“พล.ต.ท.ไตรรงค์” ไม่กังวลถูกฟ้องกลับ ม.157

กรุงเทพฯ 27 ก.ย. – พล.ต.ท.ไตรรงค์ ไม่กังวลโดนคณะรอง ผบ.ตร.ฟ้องกลับ ม.157 ย้ำคดีทำถูกทุกขั้นตอน การไม่ใส่ยศตำรวจในหมายเพื่อป้องกันเกียรติยศศักดิ์ศรีในอาชีพ ส่วนกลุ่มนักข่าวที่เรียกสอบพบข้องเกี่ยวกับเงินจากบัญชีม้า


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุด PCT ตร. เปิดเผยความคืบหน้าในคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์ ซึ่งปรากฏผู้ต้องหาในคดี 8 ราย เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และกรณีการเข้าตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวในส่วนการขยายผลไปถึงกลุ่มผู้เกี่ยวข้องทั้งพลเรือน, ตำรวจและทหาร ว่าขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนของพนักงานสอบสวน ซึ่งวันนี้คณะทำงานจะมีการประชุมหารือกันเพื่อขยายผลต่อจากกลุ่มผู้ต้องหาที่มีการจับกุม สำหรับการเรียก เฮียแต๋ม และภรรยาที่มีการเปิดเผยข้อมูลว่าเป็นเจ้าของบ้านที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เช่าให้ผู้ใต้บังคับบัญชาพักอาศัยมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน


เมื่อถามถึงข้อมูลชุดนึงที่ระบุว่ามีบุคคลในครอบครัวของเฮียแต๋ม อยู่ในชุดทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่าตนเองยังไม่รู้ข้อมูลส่วนนี้แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะทำงานขยายผลต่อไปจนทราบข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงยืนยันได้ว่าผู้ต้องหาที่เป็น 8 นายตำรวจ ยังคงให้การที่ไม่เป็นประโยชน์กับพนักงานสอบสวนและปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนต่อไปที่จะต้องสืบหาข้อเท็จจริง

กรณีการเรียกสอบกลุ่มสื่อมวลชน พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ให้มองกลุ่มนี้เป็นในส่วนกลุ่มพลเรือนมีบางรายที่เจ้าหน้าที่เองก็มีข้อมูลว่าเป็นสื่อมวลชนหรือรู้เองในวงการว่ารายชื่อดังกล่าวเป็นสื่อมวลชน กลุ่มนี้จะมีการเรียกสอบในฐานะที่มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของกลุ่มผู้ต้องหาที่มีการจับกุมส่วนการรับเงินโดยตรงจากบัญชีอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีก็ถือว่าไม่ได้มีความผิด

เมื่อถามถึงความกังวลใจกรณีที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจัดตั้งชุดทนายความเพื่อเตรียมฟ้องกลับชุดจับกุมว่าทำหน้าที่โดยไม่ชอบ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ประการแรกต้องให้ความเป็นธรรมกับชุดสืบสวนสอบสวนและจับกุมก่อน ตนยืนยันว่าในทุกขั้นตอนและกระบวนการเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักขั้นตอนของกฎหมาย แต่ตามปกติแล้วหากมีผู้ต้องหา หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องการยื่นฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหา ม.157 ก็สามารถทำได้เป็นสิทธิ์ของบุคคลเหล่านั้น แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เองที่ปฏิบัติงานก็ต้องมั่นใจว่าทำหน้าที่อย่างถูกต้องครบถ้วน รอบคอบ ตนขอย้ำว่าคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์ไม่ได้กระทำแค่วานนี้ แต่เป็นการกระทำต่อเนื่องมาตั้งแต่กรณีของบอสตาลและมินนี่ จึงเชื่อได้ว่าชุดทำงานมีข้อมูลหลักฐานที่รัดกุม


พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวชี้แจงถึงการออกหมายจับของ 8 นายตำรวจที่ในหมายไม่มีการระบุยศของข้าราชการตำรวจแต่เป็นการใส่คำนำหน้านายแทน ในส่วนนี้ตามข้อกฎหมายไม่ได้ระบุว่าจะต้องใส่ตำแหน่งหน้าที่การงานเพียงแต่ให้ใส่ในส่วนของชื่อและรูปพรรณโดยตนได้สอบถามชุดจับกุมแล้วทราบว่าได้ให้การต่อศาลในขณะออกหมายจับว่าบุคคลตามหมายประกอบหน้าที่อะไรไม่ได้มีการปิดบังและการออกหมายเป็นการอนุมัติตามพยานหลักฐานที่มีเป็นหลัก

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชุดทำงานของตนออกหมายจับตำรวจด้วยการใช้สรรพนามว่านาย แต่สำหรับการทำงานของตนมองว่าการดำเนินคดีกับบุคคลที่ประกอบอาชีพเป็นตำรวจ บางครั้งเราก็ต้องยึดถึงเกียรติอาชีพหน้าที่ การที่ตัดสินใจไม่ใช้ยศตำรวจถือเป็นการป้องกันเกียรติยศศักดิ์ศรีความเป็นตำรวจ
รวมไปถึงกรณีที่สังคมตั้งคำถามว่าทำไมเรื่องของตำรวจไม่จัดการภายในองค์กรก่อน ต้องทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต เรื่องนี้ตนขอย้ำว่าไม่ว่าตำรวจชุดไหนกลุ่มไหนหากเป็นผู้ต้องหาที่มีการกระทำความผิดองค์กรตำรวจก็จะไม่ปกป้องถ้าตำรวจทำผิด ก็จะต้องดำเนินคดีถ้ามีการไปคุยกันเองก่อนจะดำเนินคดีอย่างนี้ถึงจะเรียกว่าปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ

เมื่อถามว่าหากหลังจากนี้จะมีกลุ่มผู้ต้องหาออกมาแถลงข่าวชี้แจงต่อสื่อมวลชนต่อประชาชนจะถือเป็นการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานจนพนักงานสอบสวนต้องขอยื่นคัดค้านการประกันหรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ก็ต้องดูในส่วนของพฤติการณ์และเจตนาของการกระทำหากเป็นการชี้นำและทำให้พยานหลักฐานในคดีกระทบพนักงานสอบสวนก็จะใช้ดุลยพินิจเพิกถอนการประกันตัวชั่วคราว แต่หากเป็นการแสดงความคิดเห็นตามปกติก็สามารถทำได้เป็นสิทธิ์ของบุคคลนั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.- อาลัย “เจ๊เกียว” สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี ครอบครัวเชิดชัย แจ้งว่า นางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” เจ้าแม่รถทัวร์เมืองไทย เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี เจ๊เกียว เกิดเมื่อ 20 มีนาคม 2480 ณ จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันที่ 27 ก.ย.68 ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ กทม. ด้วยอาการชรา ประกอบกับอายุมาก มีโรคประจำตัวหลายโรค เจ๊เกียว เป็นลูกคนที่ 6 ของครอบครัว เป็นเด็กเรียนดี สอบได้ที่ 1 มาตลอด ครอบครัวมีกำลังให้เรียน ป.4 เจ๊เกียว ตั้งปณิธานกับตัวเอง “จะต้องรวยกว่าแม่ให้ได้” จึงกลายเป็นแรงผลักดัน ตลอดเส้นทางดำเนินชีวิต นับว่า เจ๊เกียว มีประวัติสู้ชีวิตตั้งแต่เด็กๆ หลังออกจากโรงเรียน […]

ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ คนทยอยใช้สิทธิ

ศรีสะเกษ 28 ก.ย.- ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี ประชาชนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 คึกคัก เผยแม้กังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่อยากออกมาใช้สิทธิในฐานะคนไทย ด้านเลขาฯ กกต. ระบุตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเวลาเปิดหีบ ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้เหตุฉุกเฉิน -สำนักข่าวไทย