กองปราบฯ ลงพื้นที่สางคดี “ปลัดกล้า” ขับรถตกน้ำเสียชีวิตปริศนา

ฉะเชิงเทรา 22 พ.ย. – กองปราบฯ เร่งสางคดี “ปลัดกล้า” ขับรถตกน้ำเสียชีวิตปริศนา ยังคาใจอุบัติเหตุ หรือจัดฉากฆาตกรรมอำพราง


จากคดีเสียชีวิตปริศนาของ นายคมสัน สุรณัฐกุล หรือ ปลัดกล้า อายุ 47 ปี ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ขับรถตกฝายน้ำล้น ถ.สายนายาว-เขาฉกรรจ์ บ้านเกาะรัง หมู่ 10 ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เสียชีวิต ตรวจสอบร่างกายพบบาดแผลฉกรรจ์ ขณะที่ จ.อ.เกริกชัย โพธิ์ทอง ปลัดอำเภอสนามชัยเขต อีกคนที่นั่งโดยสารมาด้วยกันรอดชีวิต จากการใช้ปืนยิงกระจกเพื่อหนีออกมาขณะรถจมน้ำ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ต่อมาผลการชันสูตรพลิกศพนายคมสัน ระบุว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจเนื่องจากจมน้ำ ส่วนผลการผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอยู่ระหว่างรอผลการดำเนินการจากห้องปฏิบัติการนิติเวช ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 30 วัน จึงจะรู้ผล

วานนี้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.2 บก.ป. และคณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และตำรวจ สภ.เขาฉกรรจ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุบริเวณริมฝายน้ำล้นอีกครั้ง ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบและเก็บข้อมูลรายละเอียดทางกายภาพของพื้นที่ดังกล่าวนำไปประกอบแนวทางการสืบสวนสอบสวนเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น


พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถฟันธงหรือชี้ชัดว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นคดีฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ ต้องรอการพิสูจน์ทราบพยานหลักฐานต่าง ๆ ให้แน่ชัดก่อน จึงจะสามารถระบุได้ แต่จากข้อมูลพยานหลักฐานที่มีอยู่ ยอมรับว่าพบความผิดปกติหลายอย่าง โดยต้องเร่งตรวจพิสูจน์ทราบให้หายข้อสงสัย ซึ่งการมาเข้าร่วมสืบสวนของตำรวจกองปราบ ก็เพื่อต้องการช่วยสนับสนุนการทำงานของตำรวจท้องที่ โดยเอาความรู้ประสบการณ์จากคดีฆาตกรรมอำพรางหลายๆ คดี อาทิ คดี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ วางแผนจัดฉากฆาตกรรมอำพรางนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศ, คดี ผกก.โจ้, คดีแอม ไซยาไนด์ และอีกหลาย ๆ คดีที่เคยทำมาเป็นแนวทางในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการสอบปากคำพยานบุคคล สอบปากคำแพทย์นิติเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากแพทยสภา เพื่อพิสูจน์ทราบบาดแผล รวมไปถึงการตรวจสอบและเก็บข้อมูลหลักฐานจากรถคันที่เกิดเหตุ และวัตถุพยานนิติวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุ เชื่อว่าเร็วๆ นี้คดีจะชัดเจนมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวนั้น แม้ผลชันสูตรจะระบุว่า นายคมสัน เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ จากการจมน้ำ รวมถึงบาดแผลที่บริเวณขมับขวาไม่ได้เกิดจากคมกระสุนก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ หรือเร่งรัดสรุปว่าเป็นคดีอุบัติเหตุ ไม่ใช่คดีฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากยังมีข้อสงสัยหลายประการที่ต้องพิสูจน์ทราบ โดยเฉพาะประเด็นร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์ที่ขมับขวา และใบหูด้านซ้ายที่ฉีกขาด จำเป็นต้องเร่งพิสูจน์ให้ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด เนื่องจากลักษณะบาดแผลที่พบนั้นไม่สอดคล้องกับลักษณะการเกิดเหตุและอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร เช่นเดียวกับสภาพตัวรถหลังเกิดอุบัติเหตุที่แทบจะไม่มีร่องรอยความเสียหายจากการถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนถึงขั้นทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ได้ ประกอบกับสภาพแวดล้อมหรือลักษณะทางกายภาพที่เกิดเหตุเป็นถนนคันกั้นฝายน้ำล้น พื้นผิวดินในน้ำมีลักษณะเป็นดินเลน ไม่มีวัตถุหรือของแข็งใต้น้ำ เช่นเดียวกับไม่มีรั้วขอบทางด้านข้างที่จะเป็นสิ่งกีดขวางทำให้เกิดการกระแทกอย่างรุนแรงได้ อีกทั้งเส้นทางดังกล่าวเป็นถนนชุมชนมีน้ำไหลผ่านจึงไม่สามารถใช้ความเร็วได้เหมือนถนนปกติ

อย่างไรก็ตาม แม้บาดแผลทั้งสองแห่งจะไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิตโดยตรง แต่ก็ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจส่งผลทำให้ผู้ตายจมน้ำเสียชีวิตได้ ซึ่งหลังจากนี้เมื่อผลการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดจากห้องปฏิบัติการนิติเวช รพ.ตำรวจ ออกอย่างเป็นทางการแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวจะเร่งประสานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาสอบปากคำเพื่อพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดว่าบาดแผลดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร และเป็นแผลที่ถูกทำให้เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุโดยตรง ทั้งนี้เพื่อที่จะได้สามารถกำหนดทิศทางในการคลี่คลายปริศนาทางคดีว่าเป็นคดีอุบัติเหตุหรือคดีฆาตกรรมอำพราง


นอกจากนี้ยังมีข้อพิรุธทางคดีหลายอย่างที่ต้องพิสูจน์ทราบ โดยเฉพาะประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับคำให้การของ จ.อ.เกริกชัย ผู้รอดชีวิต ที่เคยให้การกับพนักงานสอบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ ว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปนั่งดื่มเบียร์กับผู้ตายและผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งที่บ้านพักของผู้ใหญ่คนดังกล่าว ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก โดยนั่งดื่ม 3 คน รวมกัน 9 ขวด จากนั้นประมาณ 21.00 น. จ.อ.เกริกชัย กับผู้ตายจึงขอตัวกลับ โดยมีผู้ตายเป็นคนขับ แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถเกิดเสียหลักพุ่งตกน้ำ จ.อ.เกริกชัย จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงกระจกจนแตกแล้วมุดหนีเอาตัวรอดออกมาจากตัวรถ แต่จังหวะนั้นผู้ตายหนีไม่ทันติดอยู่ในรถจึงเสียชีวิตดังกล่าว ส่วน จ.อ.เกริกชัย หลังขึ้นมาจากน้ำได้ก็รีบว่ายเข้าฝั่งแล้วไปนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ จนกระทั่งมีคนผ่านมาพบและเข้าให้การช่วยเหลือในรุ่งเช้าอีกวัน

จากคำให้การดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า มีความย้อนแย้งอยู่ในตัว เพราะหาก จ.อ.เกริกชัย มีสติสามารถเอาตัวรอดจากช่วงเวลาวิกฤติขนาดนั้นได้ เหตุใดจึงไม่รีบเดินไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่พักอาศัยห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 300-400 เมตร หลังจากเกิดเหตุในทันที แต่กลับนั่งรอใต้ต้นไม้จนถึงเช้า แม้เจ้าตัวจะอ้างว่ากำลังอยู่ในอาการตกใจ และหวาดกลัวก็ตาม แต่ก็ดูไม่สมเหตุสมผล ส่วนกรณีที่พบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายจำนวน 1 เครื่อง อยู่กับ จ.อ.เกริกชัย นั้น อ้างว่าขณะเกิดเหตุตกใจ จึงรีบคว้าโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ใกล้ตัว พร้อมกับอาวุธปืนติดตัวมา ไม่ทันได้ดูว่าเป็นของผู้ตาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองยังไม่ปักใจเชื่อ จำเป็นต้องเร่งสอบปากคำพยานแวดล้อมต่าง ๆ อีกหลายปาก รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบความผิดปกติเกี่ยวกับสภาพศพของผู้ตาย เพราะขณะที่ทำการกู้ร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำพบว่า สภาพศพอยู่ในท่าขาเหยียดตรง มือข้างขวากำพระเครื่องไว้จนแน่น ต่างจากสภาพศพของคนขับรถตกน้ำตายทั่วไป ที่มักจะอยู่ในสภาพท่านั่งขับรถ อีกทั้งจากการตรวจสอบอาวุธปืนของผู้รอดชีวิต พบว่ามีการยิงทั้งหมด 4 นัด กระสุนออกจากรังเพลิง 3 นัด ขัดลำกล้อง 1 นัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์รอยวิถีกระสุน

อย่างไรก็ตาม จากข้อพิรุธทางคดีที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ลงพื้นที่ไปสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ เพราะเป็นคดีละเอียดอ่อน เรื่องราวซับซ้อน รวมถึงหลาย ๆ เหตุการณ์มีความคล้ายคลึงกับคดีของ พ.ต.ท.บรรยิน เพื่อที่จะได้นำเอาประสบการณ์จากการทำคดีฆาตกรรมอำพรางต่างๆ ที่เคยทำในอดีตมาใช้เป็นแนวทางให้กับตำรวจท้องที่ในการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ