ก.ยุติธรรม ยันแพทย์วินิจฉัยแล้ว “ทักษิณ” จำเป็นต้องผ่าตัดด่วน

24 ต.ค. – รองปลัด ก.ยุติธรรม ระบุแพทย์โรงพยาบาลตำรวจวินิจฉัยแล้ว “ทักษิณ” จำเป็นต้องผ่าตัดเร่งด่วนกระดูกและข้อ พร้อมประเมินหลังผ่าตัดจำเป็นต้องพักฟื้นรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจต่อเนื่องหรือไม่


นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยความคืบหน้าอาการของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี หลังเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลตำรวจเมื่อวานนี้ (23 ต.ค.) ระบุว่าได้รับรายงานเบื้องต้นจากผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่าเป็นการผ่าตัดเกี่ยวกับข้อและกระดูก ส่วนเป็นการผ่าตัดอวัยวะบริเวณใดขอให้สอบถามจากผู้บัญชาการเรือนจำฯ แต่จากรายละเอียดอดีตนายกรัฐมนตรีป่วยหลายโรค เนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ เช่น โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และมือ-แขนอ่อนแรง ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นตามวัย และเกิดจากโรคประจำตัว

ซึ่งการผ่าตัดข้อและกระดูกของอดีตนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องมาจากแพทย์โรงพยาบาลตำรวจรายงานไปยังผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่ามีความจำเป็นต้องผ่าตัดเร่งด่วน ทางราชทัณฑ์จึงพิจารณาให้ได้รับโอกาสในการรักษาเพื่อสุขอนามัยที่ดีขึ้น ซึ่งการได้สิทธิ์ในการพักรักษาอาการเจ็บป่วยในโรงพยาบาลภายนอกจะมีการประสานกันระหว่างราชทัณฑ์กับทางโรงพยาบาลภายนอก ถึงความจำเป็นในการรักษาตัวกับโรงพยาบาลภายนอก หรือสามารถนำกลับมารักษาที่เรือนจำได้โดยจะประเมินจากการวินิจฉัยของแพทย์เป็นหลัก


ส่วนหลังการผ่าตัดนายทักษิณ จะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลตำรวจอีกกี่วันอยู่ระหว่างการประสานรายละเอียด โดยประเมินจากสภาพร่างกายและอาการเจ็บป่วยของนายทักษิณ เป็นสำคัญ

พร้อมย้ำว่าการรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้ต้องขังกับโรงพยาบาลภายนอก เป็นไปตามสิทธิ์ที่ผู้ต้องขังทุกคนที่มีโอกาสได้รับเท่าเทียมกัน กรณีคุณทักษิณ จะต้องนอนโรงพยาบาลตำรวจอีกกี่วันขึ้นกับสภาพของโรคที่ผ่าตัดว่าคลี่คลายหรือยัง หรือยังต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อใดที่อาการเจ็บป่วยจากการรักษาดีขึ้น กรมราชทัณฑ์ก็พร้อมรับตัวผู้ต้องขังทุกคนกลับมาควบคุมไว้ที่เรือนจำ นอกจากนี้ย้ำว่ากรมราชทัณฑ์คำนึงถึงการเข้าถึงบริการของภาครัฐของผู้ต้องขังทุกคน โดยจะไม่ไปขัดขวางสิทธิการรักษา ที่ผ่านมาไม่ว่าผู้ต้องขังจะรวยหรือจน เจ็บป่วยด้วยโรคอะไร เช่น โรคปอด โรคไต ก็ได้รับการบริการที่ไม่แตกต่างกับประชาชนทั่วไป โดยมีโรงพยาบาลแม่ข่าย และโรงพยาบาลตำรวจที่มีการทำ MOU หรือข้อตกลงความร่วมมือกันไว้. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทีมกู้ภัยเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายแผ่นดินไหวเมียนมา

ทีมกู้ภัยยังเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา แม้จะผ่านมา 4 วันแล้ว จนกลิ่นศพเริ่มคละคลุ้งไปทั่ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตใกล้แตะหลัก 3,000 ราย

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่ม

ปูพรมค้นหาทุกจุด ตึก สตง.ถล่ม

ปฏิบัติการปูพรมทุกจุด ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม ได้กลิ่นค่อนข้างแรง พบลักษณะคล้ายน้ำเหลืองและคราบเลือดในโซน B แต่ก็ยังไม่สามารถทลายปูนและตัดเหล็กเข้าไปได้

ไทยตอนบนอากาศร้อนและร้อนจัดบางพื้น มีฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อน และร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือและภาคกลาง ฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง

“อนุทิน” เผยยังไม่สรุปสาเหตุตึก สตง.ถล่ม ต้องรอตรวจสอบเชิงลึก

“อนุทิน” ระบุยังไม่สรุปสาเหตุตึก สตง. ถล่ม บอกต้องรอตรวจสอบเชิงลึก ชี้สภาพหน้างานตอนนี้ยังเก็บหลักฐานไม่ได้ อยู่ระหว่างกู้ภัย คาดใช้เวลาอีกเป็นเดือน

คุมตัวผัวเมียชิงทอง 8 บาท ย่านบางพลี ทำแผนฯ

ตำรวจคุมตัวสามีภรรยา ชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังร่วมกันก่อเหตุชิงทอง 8 บาท ร้านทองย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ อ้างต้องการเงินไปเป็นเจ้าภาพงานบุญผ้าป่า หลังสัญญากับทางวัดไว้