ราชทัณฑ์ตั้งกรรมการสอบคนช่วย “เสี่ยแป้ง” หนี

24 ต.ค. – กรมราชทัณฑ์ ตั้งกรรมการสอบคนช่วย “เสี่ยแป้ง” หนี ตำรวจพบรถพา “เสี่ยแป้ง” หนีจอดทิ้งใกล้ท่าเรือติดมาเลย์ ด้านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ยันยังอยู่ในไทย ผบ.ตร. สั่งเร่งติดตามจับกุม ดำเนินคดีเด็ดขาด ขณะที่เมื่อวานนี้ ค้นเป้าหมาย 4 จุด ควบคุมผู้ต้องหาเอี่ยวช่วย “เสี่ยแป้ง” หนี ได้แล้ว 2 ราย


ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม กรมราชทัณท์นำตัว “เสี่ยแป้ง” ออกมารักษาทันตกรรม หรือฟัน นอกเรือนจำตามนัด แต่แพทย์ได้เลื่อนนัด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์กำลังจะคุมตัวกลับ ปรากฏว่า เสี่ยแป้งทำทีเป็นวูบหมดสติ แขนขาอ่อนแรง ทำให้ต้องส่งตัวเข้าแอดมิดที่ชั้น 6 รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช จนต่อมาช่วงกลางดึกวันที่ 22 ตุลาคม กล้องวงจรปิดจับภาพเห็นเสี่ยแป้ง เดินออกมาลิฟต์โรงพยาบาล โดยไม่มีพันธนาการใดๆ หลังออกจากลิฟต์แล้ว มีรถมารับพาหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่เชื่อว่าการหลบหนีของเสี่ยแป้ง เตรียมการล่วงหน้าหลายวันแล้ว จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเบื้องต้น พบผู้เกี่ยวข้อง 4 คนที่คอยช่วยเหลือในการหลบหนี ใช้รถยนต์อย่างน้อย 2 คัน คือ กระบะมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียนพัทลุง ขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นรถของมารดาของหนึ่งในผู้ช่วยเหลือ “เสี่ยแป้ง” พาหลบหนี อีกคันเป็นรถอีซูซุสีขาว และยังมีรถเก๋งต้องสงสัยสีดำอีกคัน กำลังตรวจสอบความชัดเจนว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่


ตร.คุมตัวสาวรับจ้างเฝ้าไข้ “เสี่ยแป้ง” สอบ
เมื่อวานนี้ (23 ต.ค.) ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช นำตัว น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม หญิงสาวที่รับจ้างเฝ้าไข้เสี่ยแป้ง มาสอบสวน น.ส.วิลาวัลย์ ให้การเป็นประโยชน์ต่อคดีมาก โดยเฉพาะขั้นตอนการเข้าถึงตัวเสี่ยแป้งและลูกน้อง ส่วนผู้เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ มีด้วยกัน 3 คน คือ นายจิรวุฒิ หรือ บอย, นายจักรี หรือบิ๊ก , และ น.ส.ยุวเรศ หรือหมวย แบ่งหน้าที่กันทำ

น.ส.วิลาวัลย์ ให้ข้อมูลว่า “เสี่ยแป้ง นาโหนด” นำโทรศัพท์มือถือของเธอไปใช้ เพื่อประสานงานให้มีการหลบหนี หากสำเร็จจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 2 แสนบาท และให้บ้านที่ จ.ภูเก็ต อีก 1 หลัง แต่ที่ได้จริงตอนนี้คือเงิน 2,000 บาท ที่ น.ส.ยุวเรศ หรือหมวย โอนให้เท่านั้น

น.ส.วิลาวัลย์ ยังให้ข้อมูลสำคัญกับเจ้าหน้าที่ว่า เสี่ยแป้งใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจ โดยทำในผ้าห่มคืนวันที่ 20 ตุลาคมแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ วันรุ่งขึ้นได้แจ้งผู้คุมขอเปลี่ยนโซ่ ปรากฏว่าผู้คุมได้นำโซ่มาเปลี่ยนให้ จนกระทั่งตอนดึกคืนวันที่ 21 ตุลาคม นายจิรวุฒิ หรือบอย ทำทีมาเฝ้าอยู่ด้วย โดยปะปนกับญาติคนอื่นๆ แบบเนียนๆ และได้ลงไปรับกุญแจ จากนายจักรี ด้านล่างแล้วนำมาส่งให้ หลังจากนั้นนายเชาวลิตได้ใช้ผ้าห่มคลุมทับ และไขจนสำเร็จ แล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้ารีบหนีลงข้างล่างทันที ส่วนตนเองนั้นด้วยความตกใจยังอยู่ด้านบน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ทราบเรื่อง


จากนั้นหลังเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนพบพยานหลักฐานบุคคลที่ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนให้เสี่ยแป้ง หลบหนีแล้ว จึงยื่นคำร้องขอออกหมายจับ 4 คน ประกอบด้วย บุคคลที่ติดต่อว่าจ้าง, เฝ้าไข้, จัดหาอุปกรณ์, ยานพาหนะหลบหนี ประกอบด้วย 1.น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม 2.นายจักรี หรือบิ๊ก 3.นายจิรวุฒิ หรือบอย และ 4.น.ส.ยุวเรศ หรือหมวย ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ควบคุมนักโทษ อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล หากมีพยานหลักฐานเกี่ยวข้องในการกระทำผิด จะต้องดำเนินคดีในทางอาญาเช่นกัน

ค้น 4 เป้าหมายเอี่ยวช่วย “เสี่ยแป้ง” หนี
ตำรวจจากหลายหน่วยงานระดมกำลังตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่ามีส่วนร่วมในการให้ช่วยเหลือเสี่ยแป้งหลบหนี 4 เป้าหมาย โดยจุดที่ 1 เป็นการเข้าตรวจค้นบ้านของเสี่ยแป้ง แต่ผลการตรวจค้นไม่พบตัวเสี่ยแป้ง และสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด ส่วนจุดที่ 2 เป็นการเข้าตรวจค้นบ้านพักของนางสาวยุวเรศ หรือหมวย ใน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ผู้ต้องหาในการร่วมกันพาเสี่ยแป้งหลบหนี เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการวางแผนและพาเสี่ยแป้งหลบหนีแต่อย่างใด

สำหรับจุดที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายจักรี (บิ๊ก) อ.เมืองพัทลุง แต่ไม่พบตัวนายจักรีแต่อย่างใด และการค้นจุดที่ 4 เป็นการค้นบ้านพักนายเบญจา ใน อ.กงหรา โดยพบนายเบญจา อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว นายเบญจา บอกกับตำรวจว่าโชคดีที่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เสียก่อน จึงไม่ได้มีส่วนร่วมในคดีดังกล่าว ทราบภายหลังว่ามีคนติดต่อให้ร่วมในคดีดังกล่าว ซึ่งตำรวจจะสอบปากคำตามขั้นตอนต่อไป

พบรถพา “เสี่ยแป้ง” หนี จอดทิ้งใกล้ท่าเรือติดมาเลย์
ตำรวจชุดไล่ล่าพบรถยนต์คันที่พา “เสี่ยแป้ง” หลบหนีจาก รพ. ถูกจอดทิ้งไว้ใกล้ท่าเรือแห่งหนึ่งใน จ.สตูล ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับมาเลเซีย ทำให้คาดว่า เสี่ยแป้ง พร้อมคนช่วยเหลือ น่าจะหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ล่าสุดมีข้อมูลยืนยันจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่ายังอยู่ในไทย

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการด่วนให้ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เร่งรัดติดตามจับกุมเสี่ยแป้ง รวมทั้งดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาดทุกราย เพราะถือเป็นคดีอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้กำชับไปยังตำรวจฝ่ายปฏิบัติทุกนาย ให้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ ตามหลักยุทธวิธี คนร้ายถือเป็นผู้ต้องหาสำคัญ เคยยิงต่อสู้ตำรวจมาแล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส