ที่ปรึกษายอมรับได้รับเงินเดือนจาก “บิ๊กโจ๊ก” ในฐานะที่ปรึกษาทางคดี

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – ที่ปรึกษา “บิ๊กโจ๊ก” ยอมรับได้รับเงินเดือนละ 50,000 บาท ในฐานะที่ปรึกษาทางคดี พร้อมเห็นว่าตำรวจ 8 นาย ที่ถูกออกหมายจับยังไม่มีความผิด


พล.ต.ท.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ นายกสมาคมพนักงานสอบสวน ในฐานะที่ปรึกษา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยในขณะที่เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เพื่อมารับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนที่จะเกษียณ ยอมรับว่าเคยได้รับเงินช่วยเหลือในการทำคดีต่างๆ ในสมัยที่เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนทำคดีร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ครั้งละ 50,000 บาท โดยการให้เงินจำนวนนี้เห็นว่าเป็นการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปปฏิบัติหน้าที่ โดยที่ไม่ต้องไปรบกวนตำรวจในพื้นที่ที่เข้าไปปฏิบัติงาน ทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นคนที่ดูแลลูกน้องเป็นอย่างดี ที่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด ซึ่งในปัจจุบันก็ยังได้รับเงินเดือนละ 50,000 บาท ในฐานะที่ปรึกษาช่วยเหลือทำคดีต่าง ๆ

ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวนชุด PCT ออกทั้งหมายค้น และหมายจับเห็นว่าเป็นการขอหมายโดยมิชอบ เนื่องจากไม่ระบุข้อมูลส่วนตัว ทั้งยศ ตำแหน่ง และอาชีพ ทำให้การสอบสวนจะไม่มีความเที่ยงตรง และจะพิสูจน์ฝีมือพนักงานสอบสวนว่ามีฝีมือหรือไม่ จะให้ความเป็นธรรมหรือไม่ หรือมีธงในการทำคดีหรือไม่ แต่ในคดีนี้จะมีธงในการทำคดีหรือไม่ เห็นว่าขึ้นอยู่กับความรู้ความเชี่ยวชาญของพนักงานสอบสวน ส่วนการทำคดีของพนักงานสอบสวนที่ออกหมายจับตำรวจ 8 นาย ในคดีนี้ เห็นว่าหากผู้ต้องหาแสดงความบริสุทธิ์ใจได้ก็ไม่มีความผิด แต่ไม่ใช่ว่าหากมีเส้นทางการเงินไปเกี่ยวข้องกับใครแล้วจะมีความผิดทั้งหมด


ซึ่งตามขั้นตอน และตลอดระยะเวลาการทำงานของตัวเองด้านการสืบสวนด้านยาเสพติด ก็มักจะออกหมายเรียกก่อนที่จะขอศาลออกหมายจับ เพราะเป็นไปตามขั้นตอน แต่ก็เห็นด้วยหากพนักงานสอบสวน มีหลักฐานเชื่อได้ว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการทำผิด ก็ให้เชิญมาให้ข้อมูลก่อนจะดำเนินการขั้นต่อไป ซึ่งหากพนักงานสอบสวน ยังทำคดีแบบมีข้อสงสัย ก็อาจทำให้การสอบสวนของตำรวจถูกโอนไปยังหน่วยงานอื่น ซึ่งก็จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ไม่มีอำนาจในการสอบสวนเอง

อย่างไรก็ตาม หากชุดสืบสวนสอบสวน พบว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเงินโอนมาจากบัญชีม้า และฐานะที่ปรึกษาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็พร้อมเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเชิญ หรือออกหมายเรียกตัวเองมาให้ปากคำ. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง