ผู้บริหาร ยันไม่เกี่ยวข้องผู้ใช้ชื่อสถาบันแอบอ้างยิง “น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ”

กรุงเทพฯ 24 พ.ย.-ผู้บริหารสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ยืนยันไม่เกี่ยวข้ององค์กรอาชญากรรมขนาดเล็กใช้ชื่อสถาบันแอบอ้างก่อเหตุยิง “น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ” เสียชีวิต พร้อมเตรียมแจ้งความดำเนินคดีฐานใช้ชื่อสถาบันสร้างความเสื่อมเสีย


คณะผู้บริหารสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ตั้งโต๊ะแถลงเปิดใจ หลังมีกลุ่มคนนำโลโก้สถาบัน และชื่อสถาบันไปตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดเล็ก และก่อเหตุยิงนักศึกษาสถาบันข้างเคียงเสียชีวิตพร้อมครูเจี๊ยบ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาคอมพิวเตอร์จากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยนายเสถียร ธัญญศรีรัตน์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องหยอดและครูเจี๊ยบ ระบุไม่สบายใจที่มีกลุ่มคนนำชื่อสถาบันไปกระทำการในลักษณะดังกล่าว ซึ่งทำให้สถาบันซึ่งเป็นสถานศึกษาเก่าแก่อายุกว่า 91 ปี เสียชื่อเสียง

นายเสถียร ยืนยันว่า สถาบันไม่มีแนวนโยบาย รวมถึงไม่เคยส่งเสริมให้ศิษย์ของวิทยาลัย กระทำการในลักษณะดังกล่าว มีแต่ส่งเสริมนักศึกษาให้เรียนหนังสือและส่งเสริมให้สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตนไม่เคยส่งเสริมให้นักศึกษารวมกลุ่มกันตั้งองค์กรอย่างที่เป็นกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้


ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าไม่มีบุคลากรของสถาบันไปให้การช่วยเหลือ หรือส่งเสริม หรือให้เงินสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบันเพราะบุคลากรของสถาบันหากจะไปให้การช่วยเหลือในทางกฎหมาย หรือกระทำการใดจะต้องขออนุญาตจากอธิการบดีเท่านั้น ซึ่งหากใครฝ่าฝืนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องได้รับบทลงโทษตามกฎระเบียบของสถาบัน

ด้านนายวีนัส ทัดเทียม รองอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ยืนยันว่า กลุ่มผู้ต้องหาในคดีน้องหยอดและครูเจี๊ยบ ทั้ง 8 คนที่จับกุมก่อนหน้านี้ เป็นบุคคลที่พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม ส่วนอีก 1 คน รอรายชื่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ที่ผ่านมาพร้อมกับนักศึกษาคนอื่นๆ จำนวน 140 คน ตนได้ประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้ ยืนยันสถาบันขอปฏิเสธทุกการกระทำของกลุ่มดังกล่าว

ส่วนรายชื่ออีก 84 คน ที่อยู่ภายในกลุ่มแก๊ง “เสรีชนคนปทุมวัน” ที่มีการบูชารูปอดีตนักศึกษาปทุมวันที่เสียชีวิต ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายชื่อมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ายังคงมีสภาพเป็นนักศึกษาหรือไม่ หากได้รายชื่อดังกล่าวมาแล้วก็จะทำการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบมีความผิดเกี่ยวข้องกับองค์กรดังกล่าวก็ต้องถูกลงโทษตามกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ


นอกจากนี้ ผู้บริหารของสถาบันยังระบุอีกว่า ที่ผ่านมาเป็นเวลานานหลายปีแล้วทางสถาบันไม่อนุญาตให้มีการรับน้อง ซึ่งหากฝ่าฝืนก็ต้องได้รับบทลงโทษตามขั้นตอนคือ พักการเรียน 1 ภาคการศึกษา และไม่อนุญาตให้นักศึกษาเข้ามาทำกิจกรรมภายในสถาบันหลังสามทุ่ม ส่วนกรณีที่มีภาพการทำกิจกรรมรับน้องตอนกลางคืนบนดาดฟ้าของสถาบันจึงไม่เป็นความจริง แต่หากแอบไปกระทำกันที่อื่นเป็นเรื่องของนอกสถาบันซึ่งวิทยาลัยไม่มีทางก้าวก่ายได้

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบมีการปั๊มสัญลักษณ์ฟันเฟืองบนร่างกายของผู้ต้องหา 4 ราย จะเกี่ยวข้องกับสถาบันหรือไม่ ผู้บริหารของสถาบันยืนยันว่า สัญลักษณ์ของสถาบันเป็นดอกบัวไม่ใช่ฟันเฟือง แต่ฟันเฟืองคือสัญลักษณ์ของวิศวะ ดังนั้นทุกสถาบันจึงใช้สัญลักษณ์เดียวกันคือฟันเฟือง ส่วนมาตรการป้องกันในการก่อเหตุในลักษณะนี้ขณะนี้ทางสถาบันทั้งปทุมวันและอุเทนถวายได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมีการตรวจสอบนักศึกษาโดยแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงป้องกันปัญหาในอนาคตโดยมีการตั้งกลุ่ม LINE ระหว่างสองสถาบันร่วมกัน

ส่วนมาตรการป้องกันของทางสถาบันเองขณะนี้ทุกช่วงเย็นหลังเลิกเรียนแล้วจะมีอาจารย์ไปส่งนักศึกษาด้านหน้าสถาบัน และส่งให้ขึ้นรถและกลับบ้านโดยเร็วโดยแจ้งผู้ปกครองผ่านกลุ่ม LINE ว่าส่ง ณ จุดไหนเพื่อให้ผู้ปกครองสามารถรอรับ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในท้องที่รับช่วงต่อหลังนักเรียนออกจากสถาบันไปแล้ว นอกจากนี้ผู้บริหารของสถาบันยังตัดพ้อต่อสื่อมวลชนว่า ข่าวในแง่ดีของสถาบัน เช่น นักศึกษาวิศวกรรมชนะแข่งวิศวกรรม หรือผลิตหุ่นยนต์ได้รางวัลชนะเลิศกลับไม่เป็นข่าว แต่เมื่อมีเรื่องเพียงเล็กน้อย กลับโด่งดังไปทั้งประเทศ

ผู้บริหารของสถาบัน ยังบอกอีกว่า หลังจากนี้จะให้ฝ่ายนิติกรของสถาบันเข้าไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับทุกคนที่แอบอ้างชื่อของสถาบันทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งนี้ พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุ และแอบอ้างชื่อของสถาบัน เชื่อหากตำรวจใช้มาตรการเด็ดขาดกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจน คดีในลักษณะนี้จะลดลงและหมดไปในที่สุด แต่หากทำคดีแบบไฟไหม้ฟาง นี่ก็ไม่ใช่เคสสุดท้าย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2,000 ลบ.ม./วินาที หน่วงน้ำเขื่อนป่าสักฯ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ช่วงบ่ายวันนี้ ห่วงผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย จึงปรับลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้น้ำเหนือระบายสู่อ่าวไทยได้มีประสิทธิภาพขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ระบุว่า เช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101 ลบ.ม./วินาที และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที ให้เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย.) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ […]