กทม. 13 พ.ย. – “ไรเดอร์” เหยื่อถนนยุบตัวจากเหตุรถสิบล้อบรรทุกเกินร้อง “สายไหมต้องรอด” หลังประสบอุบัติเหตุ บาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผ่านมา 5 วัน ยังไร้หน่วยงานรัฐรับผิดชอบเยียวยาค่ารักษาพยาบาล
นายสุรชัย ไรเดอร์ที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีรถสิบล้อบรรทุกน้ำหนักเกินทรุดลงท่อของการไฟฟ้านครหลวง หน้าปากซอยสุขุมวิท 64/1 เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา เดินทางมาร้องเรียนนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังไม่ได้รับการเยียวยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถทำงานได้ นายสุรชัย นำใบรับรองแพทย์มายืนยันว่า ตัวเองได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจนต้องพักรักษาตัวนานถึง 30 วัน พร้อมเปิดบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างบริเวณใบหน้าโหนกแก้มซ้ายร้าว ปากฉีกเย็บ 11 เข็ม บริเวณแขนขวาข้อมือหัก นิ้วนางเนื้อเปิดออกหมด แขนซ้ายมีแผลถลอกหลายจุด และบริเวณเข่าขวามีแผลถลอกเนื้อเปิด ซึ่งต้องเดินทางไปล้างแผลทุกวัน
นายสุรชัย เผยว่าวันเกิดเหตุกำลังขับรถไปส่งพัสดุแถวสยาม ใช้ช่องทางถนนสุขุมวิทขับตรงมาเรื่อยๆ ตามปกติ ก่อนได้ยินเสียงดังขึ้น จากนั้นก็รู้สึกว่ารถของตัวเองชนเข้ากับขอบท่อคอนกรีต รถจักรยานยนต์และตัวเองกระเด็นไปด้านข้าง โดยจักรยานยนต์ทับขาไว้ ขณะนั้นตัวเองมีสติรู้สึกตัวอยู่จึงรีบลุกขึ้น ซึ่งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้มาช่วยพาไปนั่งบริเวณฟุตบาท จากนั้นรถของมูลนิธิก็มาช่วยไปส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเอกซเรย์เบื้องต้นพบว่าข้อมือร้าว และมีบาดแผลถลอกเนื้อเปิดหลายจุด ส่วนบริเวณใบหน้าปากฉีกจนต้องเย็บถึง 11 เข็ม ซึ่งทางแพทย์ได้นัดให้ล้างแผลทุกวัน และนัดหมายวันที่ 17 พ.ย.นี้ ตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนใบหน้าในวันที่ 22 พ.ย.ต้องไปพบแพทย์อีกครั้งว่าต้องศัลยกรรมหรือไม่
ในระหว่างที่ตัวเองรักษาตัว นายสุรชัย บอกว่าต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งค่าเดินทาง ค่ารักษา ตกวันละเกือบ 1,000 บาท ในขณะที่ไม่สามารถไปทำงานหาเงินได้ในช่วงระหว่างรักษาตัว เหตุผลที่เดินทางมาร้องเรียนในวันนี้เนื่องจากว่าหลังเกิดเหตุมีเพียง กทม.ที่มอบกระเช้าเยี่ยมและเยียวยา 5,000 บาท ขณะที่หน่วยงานการไฟฟ้านครหลวงและทางฝั่งรถสิบล้อ ไม่เคยมาเยียวยา มีเพียงให้ประกันภัยของรถสิบล้อมาสอบถามอาการในวันแรก แต่หลังจากนั้นก็เงียบหายไป ทำให้ตัดสินใจมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับเพจสายไหมต้องรอด
ด้านนายเอกภพ มองว่าเรื่องนี้เบื้องต้นทั้งการไฟฟ้านครหลวงและรถบรรทุกสิบล้อต้องเข้ามาสอบถามเยียวยาผู้บาดเจ็บไม่ใช้ปัดความรับความผิดชอบแบบนี้ ในส่วนของการไฟฟ้านครหลวงเป็นหน่วยงานที่มีการขุดท่อวางสายไฟฟ้าก็ต้องคำนึงเรื่องความปลอดภัย หากเกิดเหตุขึ้นก็ควรที่จะมาเยียวยาเบื้องต้น มองว่าการทำบ่อแต่ละครั้งก็ควรจะมีประกันความปลอดภัยไว้ ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินแบบนี้ ขณะเดียวกันรถบรรทุกสิบล้อก็ควรมีมนุษยธรรมมาสอบถามให้ความช่วยเหลือกับผู้บาดเจ็บในฐานะที่ตัวเองก็บรรทุกน้ำหนักเกิน ซึ่งถือว่ามีส่วนในการกระทำผิด
ส่วนหน่วยงาน กทม.เป็นเจ้าของพื้นที่อนุญาตให้มีการขุดท่อนี้ก็ต้องไปดูว่ามีประกันไว้หรือไม่ มองว่าก่อนที่จะทำการก่อสร้างอะไรก็ควรมีการทำประกันความปลอดภัยไว้อยู่แล้ว
นายเอกภพ บอกว่าเบื้องต้นในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจะทวงถามความคืบหน้าด้านคดีกับตำรวจก่อนว่ามีใครที่สามารถเยียวยาเบื้องต้นได้บ้างเนื่องจากทางโรงพยาบาลออกใบรับรองแพทย์ให้ผู้บาดเจ็บพักเกือน 50 วัน ตั้งแต่ 8 พ.ย.-30 ธ.ค.66 ก่อนส่งตัวต่อมารักษาตาม สิทธิ์บัตรทอง ซึ่งแพทย์ผู้ให้การรักษาต่อ นัดดูอาการในวันที่ 24 พฤศจิกายน ซึ่งถือว่าค่อนข้างอาการสาหัส หลังจากนั้นก็จะพาไปร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรม เพราะถือว่าเป็นผู้เสียหายจากคดีอาญา. -สำนักข่าวไทย