จ่อออกหมายจับชาวเมียนมา สั่งกดเงินจากบัญชีม้าที่หลอกขายมือถือให้เยาวชน

กรุงเทพฯ 20 ต.ค. – ตำรวจ สอท.จ่อออกหมายจับชาวเมียนมา สั่งการให้คนกดเงินจากบัญชีม้าที่หลอกขายโทรศัพท์มือถือให้นักเรียน ม.6 ใน จ.นครศรีธรรมราช พบแผนประทุษกรรมจ้างเยาวชนเปิดบัญชีม้าให้ควบคุมง่าย


ความคืบหน้าคดีหลอกขายโทรศัพท์มือถือให้เด็กวัย 19 ปี นักเรียนชั้น ม.6 ใน จ.นครศรีธรรมราช แต่ไม่ส่งของ ทำให้เกิดความเครียดจนผูกคอเสียชีวิต หลังจากก่อนหน้านี้ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหารวม 4 ราย ในข้อหาฉ้อโกง และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมทั้งนางสาวดอกแก้ว อายุ 23 ปี เป็นบัญชีม้าแถวหนึ่ง รับโอนเงินจากผู้เสียชีวิตได้ และวานนี้จับกุมผู้ร่วมขบวนการได้อีก 3 คน คือ น.ส.รัตนพร อายุ 18 ปี บัญชีม้าแถวที่ 3 นายธีรวัฒน์ อายุ 19 ปี บัญชีม้าแถวที่ 4 และ น.ส.ณัฎฐนิชา อายุ 39 ปี คนกดเงิน ได้ในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมของกลางสมุดบัญชีธนาคาร, บัตรเอทีเอ็ม และโทรศัพท์มือถือ

ล่าสุด วันนี้ (20 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.รัตนพร, นายธีรวัฒน์ และ น.ส.ณัฎฐนิชา มาสอบสวนต่อที่กองบังคับตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 โดยมี พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผู้บังคับการ สอท.5 ร่วมสอบปากคำ พร้อมเปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รับสารภาพ โดยเยาวชนที่เปิดบัญชีม้าให้การว่าได้ค่าจ้างจากการเปิดบัญชีละ 3,000 บาท ส่วนคนกดเงินได้รับการว่าจ้างจากชาวเมียนมา ผ่านทางเฟซบุ๊ก ให้นำโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งแอปฯ ธนาคาร ไปกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ห่างชายแดน อ.แม่สาย ประมาณ 4 กิโลเมตร โดยเป็นการกดแบบไม่ใช้บัตรเอทีเอ็ม แล้วนำไปส่งให้ผู้บงการที่ชายแดนด่านแม่สาย ได้ค่าจ้างกดเงินครั้งละ 300-500 บาท ทำมาแล้วประมาณ 1 เดือน โดยแต่ละครั้งจะกดเงินตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน ยอดล่าสุดที่กดเงินออกไปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา คือ 104,000 บาท เชื่อว่ายอดรวมที่กดเงินออกจากบัญชีน่าจะเกือบ 1 ล้านบาท


ทั้งนี้จากการสอบสวนยังทราบแผนประทุษกรรมว่าเครือข่ายนี้เป็นการขายสินค้าไอทีราคาถูก ซึ่งต่างจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผู้บงการอยู่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และจะจ้างคนเปิดบัญชีม้าอยู่ในบริเวณชายแดนเพื่อให้ควบคุมได้ง่าย โดยบัญชีม้าแถว 1 จะใช้วิธีเปิดบัญชีออนไลน์ ส่วนบัญชีม้าแถว 2-4 จะใช้เยาวชนในพื้นที่ให้ควบคุมได้ง่าย ขณะที่แอดมินเพจที่สนทนาหลอกลวงขายสินค้า เชื่อว่าน่าจะเป็นคนไทยที่เข้าออกชายแดน แต่ไปก่อเหตุหลอกลวงจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพราะมีไอพีแอดเดรสอยู่ฝั่งเมียนมา

ส่วนจะมีผู้บงการอยู่นอกเหนือชาวเมียนมาที่มารับเงินหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานขยายผล โดยยังไม่ตัดประเด็นขบวนการจีนเทาอยู่เบื้องหลัง ซึ่งแม้จะเป็นชาวต่างชาติอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ตำรวจก็จะต้องออกหมายจับ และขอออกหมายแดงของตำรวจสากล เพื่อประสานขอความร่วมมือตำรวจเมียนมาช่วยในการติดตามตัวมาดำเนินคดี

สำหรับขบวนการนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 5 คน คนแรกคือ นางสาวดอกแก้ว ที่ฝากขังไปแล้วเมื่อวานนี้ ผู้ต้องหา 3 คน ที่นำตัวมาสอบสวนวันนี้ และคาดว่าจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาภายในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคมนี้ ส่วนนางสาวศิริพร ที่เป็นบัญชีม้าอีกคน ที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ ยังอยู่ในระหว่างหลบหนี ส่วนผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่จัดหาบัญชีม้าที่ถูกจับกุมได้ที่เชียงราย 1 คน จะถูกส่งดำเนินคดีที่จังหวัดเชียงราย ฐานความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า ตาม พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

เขากระโดง

“อนุทิน” ยัน เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ไม่เคยขัดแย้งปมเขากระโดง

“อนุทิน” ย้ำพรรคร่วมรัฐบาลมีเป้าหมายเหมือนกัน ทำประโยชน์ให้ประชาชน-ประเทศ หลัง “ทักษิณ” ชมพรรคร่วมสามัคคีกันดี ยันเพื่อไทย-ภูมิใจไทย ไม่เคยขัดแย้งปมเขากระโดง ขอคนไม่อยู่ในวงอย่าคาดคะเน ชี้ไม่มีเหตุผลต้องปกป้องผลประโยชน์ใคร โอดกว่าจะนั่งคุม มท. แทบตาย ไม่ให้ใครมาด่าสาดเสียเทเสีย

สนามบินสุวรรณภูมิ

ยูเนสโก ยกย่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” 1 ใน 6 สนามบินสวยสุดในโลก

“สุริยะ” รมว.คมนาคม ปลื้ม ยูเนสโก ยกย่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ติดอันดับ 1 ใน 6 สนามบินสวยที่สุดในโลก ประจำปี 2567 ด้าน “อาคาร SAT-1” สุดปัง! หลังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสนามบินที่มีสถาปัตยกรรมสวยที่สุดของโลก โชว์ความโดดเด่นด้านความงาม-ความคิดสร้างสรรค์ ชูอัตลักษณ์ความเป็นไทย จ่อประกาศผล 2 ธ.ค.นี้

รฟท. คัดค้านคำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินทับซ้อนเขากระโดง

การรถไฟฯ ลุยยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน คัดค้านคำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ที่ดินทับซ้อนเขากระโดง ย้ำปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โปร่งใสและเป็นธรรม