วัยรุ่นนับสิบรุมทำร้ายอริดับ

กรุงเทพฯ 5 พ.ย. – หนุ่มกลับจากตลาดพร้อมภรรยา ถูกอรินับ 10 คน ดักรอหน้าหมู่บ้าน ก่อนยกพวกรุมทำร้ายจนเสียชีวิตข้างกำแพงหมู่บ้าน


กล้องวงจรบันทึกเหตุการณ์ระหว่างนายจักราวุธ อายุ 36 ปี ผู้เสียชีวิต ถูกกลุ่มอรินับ 10 คน วิ่งไล่ตามไปทำร้ายร่างกาย ทั้งเตะ ต่อย จนล้มลงไปกองกับพื้นถนน และถูกกระทืบ บางคนถือเหล็กยาววิ่งไล่ฟาดนายจักราวุธ จากภาพจะเห็นว่านายจักราวุธพยายามลุกขึ้นและวิ่งหนีสุดชีวิต แต่ถูกกลุ่มอริวิ่งไล่ตามไปติดๆ จนพ้นระยะกล้องวงจรปิด จากนั้นประมาณ 50 วินาที กลุ่มอริทยอยเดินกลับมา ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี

เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา กลางซอยเทิดราชัน 1 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง วันนี้ นางแก้ว อายุ 41 ปี ชาว สปป ลาว ภรรยาของผู้เสียชีวิต เข้าให้ปากคำกับตำรวจอีกครั้ง และเล่าว่า ช่วงเย็นก่อนเกิดเหตุ ตนเองและสามีไปตลาดนาวง ย่านรังสิต สามีตนมีปัญหาทะเลาะวิวาท ชกต่อยแบบตัวต่อตัวกับหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ จากนั้นทั้งคู่แยกย้ายกันไป แต่จู่ๆ คู่กรณีพาเพื่อนหลายคนมารุมทำร้ายสามีตน ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ได้เข้าระงับเหตุ และสามีแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากคลองรังสิต ซึ่งสามียังขอให้ตำรวจขับรถไปส่งที่บ้าน เพราะเกรงว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะกลับมาทำร้ายซ้ำอีก แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยตำรวจให้เหตุผลว่าอยู่คนละพื้นที่กัน สามีตนจึงกลับไปที่ตลาดนาวงเพื่อขายของต่อ กระทั่งเก็บของจะกลับที่พัก


เมื่อขับรถไปถึงจุดเกิดเหตุ ตนเห็นกลุ่มวัยรุ่นนั่งอยู่ที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน ตนยังพูดกับสามีว่า “ทำไมวันนี้วัยรุ่นที่หน้าบ้านเยอะจัง” ตนคิดว่าสามีไม่ได้สังเกตจึงขับรถเข้าบ้านตามปกติ จนถูกกลุ่มอริรุมทำร้าย ทุบตีด้วยไม้และแท่งเหล็กจนสลบ ส่วนตนเองถูกคนชื่อดอน จับตัวไว้ไม่ให้เข้าไปช่วย ตนเองถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บที่หน้าและมีแผลที่คอ มือเขียวช้ำ ตนพยายามขอร้องว่าอย่าทำแฟนตน แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ฟัง กระทั่งสามีสลบไป กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงแยกย้ายกันหลบหนี ตนจึงเข้าไปดูสามีพบว่าพูดจาไม่รู้เรื่อง ตัวเริ่มซีด จึงขอให้ชาวบ้านช่วยโทรเรียกรถพยาบาล แต่ระหว่างนั้นหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุย้อนกลับมาดูและเตะแฟนตนซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะหนีไป

นางแก้ว เปิดเผยว่า สามีและกลุ่มผู้ก่อเหตุเคยมีปัญหากันประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา เท่าที่จำได้ในกลุ่มคือ นายคิว นายตูน และนายรอน โดยฝั่งผู้ก่อเหตุเคยมาตีและทำร้ายสามีตนก่อน และต่างฝ่ายต่างก็เอาคืนหลายครั้ง คู่กรณีมักพาเพื่อนมารุมสามีตนเอง ส่วนสาเหตุตนไม่รู้ เพราะสามีไม่ค่อยเล่าให้ฟัง และบอกว่าเมื่อคืนกลุ่มผู้ก่อเหตุได้เข้าพบตำรวจ อ้างว่าทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุด้วยไม้และแท่งเหล็กแต่ไม่มีใครรับว่าเป็นคนแทงสามีตนเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุไป จึงอยากให้ตำรวจตามจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

พ.ต.ท.โอสถ ผ่าโผน รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ดอนเมือง เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำภรรยาผู้เสียชีวิต พยานบุคคล พยานแวดล้อม ประมาณ 10 ปาก นอกจากนี้อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจพิสูจน์บาดแผลว่าบาดแผลใดทำให้เสียชีวิต รวมไปถึงการหาอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ ส่วนหลักฐานกล้องวงจรปิดอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าภายในกลุ่มผู้ก่อเหตุใครทำหน้าที่อะไร และใครเป็นผู้แทงผู้เสียชีวิตให้ถึงแก่ความตาย นอกจากนี้ยังส่งโทรศัพท์มือถือไปกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อกู้ไฟล์คลิปภาพที่ได้ถ่ายไว้ในวันเกิดเหตุ เพื่อประกอบสำนวน และติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปหานายเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกภรรยาผู้ตายระบุว่ามีปัญหากับผู้ตาย นายเอ (นามสมมติ) ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ร่วมก่อเหตุ แต่ยอมรับว่าช่วงเย็นตนชกต่อยกับผู้ตายจริง เริ่มจากที่ตนเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร แต่ช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงรอออเดอร์ จึงไปนั่งเล่นภายในวัดนาวง จากนั้นตนเผลอหลับไปไม่ถึง 5 นาที ผู้ตายย่องมาหาแล้วใช้แก้วน้ำสแตนเลส ตีหัวตน 1 ครั้ง เป็นแผลแตก จึงไปแจ้งความที่ สภ.ปากคลองรังสิต จากนั้นตนไปหาหมอ เนื่องจากเลือดออกเยอะ โดยหมอเย็บแผล 3 เข็ม ซึ่งตนมารู้ทีหลังว่าในระหว่างนั้นเพื่อนๆ ที่รู้เรื่องว่าตนถูกตี คงไปแก้แค้นให้ แต่ไม่เชื่อว่าจะเป็นการวางแผนก่อเหตุขนาดนั้น

ส่วนเรื่องที่ผู้ตายมาตีตนสาเหตุอาจจะมาจากการที่ผู้ตายดมกาว ไม่แน่ใจว่ามีการใช้สารเสพติดด้วยหรือไม่ เพราะผู้ตายมักมีอาการแปลกๆ ชอบมาหาเรื่องพวกตน แล้วให้พวกตนทำร้าย ก่อนจะเรียกเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้เพื่อนตนเคยถูกเรียกเงิน กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาอาละวาด มีการแจ้งตำรวจ ตำรวจจึงเดินทางเข้ามาระงับเหตุไล่จับ ตนก็เข้าไปช่วยด้วย จึงอาจจะเป็นสาเหตุให้ผู้ตายโกรธแค้นและมาตีหัวตนในช่วงเย็นของวันเกิดเหตุ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย