“บิ๊กโจ๊ก”-จนท.NGO 9 ประเทศ ประชุมต่อต้านล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

ภูเก็ต 24 ต.ค. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” รอง ผบ.ตร. ร่วมกับเอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย ให้การต้อนรับและกล่าวเปิดการประชุมหารือระดับภูมิภาคเพื่อต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ที่ จ.ภูเก็ต


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศพดส.ตร. ร่วมกับ ดร.แองเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย และคุณเฮเลน ชไนเดอร์ ผู้บังคับการศูนย์ป้องกันปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศเด็กและการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก ของสำนักงานตำรวจเครือรัฐออสเตรเลีย ให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่ NGOs จาก 9 ประเทศ ได้แก่ ไทย ออสเตรเลีย กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ที่เดินทางมาร่วมประชุมหารือระดับภูมิภาค เพื่อต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก หรือ CSERD 2023 (Countering Child Sexual Exploitation Regional Dialogue) ณ โรงแรมทราย ลากูน่า จ.ภูเก็ต ซึ่งจะมีการประชุมระหว่างวันที่ 23-27 ต.ค.66

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมเพื่อมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศ การทำงานข้ามพรมแดน เสริมสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคในการต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก หรือการแสวงหาประโยชน์จากเด็กในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานตำรวจเครือรัฐออสเตรเลีย (AFP) และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อร่วมมือและเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ มุ่งพัฒนาศักยภาพในระดับภูมิภาค เพื่อต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศเด็กให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป


รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจเครือรัฐออสเตรเลีย (AFP) ในด้านต่างๆ เป็นอย่างดียิ่งมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นปฏิบัติการ Taskforce Storm, การจัดตั้งเครือข่ายป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อประสานงานระหว่างหน่วยงาน โดยดำเนินการผ่านระบบบริหารจัดการข้อมูลคดีและข่าวกรอง (Case Management and Intelligence System – CMIS), การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ในประเทศไทย (Thai Centre of Excellence to counter TIP) และการสนับสนุนหลักสูตรการฝึกอบรมด้านสกุลเงินดิจิทัลและนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัล การเจรจา และการสอบสวน โดยสนับสนุนบุคลากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปอบรมที่ประเทศออสเตรเลีย หรือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ คือ การให้ความร่วมมือและสนับสนุนประเทศไทย ในการจัดประชุมเฟิร์สไทยแลนด์ อินเตอร์เนชันแนล ไดอะลอก (1st Thailand International Dialogue) เพื่อแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในภูมิภาคอาเซียน

สำหรับการแก้ปัญหาการต่อต้านการล่วงละเมิดเด็กในประเทศไทย ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาการล่วงละเมิดเด็กเป็นอย่างมาก โดยได้จัดตั้งศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นศูนย์ขับเคลื่อนและควบคุมการปฏิบัติการดำเนินการแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดเด็กอย่างจริงจัง โดยเน้นการทำงาน 3 ส่วนหลัก คือ การปราบปราม การป้องกัน และการพัฒนาบุคลากร

ในส่วนการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีสถิติผลการจับกุม ปราบปรามการล่วงละเมิดเด็ก 9 เดือนแรกของปี 2566 จำนวน 411 คดี เฉลี่ย 45 คดี/เดือน ในปี 2565 จำนวน 482 คดี เฉลี่ย 40 คดี/เดือน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5 คดี/เดือน คิดเป็น 11.25% โดยข้อหาที่มีผลการจับกุมสูงสุด คือ การครอบครองสื่อลามกเด็ก จำนวน 164 คดี รองลงมา คือ การล่วงละเมิดทางเพศ จำนวน 154 คดี และเป็นคดีค้ามนุษย์ถึง 75 คดี คิดเป็น 18% ซึ่งถือเป็นจำนวนการขยายผลไปสู่ความผิดฐานค้ามนุษย์ได้สูงที่สุดในรอบ 9 ปี และข้อมูลเบาะแสจาก Cybertipline Report 9 เดือนแรกของปี 2566 จำนวน 297,432 CT เฉลี่ย 33,048 CT ต่อเดือน ในปี 2565 จำนวน 523,159 CT เฉลี่ย 43,596 CT ต่อเดือน ลดลงเฉลี่ย 10,488 CT ต่อเดือน คิดเป็น 24% เป็นผลมาจากการที่เจ้าหน้าที่มีความชำนาญมากขึ้นและปราบปรามจริงจังเด็ดขาด


ในส่วนการป้องกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2565 ได้จัดทำโครงการ D.A.R.E 2 C.A.R.E. ซึ่งเป็นโครงการให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนในสถานศึกษา และในปี 2566 ได้มีการขยายไปสู่ผู้ปกครองและชุมชน เพื่อให้ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมในการป้องกันบุตรหลานถูกล่วงละเมิดอีกส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้ทำโครงการ Child Safe Friend Tourism Project เป็นโครงการที่อบรมบุคลากรการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ เพื่อช่วยกันสอดส่องดูแลเด็กและเยาวชนในสถานที่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิด และในส่วนการพัฒนาบุคลากร ได้ดำเนินการจัดการฝึกอบรมด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพและความชำนาญให้กับผู้ปฏิบัติ เช่น อบรมกระบวนการ NRM, อบรมการใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น Cellebrite ในการทำ Digital Forensic รวมทั้งการกระจายอำนาจ โดยการจัดตั้งศูนย์ TICAC ให้ครอบคลุมทั้งประเทศ

การดำเนินการทั้งหมดนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญในเรื่องการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์มาโดยตลอด โดยเฉพาะการป้องกันปราบปรามการล่วงละเมิดเด็ก โดยได้บูรณาการปฏิบัติกับทุกภาคส่วนในทุกมิติ ทั้งในประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับสากล เพื่อขจัดปัญหาการล่วงละเมิดเด็กอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับไปสู่ Tier1 ในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

“คะน้า” แจ้งความเอาผิดไฮโซเก๊ หลอกจ่ายค่าแชมเปญ

“คะน้า” ดาราสาว แจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดีกับอดีตแฟนหนุ่ม ข้อหาฉ้อโกง หลังหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญ 98,000 บาท เพื่อเป็นของขวัญ

ตึกสตง.ถล่ม

เข้าสู่วันที่ 12 นำออกได้อีก 4 ร่าง ภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C