ราชทัณฑ์ตั้งกรรมการสอบคนช่วย “เสี่ยแป้ง” หนี

24 ต.ค. – กรมราชทัณฑ์ ตั้งกรรมการสอบคนช่วย “เสี่ยแป้ง” หนี ตำรวจพบรถพา “เสี่ยแป้ง” หนีจอดทิ้งใกล้ท่าเรือติดมาเลย์ ด้านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ยันยังอยู่ในไทย ผบ.ตร. สั่งเร่งติดตามจับกุม ดำเนินคดีเด็ดขาด ขณะที่เมื่อวานนี้ ค้นเป้าหมาย 4 จุด ควบคุมผู้ต้องหาเอี่ยวช่วย “เสี่ยแป้ง” หนี ได้แล้ว 2 ราย


ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม กรมราชทัณท์นำตัว “เสี่ยแป้ง” ออกมารักษาทันตกรรม หรือฟัน นอกเรือนจำตามนัด แต่แพทย์ได้เลื่อนนัด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์กำลังจะคุมตัวกลับ ปรากฏว่า เสี่ยแป้งทำทีเป็นวูบหมดสติ แขนขาอ่อนแรง ทำให้ต้องส่งตัวเข้าแอดมิดที่ชั้น 6 รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช จนต่อมาช่วงกลางดึกวันที่ 22 ตุลาคม กล้องวงจรปิดจับภาพเห็นเสี่ยแป้ง เดินออกมาลิฟต์โรงพยาบาล โดยไม่มีพันธนาการใดๆ หลังออกจากลิฟต์แล้ว มีรถมารับพาหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่เชื่อว่าการหลบหนีของเสี่ยแป้ง เตรียมการล่วงหน้าหลายวันแล้ว จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเบื้องต้น พบผู้เกี่ยวข้อง 4 คนที่คอยช่วยเหลือในการหลบหนี ใช้รถยนต์อย่างน้อย 2 คัน คือ กระบะมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียนพัทลุง ขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นรถของมารดาของหนึ่งในผู้ช่วยเหลือ “เสี่ยแป้ง” พาหลบหนี อีกคันเป็นรถอีซูซุสีขาว และยังมีรถเก๋งต้องสงสัยสีดำอีกคัน กำลังตรวจสอบความชัดเจนว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่


ตร.คุมตัวสาวรับจ้างเฝ้าไข้ “เสี่ยแป้ง” สอบ
เมื่อวานนี้ (23 ต.ค.) ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช นำตัว น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม หญิงสาวที่รับจ้างเฝ้าไข้เสี่ยแป้ง มาสอบสวน น.ส.วิลาวัลย์ ให้การเป็นประโยชน์ต่อคดีมาก โดยเฉพาะขั้นตอนการเข้าถึงตัวเสี่ยแป้งและลูกน้อง ส่วนผู้เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ มีด้วยกัน 3 คน คือ นายจิรวุฒิ หรือ บอย, นายจักรี หรือบิ๊ก , และ น.ส.ยุวเรศ หรือหมวย แบ่งหน้าที่กันทำ

น.ส.วิลาวัลย์ ให้ข้อมูลว่า “เสี่ยแป้ง นาโหนด” นำโทรศัพท์มือถือของเธอไปใช้ เพื่อประสานงานให้มีการหลบหนี หากสำเร็จจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 2 แสนบาท และให้บ้านที่ จ.ภูเก็ต อีก 1 หลัง แต่ที่ได้จริงตอนนี้คือเงิน 2,000 บาท ที่ น.ส.ยุวเรศ หรือหมวย โอนให้เท่านั้น

น.ส.วิลาวัลย์ ยังให้ข้อมูลสำคัญกับเจ้าหน้าที่ว่า เสี่ยแป้งใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจ โดยทำในผ้าห่มคืนวันที่ 20 ตุลาคมแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ วันรุ่งขึ้นได้แจ้งผู้คุมขอเปลี่ยนโซ่ ปรากฏว่าผู้คุมได้นำโซ่มาเปลี่ยนให้ จนกระทั่งตอนดึกคืนวันที่ 21 ตุลาคม นายจิรวุฒิ หรือบอย ทำทีมาเฝ้าอยู่ด้วย โดยปะปนกับญาติคนอื่นๆ แบบเนียนๆ และได้ลงไปรับกุญแจ จากนายจักรี ด้านล่างแล้วนำมาส่งให้ หลังจากนั้นนายเชาวลิตได้ใช้ผ้าห่มคลุมทับ และไขจนสำเร็จ แล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้ารีบหนีลงข้างล่างทันที ส่วนตนเองนั้นด้วยความตกใจยังอยู่ด้านบน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ทราบเรื่อง


จากนั้นหลังเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนพบพยานหลักฐานบุคคลที่ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนให้เสี่ยแป้ง หลบหนีแล้ว จึงยื่นคำร้องขอออกหมายจับ 4 คน ประกอบด้วย บุคคลที่ติดต่อว่าจ้าง, เฝ้าไข้, จัดหาอุปกรณ์, ยานพาหนะหลบหนี ประกอบด้วย 1.น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม 2.นายจักรี หรือบิ๊ก 3.นายจิรวุฒิ หรือบอย และ 4.น.ส.ยุวเรศ หรือหมวย ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ควบคุมนักโทษ อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล หากมีพยานหลักฐานเกี่ยวข้องในการกระทำผิด จะต้องดำเนินคดีในทางอาญาเช่นกัน

ค้น 4 เป้าหมายเอี่ยวช่วย “เสี่ยแป้ง” หนี
ตำรวจจากหลายหน่วยงานระดมกำลังตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่ามีส่วนร่วมในการให้ช่วยเหลือเสี่ยแป้งหลบหนี 4 เป้าหมาย โดยจุดที่ 1 เป็นการเข้าตรวจค้นบ้านของเสี่ยแป้ง แต่ผลการตรวจค้นไม่พบตัวเสี่ยแป้ง และสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด ส่วนจุดที่ 2 เป็นการเข้าตรวจค้นบ้านพักของนางสาวยุวเรศ หรือหมวย ใน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ผู้ต้องหาในการร่วมกันพาเสี่ยแป้งหลบหนี เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการวางแผนและพาเสี่ยแป้งหลบหนีแต่อย่างใด

สำหรับจุดที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายจักรี (บิ๊ก) อ.เมืองพัทลุง แต่ไม่พบตัวนายจักรีแต่อย่างใด และการค้นจุดที่ 4 เป็นการค้นบ้านพักนายเบญจา ใน อ.กงหรา โดยพบนายเบญจา อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว นายเบญจา บอกกับตำรวจว่าโชคดีที่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เสียก่อน จึงไม่ได้มีส่วนร่วมในคดีดังกล่าว ทราบภายหลังว่ามีคนติดต่อให้ร่วมในคดีดังกล่าว ซึ่งตำรวจจะสอบปากคำตามขั้นตอนต่อไป

พบรถพา “เสี่ยแป้ง” หนี จอดทิ้งใกล้ท่าเรือติดมาเลย์
ตำรวจชุดไล่ล่าพบรถยนต์คันที่พา “เสี่ยแป้ง” หลบหนีจาก รพ. ถูกจอดทิ้งไว้ใกล้ท่าเรือแห่งหนึ่งใน จ.สตูล ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับมาเลเซีย ทำให้คาดว่า เสี่ยแป้ง พร้อมคนช่วยเหลือ น่าจะหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ล่าสุดมีข้อมูลยืนยันจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่ายังอยู่ในไทย

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการด่วนให้ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เร่งรัดติดตามจับกุมเสี่ยแป้ง รวมทั้งดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาดทุกราย เพราะถือเป็นคดีอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้กำชับไปยังตำรวจฝ่ายปฏิบัติทุกนาย ให้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ ตามหลักยุทธวิธี คนร้ายถือเป็นผู้ต้องหาสำคัญ เคยยิงต่อสู้ตำรวจมาแล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

เลขาฯ เพื่อไทย ยัน นายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา

กทม. 21 มิ.ย.-เลขาฯ พรรคเพื่อไทย ยืนยันนายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา หลังงบฯ 69 ผ่านวาระสาม ตามที่มีกระแสข่าว เดินหน้าทำงานแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ภาษีทรัมป์ และนโยบายต่างๆ ขออย่าให้การเมืองมาบดบังเป้าหมายสำคัญ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลฯ ว่า “จากกระแสข่าวลือที่ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจตอบรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองบางพรรค ด้วยการลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระที่สามนั้น ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันกับพวกเราชัดเจนว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในมิติการทูตและด้านความมั่นคง รวมถึงปัญหาวิกฤตภาษีทรัมป์ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันการเจรจาอย่างจริงจัง และได้รับการตอบรับอย่างดีจากคู่เจรจา รัฐบาลยังมุ่งมั่นใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จนครบวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันนโยบายที่วางไว้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ -การเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติด-การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น-มาตรการลดค่าครองชีพ ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย-การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่-การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (man-made destination) […]

เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชาติดเชื้อในกระแสเลือด

จันทบุรี 21 มิ.ย. – น้ำใจคนไทย! เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชา วัย 67 ปี ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ส่งรักษา รพ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ 20 มิ.ย. เวลา 21.00 น. กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด (กปช.จต.) โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ชุดเคลื่อนที่เร็วทหารผ่านนาวิกโยธินที่ 4 (ชค.ทพ.นย.4) หมวดอาวุธสนับสนุนที่ 4 จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ได้รับการประสานจาก นปพท.จันทบุรี ให้อำนวยความสะดวกในการผ่านแดนให้กับนางหยาง ทัช อายุ 67 ปี ผู้ป่วยฉุกเฉินชาวกัมพูชา พร้อมผู้ร่วมเดินทาง รวมจำนวน 4 คน เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิต มีไข้สูง หนาวสั่น และปวดศีรษะรุนแรง เพื่อไปรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพจันทบุรี เนื่องจากทาง รพ.กัมพูชา ไม่สามารถรักษาได้ เพราะเครื่องมือทางการแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ไม่มี จึงขอประสานส่งตัวที่บริเวณสะพานคลองตะเคียน […]

แบ่งงานรองนายกฯ ใหม่ หลัง ภท. ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – นายกฯ ลงนามคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯใหม่ หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล “ภูมิธรรม” กำกับดูแล “มหาดไทย” ไร้ชื่อ “พีระพันธุ์” กำกับงานส่วนไหนเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 184/2568 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 มิ.ย.68 โดยรายละเอียดในคำสั่งมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รวมทั้งราชการของราชบันฑิตยสภา) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐนตรี มอบอำนาจให้กำกับบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัมนตรี มอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ […]

“ฮุนเซน” เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้ กระทบตัวเอง

กัมพูชา 21 มิ.ย.-“ฮุนเซน” โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้กัมพูชา จะกระทบบริษัทของไทยเอง ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก เฟซบุ๊ก “ฮุนเซน” เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ผ่านมา โพสต์ข้อความที่แปลเป็นภาษาไทยว่า เกมแห่งการคุกคามที่อาจนำไปสู่การทำลายตัวเอง วันนี้ พรรคฝ่ายค้านของไทยได้เสนอให้รัฐบาลไทยหยุดขายน้ำมันให้กับกัมพูชา เพื่อกดดันให้กัมพูชายอมจำนน ในการนี้ เราขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชาจะไม่ล้มเหลวเพียงเพราะไม่ได้ซื้อน้ำมันจากประเทศไทย ในทางกลับกัน อาจเป็นบริษัท PTT ของไทยเองที่ต้องเผชิญกับผลกระทบ คุณต้องการให้บริษัท PTT ของไทยล่มสลายใช่หรือไม่? ถ้าคุณต้องการเช่นนั้น ก็จงเดินหน้าต่อไปตามแผนของคุณ กัมพูชาพร้อมแล้วที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่คุณใช้คุกคามเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า แรงงาน และตอนนี้น้ำมันก็ถูกใช้เป็นอาวุธอีกหนึ่งอย่างในเกมนี้ ในอดีตคุณเคยดูถูกและเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชา ใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือต่อรอง แต่เมื่อเราประกาศว่าจะรับแรงงานกลับประเทศ คุณก็เปลี่ยนท่าทีทันที กลับมาปลอบโยนและดูแลแรงงานเหล่านั้น ทำไม? เพราะถ้าแรงงานกัมพูชาถอนตัวจากโรงงาน ฟาร์ม บริษัท และไซต์ก่อสร้าง ธุรกิจจำนวนมากในไทยอาจต้องปิดตัวลงเพราะขาดแรงงาน หากคุณกล้าจริง ก็ลองไล่แรงงานกัมพูชาออกให้หมด แล้วมาดูกันว่าจะกระทบเศรษฐกิจไทยแค่ไหน น้ำมันก็เช่นเดียวกัน ลองดูได้เลย แต่อย่าลืมปรึกษาบริษัท PTT ของไทยก่อน เพราะนั่นอาจหมายถึงการทำลายธุรกิจของพวกเขา […]