กทม. 24 ก.ย.-หญิงวัย 34 ปีหอบลูกชาย 11 ขวบลุยฝน ขอสายไหมต้องรอดช่วย หลังถูกรุ่นพี่ราดแอลกอฮอล์แล้วจุดไฟเผา ทำให้ได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย
ที่ศูนย์ประสานงาน สายไหมต้องรอด เขตสายไหม ผู้เสียหายสาววัย 34 ปีพาลูกชายอายุ 11 ขวบ ขี่รถจักรยานยนต์ลุยฝนเพื่อขอความช่วยเหลือต่อนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด หลังลูกชายถูกกลุ่มเยาวชนขาโจ๋ในหมู่บ้าน ล็อกตัวราดแอลกอฮอล์ล้างแผลจุดไฟเผาทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณลำตัวและต้นขาทั้งสองข้าง และหลังเกิดเรื่องได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจสถานีตำรวจภูธรคูคต แต่ตำรวจกลับให้มีการไกล่เกลี่ย จึงเดินทางร้องขอความช่วยเหลือ
โดยเจ้าหน้าที่รีบเปลี่ยนผ้าพันแผลบริเวณลำตัวให้ทันทีเนื่องจากเกรงว่าบาดแผลอาจจะโดนน้ำได้ ทำให้เห็นว่ามีแผลใหญ่เป็นบริเวณกว้าง พองไหม้ตั้งแต่หน้าอกถึงบริเวณลำตัว
แม่ของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าทั้งน้ำตาว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเย็นวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา ลูกชายถูกผู้ก่อเหตุลวงให้ออกไปเล่นด้วยกัน จากนั้นได้นำแอลกอฮอล์ล้างแผล มาเทราดที่เสื้อผ้า และก็จุดไฟเผา ครั้งแรกไฟไม่ติด กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงจุดไฟอีกครั้งจนลุกลามตามตัว เป็นแผลไฟไหม้บริเวณหน้าท้อง และต้นขา บางส่วนไฟลุกไหม้ที่เส้นผม และบังคับไม่ให้ไปบอกแม่ จนกระทั่งมารู้ว่าลูกบาดเจ็บเมื่อวานที่ผ่านมา เพราะกลัวแม่จะดุ จึงพาไปหาหมอและไปแจ้งความที่ สภ.คูคต พนักงานสอบสวนจึงเรียกญาติของเด็กที่ก่อเหตุมาพบคู่กรณี และให้เจรจาไกล่เกลี่ยกันไม่ต้องแจ้งความดำเนินคดี แต่ทางผู้เสียหายไม่ยอมเนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำที่ค่อนข้างรุนแรง จึงต้องการดำเนินคดีอาญา ฐานทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งที่ผ่านมาเพิ่งเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านนี้ได้เพียง 3 เดือน ไม่รู้จักครอบครัวของผู้ก่อเหตุมาก่อน และลูกก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใครมาก่อน และพี่ชายของเด็กชายคนนี้ก็เคยถูกเด็กกลุ่มนี้ทำร้ายร่างกายมาด้วย
รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะสงสารลูกที่ต้องทนกับอาการบาดเจ็บ ประกอบกับเมื่อตำรวจได้รับการแจ้งความจากตนเองกลับมีการเรียกคู่กรณีมาแล้วบอกให้เจรจากับทางผู้ปกครองของคู่กรณีเพราะเห็นว่าเป็นการเล่นกันของเด็ก ซึ่งตนเองยืนยันจะดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด แต่ตำรวจกลับบอกว่าถ้าไม่มีการเจรจาก็กลับบ้านไป ตนเองจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านในทันทีเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา และตัดสินใจติดต่อให้สายไหมต้องรอดช่วยเหลือ
ขณะที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวถือว่าเป็นเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็ก ซึ่งเข้าข่ายผิดคดีอาญา อีกทั้งตำรวจยังไม่ยอมรับแจ้งความ พยายามให้ไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี ซึ่งตามหลักแล้วแม้ว่าคู่กรณีจะเป็นเยาวชนจะต้องเรียกมาดำเนินคดีและส่งศาลเยาวชนฯ ให้พิจารณาคดีตามขั้นตอน เนื่องจากพฤติการณ์แบบนี้รุนแรงถึงขั้นร่วมกันทำร้ายร่างกาย อย่ามองว่าเป็นการเล่นของเด็ก เพราะหากดับไฟไม่ทันอาจลุกลามถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสมากกว่านี้ หลังจากนี้จะประสานกับโรงเรียนของผู้บาดเจ็บ เพราะเรียนอยู่ที่เดียวกันกับคู่กรณี เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และจะพาผู้เสียหายไปทำเรื่องขอรับเงินเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญากับกระทรวงยุติธรรมในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ย. 66) เวลา 10.00 น.-สำนักข่าวไทย