นครบาลค้นบ้านเชื่อมโยงเด็ก 14 ก่อเหตุพารากอน

กรุงเทพฯ 5 ต.ค. – ตำรวจขยายผลจากโทรศัพท์มือถือเด็ก 14 เข้าค้นบ้านแหล่งผลิต ดัดแปลงบีบีกัน-แบลงค์กัน ย่านทุ่งครุ พบอุปกรณ์ปืนดัดแปลงและชุดทดสอบการยิง พร้อมกระสุนจำนวนมาก และพบหลักฐาน 2 ชิ้น เชื่อมโยงอาวุธปืนของเด็ก 14


พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจพื้นที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2566 เข้าตรวจค้นทาวน์เฮาส์ ภายในซอยประชาอุทิศ 65 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เพื่อสืบหาความเชื่อมโยงกับคดีเด็กอายุ 14 ปี ก่อเหตุยิงในสยามพารากอน หลังพบเป็นสถานที่ผลิตและดัดแปลงอาวุธปืนบีบีกันและแบลงค์กัน

พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า ตำรวจสืบสวนนครบาล 8 ขยายผลการจับกุมผู้ขายอาวุธปืนผ่านช่องทางออนไลน์มานานกว่า 2 เดือน จนพบว่าสถานที่นี้เป็นที่ผลิตปืนแบลงค์กัน และลำกล้อง รวมถึงแม็กกาซีนบรรจุกระสุน โดยผลการตรวจค้นพบชุดกันเสียง อุปกรณ์การไลฟ์สด และกล่องทดสอบการยิงปืน ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานจะนำไปเปรียบเทียบกับกระสุนปืนที่นำไปใช้ในเหตุยิงที่ห้างพารากอน ว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ จากนั้นจึงจะทราบด้วยว่า ผู้ก่อเหตุขายปืนมานานเพียงใด โดยกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 จะสืบสวนขยายผลต่อว่า ผู้ประกอบปืนรับอุปกรณ์ต่าง ๆ มาจากที่ใด และส่งขายที่ใดบ้าง


ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่มาร่วมตรวจสอบด้วย ระบุว่า การขยายผลตรวจค้นพื้นที่ดังกล่าว ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 และตำรวจพื้นที่ได้เฝ้าติดตามผู้ต้องหาดังกล่าวมานานกว่า 2 เดือนแล้ว แต่ยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นกลุ่มนิรนาม จะเปิดเผยตัวตนเฉพาะในดาร์กเว็บเท่านั้น (กลุ่มขายอาวุธปืนเถื่อน) ซึ่งผู้ต้องหาได้มาเช่าบ้านหลังดังกล่าว ภายในซอยประชาอุทิศ 65 ที่จะมีซอกซอยตันด้านใน และมีเส้นทางเข้าออกเพียงทางเดียว อีกทั้งยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงผู้ต้องหาไม่เคยเปิดเผยตัวตน หรือออกจากบ้านเลย

หลังจากเกิดเหตุยิงในห้างสยามพารากอน ทางตำรวจได้มีการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของเด็กอายุ 14 ปี ทำให้พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มเครือข่ายที่ติดต่อกับเด็กอายุ 14 ปี ตำรวจจึงสบโอกาสเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีรายงานว่า บ้านหลังนี้มีผู้พักอาศัย 2 คน เป็นชาย 1 หญิง 1 ซึ่งทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน แต่ในระหว่างที่ตำรวจนำหมายค้นบ้านหลังดังกล่าว พบเพียงนายวีรยุทธ หรือ โอ๋ ยี่เรือ มีประวัติถูกดำเนินคดีเกี่ยวข้องกับอาวุธปืนเถื่อน เมื่อปี 2558 และออกจากเรือนจำมาเมื่อปี 2562 ก่อนจะหวนกลับมาทำอาชีพเดิมได้ 2 ปี และเปลี่ยนแปลงที่อยู่ปีละครั้ง

จากการตรวจค้นพบของกลางจำนวนมาก ทั้งอุปกรณ์ดัดแปลงปืนเถื่อน อุปกรณ์ทดสอบการยิงที่มีการเก็บเสียงเป็นอย่างดี ทำให้เพื่อนบ้านใกล้เคียงไม่มีใครรู้หรือได้ยินเสียง และตำรวจยังพบหลักฐานสำคัญอย่างน้อย 2 ชิ้น ที่เชื่อมโยงกับอาวุธปืนที่เด็กอายุ 14 ปี ใช้ก่อเหตุ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจน ต้องรอการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ส่วนหัวกระสุนปืนที่ถูกใช้ในการยิงทดลอง ที่ตกอยู่ในบ้าน ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ในการสืบสวน เพราะสามารถนำไปตรวจสอบเทียบเคียงว่าเคยนำไปก่อเหตุที่อื่นหรือไม่


การตรวจค้นครั้งนี้ ตำรวจตรวจยึดอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนชนิดต่างๆ ให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาดต่างๆ ได้ ตลอดจนหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวม 6.02 กรัม รวมสิ่งของที่ตรวจยึด จำนวน 48 รายการ 322 ชิ้น จึงแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปีนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทเเอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”