เจ้าอาวาสวัดบางคลาน มอบอำนาจตำรวจ ปปป.ทวงคืนวัด

พิจิตร 3 ต.ค. – เจ้าอาวาสวัดบางคลาน มอบอำนาจตำรวจ ปปป. แก้ปัญหาข้อพิพาทเดินหน้าทวงคืนวัด หลังถูกกลุ่มบุคคลสกัดกั้นเข้าปฏิบัติหน้าที่ในวัด


พนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.), ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), เจ้าอาวาส และกรรมการวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ร่วมหารือเพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นภายในวัด เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลไม่ยอมให้เจ้าอาวาสและกรรมการวัดชุดใหม่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในวัด

พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาไม่สามารถเข้าไปดำเนินการบริหารวัดได้ เพราะจะมีกลุ่มคนเข้ามาคอยขัดขวาง และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีหน่วยงานของรัฐในพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือ รวมถึงมีนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่สามารถช่วยเหลือให้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ภายในวัดได้ จึงเดินทางมาร้องขอให้ทาง ปปป. เข้ามาช่วยดำเนินการคลี่คลายปัญหานี้ พร้อมกันนี้ ตนเองยังทำหนังสือมอบอำนาจให้ทางผู้บังคับการ ปปป. และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง รับมอบอำนาจในการเข้าไปจัดการทางกฎหมายของทางวัด


เชื่อว่าทางตำรวจ ปปป.จะสามารถช่วยคลี่คลายปัญหาทั้งหมดได้อย่างจริงจัง ที่ผ่านมาเคยมอบอำนาจให้ “สว.กิตติศักดิ์” แต่ต่อมาพบว่าไม่มีการทำอะไรจริงจัง จึงได้ปลดออก รวมถึงที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการช่วยเหลือเจรจา แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ยังเข้าวัดไม่ได้และยังมีการใช้ความรุนแรง จึงห่วงเรื่องความปลอดภัยของทรัพย์สินในวัด เพราะถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบความเสียหายภายในวัดได้ เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลที่ใช้อำนาจในการควบคุมพื้นที่ของวัด และมีการบุกรุกเข้าไปพักอาศัยยึดครองพื้นที่ภายในวัด ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา จนมาถึงปัจจุบัน ในส่วนของเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีการสอบถามเหตุการณ์ตลอดเวลา แต่ยังคงเกิดเหตุบานปลาย เนื่องจากอำนาจของสงฆ์ไม่มี จึงต้องใช้อำนาจของกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เปิดเผยว่า เบื้องต้นการประชุมร่วมในวันนี้ ได้ข้อสรุปว่า เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ทำหนังสือส่งมอบอำนาจให้กับตนเอง เพื่อบังคับใช้กฎหมายในการส่งมอบวัดบางคลานคืน ซึ่งการรับมอบอำนาจในวันนี้จะทำให้ตำรวจ ปปป. มีอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบและทำการส่งคืนสถานที่ให้กับทางอาจารย์ขาว เจ้าอาวาสรูปใหม่ รวมถึงยังเป็นการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านและเจ้าอาวาสรูปใหม่ด้วย

ปัญหาดังกล่าวยืดเยื้อมานานกว่า 7-8 ปี ยังไม่แล้วเสร็จ ในวันนี้จึงมีการประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประชุมร่วมกับทางเจ้าอาวาสวัด โดยมีการประสานมาจากนายอัจฉริยะ เพราะเห็นว่าทางตำรวจ ปปป. เคยมีผลงานในการเข้าไปจัดการการทุจริตเงินภายในวัดห้วยด้วน ที่ในการปฏิบัติการครั้งนั้นสามารถอายัดเงินจากผู้กระทำความผิดคืนให้กับวัดได้กว่า 70 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้ทาง ปปป. โดยตนเองเป็นผู้รับมอบอำนาจในการเข้าไปดำเนินการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคืนพื้นที่วัดให้กับเจ้าอาวาส โดยมีหน่วยงานราชการในพื้นที่ อาทิ นายอำเภอโพทะเล ผู้กำกับการ สภ.โพทะเล และ ป.ป.ท. เป็นผู้ร่วมรับมอบอำนาจครั้งนี้ด้วย


สำหรับการดำเนินการต่อจากนี้จะเป็นการปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากเน้นหาทางออกกับกลุ่มชาวบ้าน รวมถึง “สว.กิตติศักดิ์” หากแก้ปัญหาและหาทางออกจากการเจรจาได้ก็จะเป็นเรื่องดี แต่หากไม่สามารถดำเนินการได้ ปปป.จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด อาทิ นำตำรวจควบคุมฝูงชน ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ เข้ามาบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ หากพบใครบุกรุกจะดำเนินการจับกุมตัวดำเนินคดีทันที รวมถึงตัว สว. หากพบว่าเข้ามาขัดขวางจะต้องถูกดำเนินการทางกฎหมาย เช่นเดียวกับประชาชนทุกคนที่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ส่วนเรื่องเอกสิทธิ์ความเป็น สว. ก็สามารถดำเนินการได้ แต่ทาง ปปป.ยืนยันว่า ดำเนินการใช้กฎหมายกับทุกคนเท่าเทียมกัน เพราะเบื้องต้นส่วนตัวเชื่อว่า การที่ปัญหานี้ไม่จบ แสดงถึงความอ่อนแรงของข้าราชการที่เข้ามาดำเนินการ

ด้าน พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตัวแทน ป.ป.ท. ระบุว่า ป.ป.ท.พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ ปปป. โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนในทุกด้าน เพราะเชื่อว่าถ้าหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจริงจังกับผู้กระทำความผิด ก็จะสามารถเคลียร์ปัญหาเหล่านี้ได้เช่นกัน

ด้านนายอัจฉริยะ ระบุว่า ได้นำรายชื่อของชาวบ้านในจังหวัดพิจิตร จำนวนกว่า 1,000 รายชื่อ ที่สนับสนุนเจ้าอาวาสให้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ และได้มีการพูดคุยกับทางทนายความของเจ้าอาวาส ในการพิจารณาตรวจสอบว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐในพื้นที่มีการเข้าไปช่วยขอคืนพื้นที่ก่อนหน้านี้ เข้าข่ายทำความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย