27 พ.ย. – กสทช. ร่วมกับตำรวจขยายผลไล่ล่าเอาผิดผู้ถือครองซิมเอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขานรับนโยบายเร่งด่วนนายกรัฐมนตรี
พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมาย และประธานคณะอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยี เรียกประชุมคณะอนุกรรมการฯ ประกอบด้วย พล.ต.ท.ดร.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับผิดชอบงานอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิมสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง., และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สอท.ปปง., ดีเอสไอ, สกมช., ธนาคารแห่งประเทศไทย, ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่, ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย เพื่อเร่งรัดประสาน ข้อมูลโดยมี กสทช. เป็นตัวกลางระหว่างผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่กับ สตช. มุ่งเน้นการขยายผลเอาผิด ผู้ถือครองซิมการ์ดที่องค์กรอาชญากรรมนำไปใช้ในการกระทำผิด ซิมผีที่ไปผูกกับอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้งของบัญชีม้า รวมไปถึงตีกรอบแนวทางการลงทะเบียบซิมของผู้ค้ารายย่อยให้มีความรัดกุมมากขึ้น
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า ในวันนี้คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาถึงมาตรการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลเบอร์ต้องสงสัยเพื่อเอาผิดผู้ถือครองเบอร์ที่คนร้ายใช้ ย้อนหลังไปถึงวันที่ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีผลใช้บังคับ (17 มี.ค.66) โดยได้รับเบอร์ต้องสงสัย เป็นจำนวนถึง 41,398 หมายเลข โดยแบ่งเป็นเบอร์ที่มีผู้แจ้งผ่านช่องทาง Thaipoliceonline.com และหมายเลขด่วน 1441 จำนวน 11,219 หมายเลข และเป็นเบอร์ที่ผูกกับบัญชีต้องสงสัย 30,179 หมายเลข
ซึ่งขณะนี้สำนักงาน กสทช.ร่วมกับ สตช. ตรวจสอบวิเคราะห์หมายเลขดังกล่าวแล้วประสานข้อมูลการใช้จากผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งใน ส่วนของข้อมูลผู้ถือครอง, ข้อมูลการใช้, ตำแหน่งที่อยู่ขณะใช้ และข้อมูลการชำระค่าบริการ นำส่งข้อมูลให้ตำรวจนำไปขยายผลไปถึงผู้กระทำผิด ตลอดจนให้มีพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลซิมแบบฉับพลัน (Real Time) ระหว่างตำรวจ, กสทช, ผู้ประกอบการฯ, และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถต่อกรกับอาชญากรออนไลน์ได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ในกลุ่มซิมการ์ดที่พฤติการณ์น่าสงสัย เช่น มีความถี่ในการโทรเป็นจำนวนมาก จดทะเบียนภายใต้ชื่อเดียวกันและมีการร้องเรียนเข้ามา ซิมที่ใช้จดทะเบียนอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้งที่ผูกกับบัญชีม้า กสทช. จะประสานผู้ประกอบการระงับการใช้งานซิมในกลุ่มนี้ทั้งหมด ในส่วนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการจัดการขั้นเด็ดขาดกับซิมผีและบัญชีม้านั้น ประธาน กสทช. ได้กำชับคณะอนุกรรมการฯ ให้เร่งรัดออกประกาศ กสทช. เพื่อให้ผู้ถือครองซิมจำนวนมาก ๆ (มากกว่า 5 ซิมขึ้นไป) มายืนยันตนภายในกำหนด เพื่อทราบข้อมูลผู้ถือครองและผู้ใช้ที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งประกาศ กสทช. ว่าด้วยการยืนยันตนและข้อมูลผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ฯ คณะกรรมการ กสทช.ได้ให้ความเห็นชอบร่างประกาศฯ ไป เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะ (Public Hearing) แล้วเมื่อวันที่ 19 ต.ค.66 และมีการประชุมรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่ม (Focus Group) ไปเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา อยู่ระหว่างรวบรวมสรุปความเห็นเพื่อนำมาปรับปรุงร่างประกาศฯ เสนอคณะกรรมการ กสทช. ซึ่งคาดว่าน่าจะประกาศใช้ได้ในเร็วๆ นี้
พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบเลขหมายต้องสงสัยและมีการแจ้งความจะเป็นการพิจารณาร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง กสทช. กับ สตช. โดยนำข้อมูลของผู้ใช้มาวิเคราะห์เพื่อดำเนินการระงับการใช้โทรศัพท์ ขยายผลออกหมายจับเพื่อให้ถึงตัวผู้บงการ เป็นการตัดวงจรและทำลายเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม โดยต่อไปข้อมูลการรับแจ้งทาง Thaipoliceonline.com ที่เกี่ยวข้องกับเลขหมายที่มีการแจ้งความจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบฉับพลัน (Realtime) เพื่อเป็นการยับยั้งคนร้ายไม่ให้มีการสร้างความเดือดร้อนกับประชาชนในวงกว้างต่อไป ซึ่งเป็นนโยบายของท่านนายรัฐมนตรีที่ให้ดำเนินการแบบเฉียบขาด และสืบสาวให้ถึงต้นตอ นายทุนใหญ่ เพื่อขุดรากถอนโคนองค์กรอาชญากรรมให้หมดไปจากสังคมไทย. -สำนักข่าวไทย