กรุงเทพฯ 9 พ.ย. – “บิ๊กโจ๊ก” ประสานกรมทางหลวงออกแผนปฏิบัติร่วมตำรวจ นำตาชั่งออกตรวจสอบน้ำหนักรถรรทุกตามไซต์งานก่อสร้างใน กทม. ย้ำต้องไม่มีรถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่ง สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ทำผิดต้องจับดำเนินคดีทั้งคนขับ-เจ้าของ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานด้านจราจร ประชุมร่วมกับ รรท. ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 และตำรวจ สน.พระโขนง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาสภาพการจราจร หลังวานนี้เกิดเหตุฝาบ่อท่อร้อยสายไฟใต้ดินทรุดตัว หลังรถสิบล้อบรรทุกดินวิ่งผ่าน แล้วเกิดอุบัติเหตุ และปัญหารถติดบน ถ.สุขุมวิท เป็นวงกว้าง ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนักว่า หลังเกิดเหตุมีการพูดคุยหารือกับผู้ว่าฯ กทม. ถึงปัญหาดังกล่าว ซึ่งจะต้องเร่งแก้ไข ไม่ให้เกิดปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินเข้ามาวิ่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และห้ามวิ่งในเวลาที่ไม่อนุญาต ซึ่งปัญหาของโรงพักในพื้นที่นครบาล ต่างจากพื้นที่ต่างจังหวัดคือไม่มีตาชั่ง หลังจากนี้จะมีการประสานกับกรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกแผนปฏิบัติร่วมกับตำรวจจราจร นำตาชั่งออกไปตรวจสอบรถบรรทุกตามไซต์งานก่อสร้างต่าง ๆ
สำหรับคดีนี้จะมาดูควบคุมสำนวนการสอบสวน โดยจะทำให้เป็นคดีตัวอย่าง เพราะรถบรรทุก 10 ล้อ ตามกฎหมาย น้ำหนักต้องไม่เกินกว่า 25 ตัน คดีนี้ เกิดความผิดชัดเจน จากประสบการณ์น่าจะมีการบรรทุกเกินกว่าน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด เบื้องต้นมีการดำเนินคดีกับคนขับแล้ว ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหากการตรวจสอบในบ่ายนี้ พบว่ารถมีการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด ก็ต้องจะแจ้งดำเนินคดี กับคนขับด้วย ส่วนเจ้าของต้องไปขยายผลตรวจสอบว่า เป็นใครรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ หากรู้เห็นก็ต้องมีการดำเนินคดีด้วย และต้องมีการเสนอศาลให้มีคำสั่งยึดรถด้วย
ส่วนประเด็นมีข้อสงสัยว่าวานนี้ทำไมถึงไม่มีการช่างน้ำหนักรถ จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทราบว่า มีการนำตาชั่งมาแล้ววานนี้ แต่เนื่องจากรถคันเกิดเหตุไม่สามารถขึ้นบนตาชั่งได้เนื่องจากมีปัญหากระทะล้อ ด้านหลังชำรุด ส่วนที่ปรากฏภาพมีการตักดินออกจากรถหลังเกิดเหตุ สอบถามรถมีน้ำหนักมาก ชั่งไม่ได้ จึงต้องมีการตักดินออก แต่ล่าสุดเอาดินกลับมาทั้งหมดแล้ว และจะมีการนำตาชั่งมาชั่งรถ และดินทั้งหมด ในช่วงบ่ายนี้
ส่วนจะมีเรื่องส่วยสติกเกอร์หรือไม่ ตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าของมีประมาณ 5 คัน ซึ่งสติกเกอร์ B มีไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกเพื่อจะวิ่งเข้าไซต์งานของเขา แต่ฝ่ายสืบสวนก็ต้องไปตรวจสอบว่าเป็นสติกเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับส่วยหรือไม่ แต่เบื้องต้นตนไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบปัญหาดังกล่าวเนื่องจาก ผบ.ตร. ไม่ได้มอบหมาย แต่ก็พอมีข้อมูลอยู่บ้างแล้ว สำหรับเส้นทางรถบรรทุกนำดินไปทิ้งปลายทางที่ไหน ก็พบว่าวิ่งผ่าน 2-3 สน. ปลายทางสถานที่ก่อสร้าง รามอินทรา 19 ก็จะมีการตรวจดูรายละเอียดอีกครั้ง อีกทั้งเท่าที่ตนดูสถิติในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินเลย ซึ่งหลังจากนี้จะต้องเข้มงวดตรวจสอบ และรถบรรทุกที่วิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ต้องไม่มีน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนดและไม่วิ่ง ในเวลาที่ห้าม เพื่อแก้ปัญหาสภาพจราจรให้กับพี่น้องประชาชน. -สำนักข่าวไทย