กรุงเทพฯ 16 ต.ค. – ตำรวจสืบนครบาล 6 รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่เป็นสายโทรเข้าที่ 2 โดยแสดงตนเป็นตำรวจหลอกเหยื่อ สูญเงินหลายล้านบาท
ตำรวจสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 นำกำลังจับกุมตัวนายไชยนันท์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าสถานีขนส่งหมอชิต เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (15 ต.ค.66)
การจับกุมสืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2565 นายไชยนันท์ได้รับการติดต่อจากเพื่อนให้ไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เดินทางโดยใช้เส้นทางธรรมชาติ ต้องเสียค่าเข้า 3,500 บาท ต่อการผ่านแดน 1 ครั้ง ซึ่งจะมีนายหน้าเป็นชายชาวกัมพูชาพาข้าม
โดยก่อนจะทำหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ ต้องฝึกวิธีการหลอกจนชำนาญจึงจะได้ทำหน้าที่เป็นสายโทรเข้าที่ 2 โดยแสดงตัวเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งแต่ละวันมีสายติดต่อนายไชยนันท์ประมาณวันละ 10 สาย ได้ค่าจ้างประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีคอมมิชชั่นจากการหลอกผู้เสียหายอีก 3% หลังจากการหักให้บัญชีม้าไปแล้ว ซึ่งเดือนที่ผู้ต้องหาทำยอดได้สูงสุดต่อเดือนประมาณ 5 ล้านบาท
สำหรับขั้นตอนการหลอกเหยื่อ
1.สายที่ 1 จะได้เบอร์จากการยิงแอดเพื่อหาข้อมูลผู้เสียหาย เมื่อได้เบอร์มาแล้วจะโทรไปหลอกผู้เสียหายโดยแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งสินค้าข้ามประเทศ
2.ระบบจะโอนสายมายังสายที่ 2 ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อยเวรประจำโรงพัก อ้างว่ารับคดีออนไลน์ และคุยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหาย เลขบัญชีที่ถืออยู่
3.สายที่ 3 จะทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสารวัตรขึ้นไป โดยขู่ให้โอนเงินมาเพื่อตรวจสอบ ถ้าไม่โอนจะอายัดบัญชี และจะต้องโทษตามกฎหมาย
จากการสอบสวน นายไชยนันท์ ผู้ต้องหายอม รับว่าทำหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์มาแล้วปีกว่าๆ กระทั่งถูกจับกุม อีกทั้งยังให้การรับสารภาพว่ามีชายชาวจีนชื่อมิงตู้ เป็นเจ้าของเครือข่าย ดูแลพนักงานที่ปอยเปตทั้งหมด
เบื้องต้นชุดจับกุมพบข้อมูลว่านายไชยนันท์ยังเป็นผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับคดีเดียวกัน ซึ่งออกหมายจับโดยศาลจังหวัดสระแก้ว เมื่อปี 2565 .-สำนักข่าวไทย