24 พ.ย. – ศาลไม่ให้ประกัน 8 ผู้ต้องหา คดียิง “น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ” ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งไปควบคุมต่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ด้านตำรวจเร่งไขปมรอย “ฟันเฟือง” บนแขน เชื่อเป็นสัญลักษณ์ล่าแต้ม
ความคืบหน้าคดี “น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ” ถูกยิงเสียชีวิต วันนี้ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ควบคุมตัว 8 ผู้ต้องหา ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ ฝากขังผัดแรก ข้อหาร่วมกันสบคบกันตั้งแต่ 5 คน กระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 หรือ “ซ่องโจร” โดยท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
ระหว่างนำตัวขึ้นรถคุมขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามในประเด็นต่างๆ เช่น กระทำความผิดจริงหรือไม่ ตกเป็นแพะตามที่เพื่อนผู้ต้องกล่าวอ้าง โดยบางคนไม่ตอบ แต่มีหนึ่งรายที่ระบุสั้นๆ เพียงว่า “ไม่” นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าก่อนนำตัวไปฝากขัง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 คน ที่มีรอยปั๊มรูปฟันเฟืองที่แขน ไปสอบปากคำเพิ่มเติม หลังมีรายงานว่าเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงการไปทำภารกิจสำเร็จมาในแต่ละครั้ง
ศาลไม่ให้ประกัน 8 ผู้ต้องหา แก๊งยิงน้องหยอด-ครูเจี๊ยบ
ต่อมาญาติ พร้อมทนาย ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (24 พ.ย.) ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว ชี้คดีมีอัตรโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีร้ายแรง ผู้ต้องหาทำการเป็นขบวนการ มีผลกระทำต่อสังคม หากให้ปล่อยชั่วคราวอาจหลบหนี จากนั้นควบคุมตัวทั้งหมดส่งไปควบคุมต่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
เร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุอีก 3 คน
ด้านผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ระบุว่าเบื้องต้นผู้ต้องหาทุกคนให้การปฏิเสธทุกข้อหา แต่บางคนให้การเป็นประโยชน์บ้าง บางคนยังไม่ยอมให้ข้อมูล ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามรวบรวมหลักฐานจากศิษย์เก่ารุ่นพี่ร่วมสถาบัน สืบทราบข้อมูล เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายบุคคลที่เกี่ยวข้องร่วมในขบวนการนี้
ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 3 ราย คือ นายวิน เป็นคนลั่นไก, นายเลาะ ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์วันก่อเหตุ และอีกคน ตำรวจยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ ทำหน้าที่สนับสนุนการก่อเหตุ โดยหลักฐานสำคัญที่พบคือจุดที่คนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุไปเปลี่ยนสี อยู่ในพื้นที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีการพ่นสีรถจากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ รวมทั้งมีการเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังก่อเหตุเพื่ออำพรางในการหลบหนี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุมือยิงและคนขี่รถจักรยานยนต์ คาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้
เร่งไขปมรอย “ฟันเฟือง” บนแขน เชื่อเป็นการล่าแต้ม
ส่วนประเด็นสัญลักษณ์รูปฟันเฟืองที่ถูกตีตราด้วยเหล็กร้อนและความเย็นที่แขนของ 4 ผู้ต้องหา พล.ต.ต.วิทวัฒน์ บอกว่าทั้ง 4 คน ให้การว่าทำด้วยความสมัครใจ ไม่ได้ถูกบังคับในการถูกปั๊มตราสัญลักษณ์ แต่ส่วนตัวเชื่อเป็นการล่าแต้มในการกระทำผิด แต่ยังไม่ฟันธง ต้องสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อ ยืนยันไม่มีการจับแพะ เพราะการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดมีพยานหลักฐานการก่อเหตุ การตรวจค้นเซฟต์เฮาส์ที่เชื่อมโยงสอดคล้องต้องกัน
ทั้งนี้ ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับอดีตนักศึกษาสถาบันหนึ่ง เรื่องประเพณีปั๊มฟันเฟือง ให้ข้อมูลว่า เป็นการใช้เหล็กเฟืองลนไฟเพื่อปั๊มไปที่แขน เพื่อแสดงออกถึงความสามัคคี และเป็นการกระทำโดยความสมัครใจ และความชอบส่วนบุคคล ไม่ได้เป็นการบังคับ
มีรายงานว่า ตราสัญญลักษณ์ฟันเฟืองที่ปรากฏที่ต้นแขนด้านซ้ายของกลุ่มผู้ต้องหาเป็นการใช้ตราปั๊ม เพื่อเป็นการ บอกว่าบุคคลที่มีตราปั๊มนี้ผ่านการก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง และจะมีลำดับขั้นจำนวนครั้งว่าต้องก่อเหตุกี่ครั้งถึงจะผ่านหลักสูตรดังกล่าว คล้ายการเก็บแต้ม ก่อนจะออกไปทำงานจริงเป็นตัวหลักของเครือข่าย ซึ่งตราฟันเฟืองดังกล่าวมีข้อมูลระบุว่าเป็นลักษณะสร้อย ตราฟันเฟือง ที่จะอยู่กับรุ่นพี่ที่คอยควบคุม.-สำนักข่าวไทย