กรุงเทพฯ 5 พ.ย. – หนุ่มกลับจากตลาดพร้อมภรรยา ถูกอรินับ 10 คน ดักรอหน้าหมู่บ้าน ก่อนยกพวกรุมทำร้ายจนเสียชีวิตข้างกำแพงหมู่บ้าน
กล้องวงจรบันทึกเหตุการณ์ระหว่างนายจักราวุธ อายุ 36 ปี ผู้เสียชีวิต ถูกกลุ่มอรินับ 10 คน วิ่งไล่ตามไปทำร้ายร่างกาย ทั้งเตะ ต่อย จนล้มลงไปกองกับพื้นถนน และถูกกระทืบ บางคนถือเหล็กยาววิ่งไล่ฟาดนายจักราวุธ จากภาพจะเห็นว่านายจักราวุธพยายามลุกขึ้นและวิ่งหนีสุดชีวิต แต่ถูกกลุ่มอริวิ่งไล่ตามไปติดๆ จนพ้นระยะกล้องวงจรปิด จากนั้นประมาณ 50 วินาที กลุ่มอริทยอยเดินกลับมา ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี
เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา กลางซอยเทิดราชัน 1 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง วันนี้ นางแก้ว อายุ 41 ปี ชาว สปป ลาว ภรรยาของผู้เสียชีวิต เข้าให้ปากคำกับตำรวจอีกครั้ง และเล่าว่า ช่วงเย็นก่อนเกิดเหตุ ตนเองและสามีไปตลาดนาวง ย่านรังสิต สามีตนมีปัญหาทะเลาะวิวาท ชกต่อยแบบตัวต่อตัวกับหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ จากนั้นทั้งคู่แยกย้ายกันไป แต่จู่ๆ คู่กรณีพาเพื่อนหลายคนมารุมทำร้ายสามีตน ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ได้เข้าระงับเหตุ และสามีแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากคลองรังสิต ซึ่งสามียังขอให้ตำรวจขับรถไปส่งที่บ้าน เพราะเกรงว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะกลับมาทำร้ายซ้ำอีก แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยตำรวจให้เหตุผลว่าอยู่คนละพื้นที่กัน สามีตนจึงกลับไปที่ตลาดนาวงเพื่อขายของต่อ กระทั่งเก็บของจะกลับที่พัก
เมื่อขับรถไปถึงจุดเกิดเหตุ ตนเห็นกลุ่มวัยรุ่นนั่งอยู่ที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน ตนยังพูดกับสามีว่า “ทำไมวันนี้วัยรุ่นที่หน้าบ้านเยอะจัง” ตนคิดว่าสามีไม่ได้สังเกตจึงขับรถเข้าบ้านตามปกติ จนถูกกลุ่มอริรุมทำร้าย ทุบตีด้วยไม้และแท่งเหล็กจนสลบ ส่วนตนเองถูกคนชื่อดอน จับตัวไว้ไม่ให้เข้าไปช่วย ตนเองถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บที่หน้าและมีแผลที่คอ มือเขียวช้ำ ตนพยายามขอร้องว่าอย่าทำแฟนตน แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ฟัง กระทั่งสามีสลบไป กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงแยกย้ายกันหลบหนี ตนจึงเข้าไปดูสามีพบว่าพูดจาไม่รู้เรื่อง ตัวเริ่มซีด จึงขอให้ชาวบ้านช่วยโทรเรียกรถพยาบาล แต่ระหว่างนั้นหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุย้อนกลับมาดูและเตะแฟนตนซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะหนีไป
นางแก้ว เปิดเผยว่า สามีและกลุ่มผู้ก่อเหตุเคยมีปัญหากันประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา เท่าที่จำได้ในกลุ่มคือ นายคิว นายตูน และนายรอน โดยฝั่งผู้ก่อเหตุเคยมาตีและทำร้ายสามีตนก่อน และต่างฝ่ายต่างก็เอาคืนหลายครั้ง คู่กรณีมักพาเพื่อนมารุมสามีตนเอง ส่วนสาเหตุตนไม่รู้ เพราะสามีไม่ค่อยเล่าให้ฟัง และบอกว่าเมื่อคืนกลุ่มผู้ก่อเหตุได้เข้าพบตำรวจ อ้างว่าทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุด้วยไม้และแท่งเหล็กแต่ไม่มีใครรับว่าเป็นคนแทงสามีตนเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุไป จึงอยากให้ตำรวจตามจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
พ.ต.ท.โอสถ ผ่าโผน รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ดอนเมือง เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำภรรยาผู้เสียชีวิต พยานบุคคล พยานแวดล้อม ประมาณ 10 ปาก นอกจากนี้อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจพิสูจน์บาดแผลว่าบาดแผลใดทำให้เสียชีวิต รวมไปถึงการหาอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ ส่วนหลักฐานกล้องวงจรปิดอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าภายในกลุ่มผู้ก่อเหตุใครทำหน้าที่อะไร และใครเป็นผู้แทงผู้เสียชีวิตให้ถึงแก่ความตาย นอกจากนี้ยังส่งโทรศัพท์มือถือไปกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อกู้ไฟล์คลิปภาพที่ได้ถ่ายไว้ในวันเกิดเหตุ เพื่อประกอบสำนวน และติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปหานายเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกภรรยาผู้ตายระบุว่ามีปัญหากับผู้ตาย นายเอ (นามสมมติ) ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ร่วมก่อเหตุ แต่ยอมรับว่าช่วงเย็นตนชกต่อยกับผู้ตายจริง เริ่มจากที่ตนเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร แต่ช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงรอออเดอร์ จึงไปนั่งเล่นภายในวัดนาวง จากนั้นตนเผลอหลับไปไม่ถึง 5 นาที ผู้ตายย่องมาหาแล้วใช้แก้วน้ำสแตนเลส ตีหัวตน 1 ครั้ง เป็นแผลแตก จึงไปแจ้งความที่ สภ.ปากคลองรังสิต จากนั้นตนไปหาหมอ เนื่องจากเลือดออกเยอะ โดยหมอเย็บแผล 3 เข็ม ซึ่งตนมารู้ทีหลังว่าในระหว่างนั้นเพื่อนๆ ที่รู้เรื่องว่าตนถูกตี คงไปแก้แค้นให้ แต่ไม่เชื่อว่าจะเป็นการวางแผนก่อเหตุขนาดนั้น
ส่วนเรื่องที่ผู้ตายมาตีตนสาเหตุอาจจะมาจากการที่ผู้ตายดมกาว ไม่แน่ใจว่ามีการใช้สารเสพติดด้วยหรือไม่ เพราะผู้ตายมักมีอาการแปลกๆ ชอบมาหาเรื่องพวกตน แล้วให้พวกตนทำร้าย ก่อนจะเรียกเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้เพื่อนตนเคยถูกเรียกเงิน กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาอาละวาด มีการแจ้งตำรวจ ตำรวจจึงเดินทางเข้ามาระงับเหตุไล่จับ ตนก็เข้าไปช่วยด้วย จึงอาจจะเป็นสาเหตุให้ผู้ตายโกรธแค้นและมาตีหัวตนในช่วงเย็นของวันเกิดเหตุ.-สำนักข่าวไทย