ผู้บริหาร ยันไม่เกี่ยวข้องผู้ใช้ชื่อสถาบันแอบอ้างยิง “น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ”

กรุงเทพฯ 24 พ.ย.-ผู้บริหารสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ยืนยันไม่เกี่ยวข้ององค์กรอาชญากรรมขนาดเล็กใช้ชื่อสถาบันแอบอ้างก่อเหตุยิง “น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ” เสียชีวิต พร้อมเตรียมแจ้งความดำเนินคดีฐานใช้ชื่อสถาบันสร้างความเสื่อมเสีย


คณะผู้บริหารสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ตั้งโต๊ะแถลงเปิดใจ หลังมีกลุ่มคนนำโลโก้สถาบัน และชื่อสถาบันไปตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดเล็ก และก่อเหตุยิงนักศึกษาสถาบันข้างเคียงเสียชีวิตพร้อมครูเจี๊ยบ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาคอมพิวเตอร์จากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยนายเสถียร ธัญญศรีรัตน์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องหยอดและครูเจี๊ยบ ระบุไม่สบายใจที่มีกลุ่มคนนำชื่อสถาบันไปกระทำการในลักษณะดังกล่าว ซึ่งทำให้สถาบันซึ่งเป็นสถานศึกษาเก่าแก่อายุกว่า 91 ปี เสียชื่อเสียง

นายเสถียร ยืนยันว่า สถาบันไม่มีแนวนโยบาย รวมถึงไม่เคยส่งเสริมให้ศิษย์ของวิทยาลัย กระทำการในลักษณะดังกล่าว มีแต่ส่งเสริมนักศึกษาให้เรียนหนังสือและส่งเสริมให้สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตนไม่เคยส่งเสริมให้นักศึกษารวมกลุ่มกันตั้งองค์กรอย่างที่เป็นกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้


ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าไม่มีบุคลากรของสถาบันไปให้การช่วยเหลือ หรือส่งเสริม หรือให้เงินสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบันเพราะบุคลากรของสถาบันหากจะไปให้การช่วยเหลือในทางกฎหมาย หรือกระทำการใดจะต้องขออนุญาตจากอธิการบดีเท่านั้น ซึ่งหากใครฝ่าฝืนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องได้รับบทลงโทษตามกฎระเบียบของสถาบัน

ด้านนายวีนัส ทัดเทียม รองอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ยืนยันว่า กลุ่มผู้ต้องหาในคดีน้องหยอดและครูเจี๊ยบ ทั้ง 8 คนที่จับกุมก่อนหน้านี้ เป็นบุคคลที่พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม ส่วนอีก 1 คน รอรายชื่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ที่ผ่านมาพร้อมกับนักศึกษาคนอื่นๆ จำนวน 140 คน ตนได้ประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้ ยืนยันสถาบันขอปฏิเสธทุกการกระทำของกลุ่มดังกล่าว

ส่วนรายชื่ออีก 84 คน ที่อยู่ภายในกลุ่มแก๊ง “เสรีชนคนปทุมวัน” ที่มีการบูชารูปอดีตนักศึกษาปทุมวันที่เสียชีวิต ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายชื่อมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ายังคงมีสภาพเป็นนักศึกษาหรือไม่ หากได้รายชื่อดังกล่าวมาแล้วก็จะทำการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบมีความผิดเกี่ยวข้องกับองค์กรดังกล่าวก็ต้องถูกลงโทษตามกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ


นอกจากนี้ ผู้บริหารของสถาบันยังระบุอีกว่า ที่ผ่านมาเป็นเวลานานหลายปีแล้วทางสถาบันไม่อนุญาตให้มีการรับน้อง ซึ่งหากฝ่าฝืนก็ต้องได้รับบทลงโทษตามขั้นตอนคือ พักการเรียน 1 ภาคการศึกษา และไม่อนุญาตให้นักศึกษาเข้ามาทำกิจกรรมภายในสถาบันหลังสามทุ่ม ส่วนกรณีที่มีภาพการทำกิจกรรมรับน้องตอนกลางคืนบนดาดฟ้าของสถาบันจึงไม่เป็นความจริง แต่หากแอบไปกระทำกันที่อื่นเป็นเรื่องของนอกสถาบันซึ่งวิทยาลัยไม่มีทางก้าวก่ายได้

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบมีการปั๊มสัญลักษณ์ฟันเฟืองบนร่างกายของผู้ต้องหา 4 ราย จะเกี่ยวข้องกับสถาบันหรือไม่ ผู้บริหารของสถาบันยืนยันว่า สัญลักษณ์ของสถาบันเป็นดอกบัวไม่ใช่ฟันเฟือง แต่ฟันเฟืองคือสัญลักษณ์ของวิศวะ ดังนั้นทุกสถาบันจึงใช้สัญลักษณ์เดียวกันคือฟันเฟือง ส่วนมาตรการป้องกันในการก่อเหตุในลักษณะนี้ขณะนี้ทางสถาบันทั้งปทุมวันและอุเทนถวายได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมีการตรวจสอบนักศึกษาโดยแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงป้องกันปัญหาในอนาคตโดยมีการตั้งกลุ่ม LINE ระหว่างสองสถาบันร่วมกัน

ส่วนมาตรการป้องกันของทางสถาบันเองขณะนี้ทุกช่วงเย็นหลังเลิกเรียนแล้วจะมีอาจารย์ไปส่งนักศึกษาด้านหน้าสถาบัน และส่งให้ขึ้นรถและกลับบ้านโดยเร็วโดยแจ้งผู้ปกครองผ่านกลุ่ม LINE ว่าส่ง ณ จุดไหนเพื่อให้ผู้ปกครองสามารถรอรับ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในท้องที่รับช่วงต่อหลังนักเรียนออกจากสถาบันไปแล้ว นอกจากนี้ผู้บริหารของสถาบันยังตัดพ้อต่อสื่อมวลชนว่า ข่าวในแง่ดีของสถาบัน เช่น นักศึกษาวิศวกรรมชนะแข่งวิศวกรรม หรือผลิตหุ่นยนต์ได้รางวัลชนะเลิศกลับไม่เป็นข่าว แต่เมื่อมีเรื่องเพียงเล็กน้อย กลับโด่งดังไปทั้งประเทศ

ผู้บริหารของสถาบัน ยังบอกอีกว่า หลังจากนี้จะให้ฝ่ายนิติกรของสถาบันเข้าไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับทุกคนที่แอบอ้างชื่อของสถาบันทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งนี้ พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุ และแอบอ้างชื่อของสถาบัน เชื่อหากตำรวจใช้มาตรการเด็ดขาดกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจน คดีในลักษณะนี้จะลดลงและหมดไปในที่สุด แต่หากทำคดีแบบไฟไหม้ฟาง นี่ก็ไม่ใช่เคสสุดท้าย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]

อัญเชิญ “พระบรมรูป ร.7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 23 ส.ค.- อัญเชิญ “พระบรมรูปรัชกาลที่ 7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา ใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า สูง 7.7 เมตร ด้าน “วันนอร์” คาดแล้วเสร็จ พ.ค.69 เตรียมหารือ สนว. จัดพระราชพิธีเปิดฯ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมข้าราชการรัฐสภา ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าอยู่หัว องค์ใหม่ พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ และเครื่องประกอบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นประดิษฐาน หน้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังระบุว่า การก่อสร้างและอัญเชิญพระบรมรูป จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม 2569 โดยจะมีการหารือกับสำนักพระราชวัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดพระราชพิธีเปิดพระบรมรูปต่อไป ซึ่งวันนี้ต้องทำให้เกิดความสง่างาม รวมทั้งปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าว มีการติดตามรับผิดชอบจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานกลาง […]

มท.2 พบทหารเขมรดักซุ่มเนิน 350 ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2

23 ส.ค.- กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบทหารเขมร BHQ ดักซุ่มเนิน 350 ตรวจการณ์ฝ่ายไทย ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. ทหารฝ่ายไทยได้ตรวจพบทหารฝ่ายกัมพูชา ประมาณ 2–3 นาย คาดว่าเป็นหน่วย BHQ เนื่องจากมีการสวมหมวกทรง FAST สีดำ และได้กระทำการดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตก เนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ห่างจากแนวเส้นปฏิบัติการเข้ามาฝั่งไทยประมาณ 100 เมตร ขณะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ หน่วยได้ตรวจพบ ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณจุดที่พบทหารกัมพูชาดักซุ่ม จำนวน 1 ทุ่น หน่วยจึงได้ใช้เครื่องตรวจทุ่น ตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด และได้ทำเครื่องหมาย เพื่อรอรับการสนับสนุนชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดดำเนินการต่อไป จากสถานการณ์ดังกล่าวยืนยันได้ว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่อธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาอย่างต่อเนื่อง ทหารฝ่ายไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติ […]

ดีเปรสชันทะเลจีนใต้ทวีกำลังเป็น “พายุโซนร้อนคาจิกิ”

กรุงเทพฯ​ 23 ส.ค.​ – กรม​อุตุฯ ​เผยเช้า​นี้​ “ดีเปรสชัน” ทะเลจีนใต้ตอ​นบน ​ทวีกำลังเป็น “พายุโซนร้อนคาจิกิ” แล้ว​ คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วง 25–26 ส.ค.นี้ ส่งผลกระทบไทยตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ส.ค.) เป็นต้นไป นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน​ “คาจิกิ” มีแนวโน้มเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนประมาณ​วันที่​ 25​ -​26​ สิงหาคม​ ก่อนเข้าสู่สปปลาวและภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ไทย​ หลังจาก​ขึ้นฝั่ง​ที่​เวียดนาม​ คาดว่า​พายุ​โซน​ร้อน​จะอ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ภาคตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ไทย​จะเป็​นหย่อม​ความกดอากาศ​ต่ำ​ แต่ยังคงส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่ โดยเส้นทางพายุใกล้เคียงกับพายุ “วิภา” ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ จากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” ร่วมกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24–27 สิงหาคม 2568 โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ครอบคลุมหลายภาค ได้แก่​ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน​ ภาคเหนือ​ ภาคกลางภาคตะวันออก​ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้ คาดว่า​ […]