระทึก เรือพ่วงบรรทุก เฉี่ยวชนเรือนำเที่ยว จอดเทียบริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานกรุงเทพฯ ทำให้เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่เสียหาย 5 ลำ เรือเล็กจมอีก 1 ลำ