สุดอาลัย เผาร่าง “น้องตะวัน” แรงงานเมียนมา

กทม. 8 ต.ค.-สุดอาลัย เผาร่าง “น้องตะวัน” แรงงานเมียนมาเหยื่อเด็ก 14 ปี ยิงเสียชีวิต แม่ร้องไห้หมดแรงส่งลูกครั้งสุดท้าย ด้าน พ.ต.ท.ทวี แสดงความเสียใจครอบครัว ขณะรัฐบาล-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอบเงินเยียวยา 6.2 ล้านบาท นายจ้างยันจะส่งเสียแม่เดือนละ 10,000 บาท

บรรยากาศวันฌาปนกิจศพของนางสาวโมมิน หรือน้องตะวัน หญิงชาวเมียนมาที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงในห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา บริเวณ ศาลา 2 วัดผาสุกมณีจักร เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและอาลัย ของครอบครัว ญาติสนิท เพื่อนร่วมงาน และนายจ้างที่เดินทางมาร่วมร่วมส่งน้องตะวันเป็นครั้งสุดท้าย โดยในวันการจัดงานฌาปนกิจในวันนี้มีกระทรวงยุติธรรมเป็นเจ้าภาพ


โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธี ได้ถวายสังฆทาน และผ้าบังสุกุล แก่พระสงฆ์จำนวน10 รูป โดยมี นางคฮิน วิน (khin win) แม่น้องตะวัน พร้อมด้วย นาย อู ชิต สเว (H.E. U Chit Swe) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย และภรรยา รวมถวายผ้าบังสุกุลด้วย จากนั้นพระสงฆ์จำนวน 10 รูป ได้ทำพิธีสวดมาติกาบังสุกุล และสวดบำเพ็ญกุศลในกับน้องตะวัน

ซึ่งในระหว่างเพื่อนร่างของน้องตะวัน ออกจากโรงเย็น เพื่อนำขึ้นสู่ฌาปนสถานนางคฮิน วิน ได้ร้องไห้ด้วยเสียใจจนเกือบจะเป็นลม ญาติต้องพามานั่งพักให้อาการดีขึ้น ระหว่างนำร่างน้องตะวันวนรอบเมรุมาศ ก่อนเข้าสู่พิธีฌาปนกิจ โดยมีการธงประจำกลุ่มชาติพันธุ์ปะโอ ชนเผาของน้องตะวันมาคลุมบนโรงศพด้วย ขณะเดียวกันยังมีสมาชิกจากกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 200 คน สวมชุดประจำชาติของชนเผามาร่วมพิธรฌาปนิกในวันนี้ด้วย แม้จะไม่ได้รู้จักน้องตะวันเป็นการส่วนตัว แต่เมื่อทราบข่าวก็อยากมาส่งเป็ยครั้งสุด


ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรมจะให้ความช่วยเหลือครอบครัวตามกฏหมาย เบื้องต้นจะมอบเงินของกระทรวงยุติธรรมเพื่อชดเชยให้กับครอบครัวจำนวน 200,000บาท ขณะเดียวกันได้รับการประสานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาล ทราบว่าจะมีเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมเป็นจำนวน6ล้านบาท ให้ครอบครัวน้องตะวัน อย่างไรก็ตามเบื้องต้นตัวเองเป็นตัวแทนของนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตยืนยันว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงชาวต่างชาติเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบยังมีคนไทยที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลก็จะดูแลอย่างเต็มที่

สำหรับเรื่องการดำเนินคดี ทางตำรวจก็จะเร่งดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านเพื่อให้เกิดความชัดเจนและจะชี้แจงไปยังทั้งประเทศจีนและเมียนมาให้เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่จนถึงตอนนี้ทั้ง 2 ประเทศไม่ได้ติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในส่วนของกฎหมายไทยได้ให้การคุ้มครองผู้ก่อเหตุที่เป็นเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่จะไม่ได้รับโทษทางอาญา แต่กรณีของเด็กวัย 14 ปี หากศาลเด็กและเยาวชนมีคำสั่งให้คุมประพฤติก็สามารถอยู่สถานพินิจได้จนถึงอายุ 24 ปี ซึ่งรายละเอียดก็อยู่ที่คำพิพากษาของศาล


ส่วนเรื่องการแก้ไขกฎหมาย เรื่องการลดเกณฑ์อายุเยาวชนที่ไม่ต้องรับโทษจาก 1-15 ปี ให้เหลือเพียง 1-12 ปีนั้น พ.ต.อ.ทวี บอกว่า การแก้ไขกฎหมายสามารถทำได้ 2 ส่วนคือการเสนอจากรัฐบาล และการเข้าชื่อกันของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ขอย้ำว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเด็กจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล เนื่องจากไทยเป็นสมาชิกอนุสัญญาของสหประชาชาติ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน

ด้าน น.ส.ศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้กล่าวถึงเรื่องของกระบวนการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุอายุ 14 ปี บอกว่า กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จะมีหน้าที่ในการประเมินข้อเท็จจริง ทั้งตัวเด็กและสภาพของครอบครัว เพื่อนำรายงานต่อศาล ซึ่งตอนนี้ผู้ก่อเหตุวัย 14 ปีอยู่ในช่วงสังเกตุอาการของสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ซึ่งมีการรายงานความคืบหน้าว่าขณะนี้ผู้ก่อเหตุเริ่มหลับได้ดีขึ้น และอยู่ระหว่างการประเมินทางการแพทย์ ส่วนการประเมินสภาพจิตใจต้องรอผลการวินิจฉัยจากแพทย์ ส่วนเรื่องการควบคุมตัว หรือการปล่อยตัวนั้นเป็นอำนาจศาลที่จะตัดสิน

ขณะที่ น.ส.อักษร จันทรโรจน์วานิช นายจ้างของ บริษัท เทค ทอยส์ จำกัด บอกว่า ตอนนี้ในส่วนของทางร้านก็ยังกังวลเรื่องความปลอดภัย หากมีการปล่อยตัวผู้ก่อเหตุวัย 14 ปีจริง เพราะทางร้านยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่ก็ไม่ได้มีการประสานขอการดูแลด้านความปลอดภัยอะไรเป็นพิเศษ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

พร้อมกันนี้นายจ้างของน้องตะวันอีกคน เปิดเผยว่า ตอนนี้ตัวเองรู้สึกสบายใจขึ้นมาก หลังจากเมื่อเช้านี้ได้ไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ที่ร้านภายในศูนย์การค้าสยามพารากอนมายังวัดและได้ทำพิธีส่งให้น้องตะวันไปสู่สุคติ และนายจ้างก็ได้ดูแลคุณแม่ของน้องตะวันอย่างดีที่สุด ทั้งหลังจากนี้นายจ้างจะการจ่ายเงินรายเดือน เดือนละ 10,000 บาท ให้แก่ครอบครัวของน้องตะวัน และ ช่วงนี้จะให้คุณแม่ของน้องตะวันอยู่ที่กรุงเทพฯ ไปก่อนเพื่อรักษาอาการป่วย ส่วนตัวมองว่าคุณแม่เป็นคนมีจิตใจดีมาก เพราะเมื่อวานนี้แม่บอกว่า “แม่มีความทุกข์ แต่แม่โชคดีที่มีลูกเป็นคนดี และเขาก็รู้สึกดีใจ ที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันจัดงานศพให้แก่ลูกสาว” ยอมรับว่าในฐานะนายจ้างตอนแรกรู้สึกเศร้าแต่ตอนนี้แต่ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้นมาก เพราะได้ทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะมีการทำบุญและลอยอังคาร ตามขั้นตอนซึ่งวันที่ 14 ตุลาคมที่จะถึงนี้เป็นวันเกิดของน้องตะวัน พนักงานในบริษัทตกลงกันว่าจะร่วมกันทำบุญ โดยการนำสิ่งของไปบริจาคให้กับเด็กๆ ตามที่น้องตะวันเคยตั้งใจไว้

พร้อมกันนี้ นายจ้าง ยังยอมรับว่าช่วงเกิดเหตุแรกๆ ตอนนั้นรู้สึกโมโหและมีอารมณ์โกรธ ที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวไปว่าจะดำเนินการกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด แม้จะเป็นเด็กก็ตาม แต่เมื่อได้พูดคุยกับแม่ของตะวัน แม่ไม่ได้ติดใจอะไรอีก ตัวเองจึงปล่อยให้เป็นไปตามหน้าที่ของตำรวจ ตามที่แม่ต้องการซึ่งตอนนี้สภาพจิตใจของแม่ดีขึ้นมากแล้ว ตัวเองยังได้บอกกับแม่ว่า ตะวันทำบุญมาแค่นี้ ตะวันเป็นคนดี ก็น่าจะไปอยู่ในที่ที่ดีๆ และสุดท้ายนายจ้างยังบอกด้วยว่า ตอนแรกๆ เป็นใครรก็ช็อก เป็นใครก็ตกใจ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ตอนนี้เวลาได้ผ่านไปแล้ว แต่จิตใจก็ยังย่ำแย่อยู่ตามปกติ

สำหรับเงินชดเชยจากกระทรวงยุติธรรม ที่น้องตะวันจะได้รับตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา รวม 200,000บาท เป็นค่าชดเชยจากกรณีการเสียชีวิต 100,000 บาท ค่าจัดการศพ 20,000 บาท ค่าขาดไร้อุปการะให้ครอบครัว 40,000 บาท และค่าเสียหายอื่นๆ อีก 40,000 บาท ซึ่งถึงแม้น้องตะวันเป็นเป็นคนสัญชาติเมียนมา แต่เมื่อมาเสียชีวิตที่ประเทศไทยก็ต้องได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกันกับคนไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]