ตร.ทางหลวง สกัดรถขนยาบ้าเกือบ 2 ล้านเม็ด เตรียมลงใต้

ชุมพร 30 ก.ย.- ตำรวจทางหลวงสกัดจับขบวนการขนยาบ้าลอตใหญ่ลงใต้ รวบ 4 ผู้ต้องหา ยึดยาบ้าเกือบ 2 ล้านเม็ด


พฤติการณ์สืบเนื่องจากตำรวจทางหลวง 4 กก.2 บก.ทล. (ชุมพร) ได้รับแจ้งมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติด จากพื้นที่ภาคกลางนำไปจำหน่ายในพื้นที่ภาคใต้ โดยขบวนการดังกล่าวจะใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะในการขนส่งยาเสพติด  พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. จึงสั่งการให้รถวิทยุทางหลวงไปเฝ้าติดตาม และสกัดจับขบวนการลักลอบขนยาเสพติดดังกล่าว โดยวันที่ 29 กันยายน 2566 บริเวณ ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร ตำรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยตรงกับที่ได้รับแจ้ง จึงเปิดสัญญาณไฟเพื่อให้รถคันดังกล่าวหยุดรถ

จากการตรวจสอบพบ น.ส.ศิวภรณ์ อายุ 28 ปี แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ และมี น.ส.ชมพูนุช อายุ 32 ปี นั่งโดยสารมากับรถคันดังกล่าว ค้นภายในรถพบกระสอบที่ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำ บริเวณเบาะหลังที่นั่งคนขับจำนวน 3 กระสอบ และพบอีกจำนวน 2 กระสอบ อยู่บริเวณท้ายรถเก็บสัมภาระ ตรวจค้นกระสอบดังกล่าว มียาบ้ารวม 1,998,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดยาบ้าดังกล่าวไว้ และเเจ้งข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านวิสัยเหนือ จ.ชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมาย


จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองคน สารภาพว่า เช่ารถยนต์มาจากบริษัทรถเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ขับไปรับยาบ้ามาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.สงขลา ภายหลังการจับกุมยาบ้าในครั้งนี้ ตำรวจ กก.2 บก.ทล. ได้สืบสวนขยายผล จนกระทั่งทราบข้อมูลเพิ่มเติม มีรถยนต์อีก 1 คัน ที่อยู่ในขบวนการลักลอบขนยาเสพติดดังกล่าว ซึ่งทำหน้าที่เป็นรถนำทางให้กับขบวนการขนยาเสพติด

ในวันเดียวกัน 29 ก.ย.66 เวลาประมาณ 17.00 น. พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. และ พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ รรท.สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. พร้อมด้วยตำรวจในสังกัด ร่วมกันสกัดจับรถยนต์คันที่เป็นรถนำทาง ได้บริเวณบนถนนพระราม 2 ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 คน คือ นายสราวุธ หรือเอ็ม อายุ 31 ปี และนายวรพล หรือเบิร์ด อายุ 29 ปี จากการสอบถามผู้ต้องหาทัั้งสองให้การรับสารภาพว่า โดยทำหน้าที่เป็นรถนำทาง และดูต้นทางให้กับรถที่ขนยาเสพติด 

ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ร่วมขบวนการลักลอบขนยาเสพติด หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตำรวจจะเร่งดำเนินการสืบสวนและติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.–สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง