กทม. 2 พ.ย.-ตำรวจ ปอท.รวบแก๊งหลอกขายทุเรียนทิพย์ ปลอมเพจทุเรียนสวนลุงแดง และเพจคุณชาย หมูกรอบ ของดาราชื่อดัง ตรวจสอบเพียงสัปดาห์เดียว พบเงินหมุนเวียน 1 ล้านบาท
พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.2 บก.ปอท., แถลงผลปฏิบัติการทลายเครือข่าย แก๊งหลอกขายทุเรียนทิพย์ ตรวจค้น 5 จุด ในพื้นที่จังหวัดสงขลา และสุราษฎร์ธานี จับกุมนายปุริม อายุ 26 ปี พร้อมพวกรวม 4 คน คาหมายจับ ในข้อหาประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ฯลฯ พร้อมยึดของกลาง เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ, โน๊ตบุ๊ก, โทรศัพท์มือถือ, Ipad ซึ่งใช้ในการบริหารจัดการเพจ และใช้สนทนาหลอกลวงผู้เสียหาย สมุดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) ที่คนร้ายใช้รับเงิน และซิมโทรศัพท์ที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการกระทำความผิด รถยนต์ 3 คัน เงินสดมูลค่ากว่า 300,000 บาท พร้อมสร้อยคอทองคำ
พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเดือนกันยายน 2566 มีผู้เสียหายกว่า 500 คน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้ซื้อทุเรียนผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ทุเรียนสวนลุงแดง” แต่หลังจากโอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับทุเรียน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง สืบสวนจนพบว่า กลุ่มคนร้ายได้ร่วมกันใช้เพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “ทุเรียนสวนลุงแดง” มีผู้ติดตามจำนวนเกือบ 20,000 ราย มาหลอกขายทุเรียนทิพย์ โดยจะนำรูปภาพทุเรียน มาโพสต์ขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด และในบางครั้งก็มีการสร้างแรงจูงใจด้วยการจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม จากการสืบสวนพบว่าคนร้าย มีการจ้างให้คนมาคอมเมนต์ และรีวิว เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือจนทำให้ประชาชนหลงเชื่อ ติดต่อซื้อทุเรียนทิพย์ พร้อมทั้งโอนเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ก่อนจะไม่สามารถติดต่อได้อีก เบื้องต้นภายใน 1 สัปดาห์ พบความเสียหายมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และผู้เสียหายกว่า 500 คน
จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่า กลุ่มคนร้ายได้สร้างเพจเพื่อหลอกขายสินค้าต่างๆ จำนวน 4 เพจ ได้แก่
- เพจชื่อ “ทุเรียนสวนลุงแดง” ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่าเกือบ 20,000 ราย
- เพจชื่อ “ทุเรียนพรีเมียม เมืองจันทร์” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 14,000 ราย
- เพจชื่อ “แม่เพ็ญอาหารทะเลสด” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 23,000 ราย และ
- เพจชื่อ “คุณชาย หมูกรอบ” ซึ่งมีผู้ติดตามเกือบ 10,000 ราย และมีชื่อเพจตรงกับเพจของดาราหนุ่มชื่อดัง “อาร์ต พศุตม์” แต่อาร์ต ยังไม่เข้ามาแจ้งความ
พ.ต.ท.นิธิ เปิดเผยว่าจากการสอบสวน ผู้ต้องหาบางราย ให้การรับว่า ตนพร้อมพวกได้ร่วมกันซื้อเฟซบุ๊กและเพจเฟซบุ๊ก เพื่อนำมาสร้างเพจหลอกขายสินค้า โดยเลือกขายสินค้าที่เป็นที่นิยมในท้องตลาด ณ ขณะนั้น โดยตั้งราคาที่ดึงดูดความสนใจผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังรับว่ามีการจ้างผู้อื่นให้กดไลค์กดติดตาม พร้อมคอมเมนต์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของเพจ และซื้อตัวช่วยการประกาศโฆษณา (ยิงแอด) ทำให้ประชาชนที่พบเห็นหลงเชื่อ และถูกหลอกลวงในที่สุด โดยกลุ่มคนร้ายมีการแบ่งหน้าที่กันทำ แบ่งเป็นหน้าที่ซื้อบัญชีธนาคารม้าพร้อมซิมโทรศัพท์, ซื้อเพจเฟซบุ๊ก, บริหารจัดการเฟซบุ๊ก, สนทนากับผู้เสียหาย, ถอนเงินจากบัญชีธนาคารม้า ซึ่งคนร้ายกลุ่มดังกล่าวมีการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มหลายท้องที่ มีการเปลี่ยนยานพาหนะที่ใช้ถอนเงิน เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนจับกุม ส่วนเงินที่ได้นำไปใช่จ่ายในชีวิตประจำวัน และไปเล่นพนันออนไลน์
พล.ต.ต.อธิป กล่าวว่าที่ผ่านมา ผู้เสียหายในคดีฉ้อโกงออนไลน์มักที่มีมูลค่าไม่มาก จะไม่ค่อยมาแจ้งความ ทำให้คนร้ายย่ามใจก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงขอความร่วมมือผู้เสียหายให้ช่วยเข้ามาแจ้งความออนไลน์ผ่าน www.thaipoliceonline.com และแนบข้อมูลลิงค์ ของมิจฉาชีพเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการติดตามจับกุมและส่งข้อมูลเว็บไซต์ดังกล่าวไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อดำเนินการปิดเว็บไซต์หลอกลวงเหล่านี้ต่อไป. -สำนักข่าวไทย