รองผู้การจราจรนำขบวนเปิดทางส่งหัวใจถึงที่หมาย

กรุงเทพฯ 29 ก.ย. – รองผู้การจราจรนำเอง! ตัวอย่าง “สุภาพบุรุษจราจร” นำขบวนตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ เปิดทางส่งหัวใจถึงที่หมาย “ผบ.ตร.-รอง ผบ.ตร.” ชมเชยการปฏิบัติหน้าที่


พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร ได้อำนวยความสะดวกการจราจร เร่งนำส่งอวัยวะหัวใจส่ง รพ.ศิริราช ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 76 โดยมี พ.ต.อ.จิรกฤต จารุณภัทร์ รอง ผบก.จร. เข้าไปรับหัวใจและนำขบวนรถเปิดทางนำส่งด้วยตนเอง

โดยเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 15.40 น. ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ ได้รับการประสานงานขอสนับสนุนนำอวัยวะ ส่งยัง รพ.ศิริราช หลังจากรับแจ้ง พ.ต.อ.จิรกฤต จารุณภัทร์ รอง ผบก.จร. จึงได้นำกำลังตำรวจโครงการพระราชดำริ เข้าสนับสนุน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร เร่งนำส่งอวัยวะหัวใจไปยัง รพ.ศิริราช ทุกครั้งการนำส่งหัวใจนั้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่แข่งกับเวลา เนื่องจากหัวใจทุกดวงมีระยะเวลาตั้งแต่ผ่าตัดหัวใจของผู้บริจาค จนกระทั่งปลูกถ่ายให้ผู้รับนั้นจะต้องกระทำให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 4 ชั่วโมงเท่านั้น (อวัยวะหัวใจหากทำการผ่าตัดออกมาจากร่างกายของผู้บริจาคแล้วจะอยู่ได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง นับจากเวลาที่ปิดทางเดินเลือดในการผ่าตัดหัวใจของผู้บริจาค จนกระทั่งเปิดให้เลือดผ่านหัวใจใหม่ในร่างกายของผู้รับการปลูกถ่าย) จึงมีความจำเป็นต้องใช้ความรวดเร็ว รวมถึงความระมัดระวังในการนำส่งเป็นอย่างยิ่ง พ.ต.อ.จิรกฤต จึงได้นำขบวนเปิดทางการจราจรให้กับรถพยาบาลมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลเป้าหมายทันที ระหว่างทางแม้การจราจรจะติดขัด แต่ผู้ใช้รถใช้ถนนต่างให้ความร่วมมือหลบทางให้กับขบวนรถ ตลอดจนได้รับความร่วมมือจากตำรวจจราจร สน.ท้องที่ ในเส้นทางทุกพื้นที่ จนภารกิจชีวิตในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี


พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวว่า ในห้วงปี 2566 นี้ มีการนำส่งอวัยวะหัวใจ ซึ่งตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ร่วมปฏิบัติภารกิจมาโดยตลอด ในปี้นี้นับเป็นครั้งที่ 14 แล้วที่ร่วมอำนวยความสะดวกในการนำส่งหัวใจ โดย พ.ต.อ.จิรกฤต ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์นำทีมด้วยตนเองถึง 7 ครั้ง โดยทุกครั้งที่ พ.ต.อ.จิรกฤต มีโอกาส เว้นว่างจากการประชุมหรือภารกิจงานอื่นที่สำคัญของ บก.จร. ก็จะเข้าไปรับอวัยวะหัวใจและนำขบวนเปิดเส้นทางด้วยตนเองเช่นนี้ทุกครั้ง ซึ่งการขับขี่รถจักรยานยนต์ใหญ่ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถทำได้ ต้องมีการอบรมและฝึกฝน ซึ่ง พ.ต.อ.จิรกฤต ได้ผ่านการอบรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) ขนาด 500 ซีซี จากศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้ามาแล้ว ทำให้สามารถนำส่งอวัยวะส่งที่หมายจนแพทย์สามารถปลูกถ่ายหัวใจ ต่อชีวิตใหม่ให้กับผู้รับบริจาคได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศจร.ตร. ได้ชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.จิรกฤต และทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพ มีทักษะคล่องแคล่ว ให้ความช่วยเหลือด้วยใจบริการ เป็นที่พึ่งของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตอาสา มีมาตรฐานสากล ตามแนวทางการสร้าง “สุภาพบุรุษจราจร” ที่ ศจร.ตร. กำลังขับเคลื่อนสร้างมาตรฐานตำรวจจราจรทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการบริการประชาชน สร้างความเชื่อถือศรัทธา และนำไปสู่การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในที่สุด

นอกจากนี้ พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังมีผู้รอรับการบริจาคอวัยวะอยู่มากกว่า 6,500 คนทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วย เพราะการบริจาคอวัยวะแก่เพื่อนมนุษย์คือที่สุดแห่งการให้ โดยตำรวจจราจรพร้อมสานต่อเจตนารมณ์ของผู้บริจาค และเติมเต็มความหวังของผู้รับบริจาค เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชีวิตใหม่ อำนวยความสะดวกนำทางส่งต่ออวัยวะสำคัญ ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อประสานงานตำรวจโครงการพระราชดำริฯ ได้ที่โทร.1197 กองบังคับการตำรวจจราจร .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”