“เสี่ยหมู” นอนขวางกลางถนน ร้องสื่อช่วยติดตามคดีถูกยึดตลาด

กรุงเทพฯ 8 พ.ย. – “เสี่ยหมู” เจ้าของตลาดสดปราจีนฯ นอนขวางกลางถนน ร้องสื่อช่วยติดตามคดีถูกอดีตนายตำรวจยึดตลาด ผ่านมาหลายปีคดีไม่คืบ


ที่บริเวณกลางถนนพหลโยธินขาเข้าบริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีนายวุฒิโรจน์ อริยเดชอนันต์ หรือ เสี่ยหมู นักธุรกิจพัฒนาที่ดิน ชาวจังหวัดปราจีนบุรี พุ่งตัวลงถนน แล้วลงนอนขว้างกลางรถที่สัญจรบนเส้นทางเพื่อเรียกร้องต่อสื่อมวลชนที่มาติดตามการนำเสนอข่าวที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเสี่ยหมู มีการนอนลงบนถนน ก่อนจะลุกขึ้นมา และยกมือไหว้ขอโทษประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน และหันหน้าเข้าร้องต่อสื่อมวลชน

เสี่ยหมู เปิดเผยว่า ต้องเดินทางมาทำเช่นนี้เนื่องจากที่ดินของตนเองในจังหวัดปราจีนบุรี ที่มีการทำเป็นตลาด ถูกนายทุนคนจีนร่วมกับตำรวจระดับสูงยึดไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ตนเองนำที่ดินดังกล่าวไปจำนองเพื่อแลกกับการกู้ยืมเงินของนายทุนจีนคนหนึ่งในวงเงินจำนวน 40 ล้านบาท โดยมีการทำสัญญาในระยะเวลา 1 ปีครึ่ง ซึ่งตามสัญญาเมื่อครบกำหนดตนเองจะต้องคืนเงินจำนวน 55 ล้านบาท มีตัวกลางในการทำสัญญาเป็นอัยการคนหนึ่ง แลกกับการต้องให้เงินกับเมียอัยการคนนี้จำนวน 2 ล้านบาท


ต่อมาในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน นายทุนจีนคนดังกล่าว ได้มีการยึดที่ของตนเองไป โดยในตอนนั้นมีการเรียกตนเองไปเพื่ออ้างว่าจะทำสัญญาฉบับใหม่แลกกับเงิน 10 ล้านบาทเพิ่มเติม โดยนัดกันในพื้นที่พัทยา เมื่อตนเองเดินทางมาก็ได้มีการนำทนายกับตำรวจนอกราชการเข้าไปดำเนินการยึดตลาดสดของตนเองเป็นที่เรียบร้อย

หลังเกิดเรื่องได้ไปติดต่อนายตำรวจยศ “พล.ต.ท.” รายหนึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ที่ปัจจุบันเกษียณอายุราชการไปแล้ว ให้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว โดยพลตำรวจโทคนดังกล่าวรับว่าจะดำเนินการตรวจสอบคนจีนกลุ่มนี้ให้แลกกับเงินที่จะต้องให้เป็นค่าใช้จ่ายจำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งตนเองยินยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้เพราะหวังต้องการให้ตรวจสอบคนจีนและดำเนินการเอาตลาดคืน ซึ่งการตรวจสอบดังกล่าวพบว่าคนจีนกลุ่มนี้มีการสวมบัตรประชาชนคนไทย และมีหน่วยงานในประเทศเกี่ยวข้องอีกหลายหน่วยงาน จนมีการร้องขอให้ตนเองหยุดดำเนินการ และแลกกับการออกหมายจับชาวจีนที่เป็นแม่คนถือโฉนดที่ดิน

ต่อมามีการนำหมายจับเข้าไปจับกุมแต่กลายเป็นว่ามีการต่อรองกันโดยมาแจ้งกับตนเองว่าชาวจีนจะคืนที่ดินให้ แต่ขอเงินจำนวน 50,000,000 คืน ซึ่งหากตนเองไม่มีไม่เป็นไรเพราะทางพลตำรวจโทรายนี้เสนอที่จะให้ยืมเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อไปไถ่กับคนจีนรายนี้กลับมาก่อน แต่แลกกับการต้องเปลี่ยนชื่อในสัญญาจากเดิมที่เป็นลูกสาวชาวจีนรายนี้เป็นลูกเขยของนายตำรวจยศพลตำรวจโท และเป็นลูกของนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลชื่อดังในประเทศ ซึ่งสัญญาดังกล่าวมีการทำไว้จำนวน 3 ปี มีการกำหนดดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 18 ต่อปี โดยหากตนเองไม่สามารถดำเนินการไถ่ถอนที่ดินในระยะเวลา 3 ปีได้ ที่ดินตกเป็นของลูกเขยนายตำรวจคนนี้


แต่ขณะนี้เวลาผ่านมาเพียง 11 เดือน นายตำรวจยศพลตำรวจโทคนนี้ได้มาพร้อมกับลูกน้องและมีการพาตนเองเข้าไปในห้องของรองผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยภายในห้องตนเองยังสังเกตเห็นเป็นลักษณะพวกกลุ่มมือปืนจำนวนหนึ่ง คล้ายกับคดีของผู้กำกับโจ้ ซึ่งทั้งหมดได้มีการพูดจาข่มขู่ให้ตนเองยอมเซ็นยกตลาดให้กับนายตำรวจคนนี้ ซึ่งตนเองถูกกักขังนานหลายชั่วโมงก่อนที่จะยอมเซ็นเนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย

ที่ผ่านมาตนเองได้พยายามร้องขอความเป็นธรรมกับทางกองปราบฯ มาตลอดตั้งแต่ปี 2563 แต่มาจนถึงขนาดนี้คดียังคงไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งในช่วงปี 2563 ในตอนแรกตำรวจกองปราบฯ ไม่ยอมรับคดีของตนเอง แต่มีบุคคลที่อ้างว่าเป็นคนสนิทของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้นเข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจากับทางกองปราบให้โดยเรียกรับเงินจำนวน 65,000 บาท ให้กองปราบยอมรับคดีแต่มาถึงขนาดนี้คดียังคงไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ในวันนี้จึงเดินทางมาร้องขอให้ทางสื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวเพื่อเป็นกระบอกเสียงกระตุ้นการทำงานของตำรวจ เพื่อติดตามคดีของตนเองทั้งเรื่องของการถูกยึดยึดตลาด และคนจีนที่สวมบัตรคนไทย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

ราชทัณฑ์เปิดภาพผ้าเช็ดตัว-ผังห้องขังหมายเลข 50

กรมราชทัณฑ์ เปิดภาพและขนาดผ้าเช็ดตัวที่จัดสรรแจกให้ผู้ต้องขังชาย-หญิง ในเรือนจำ พร้อมข้อมูลแดน 5 และผังห้องขังหมายเลข 50

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย