ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชายแดนแม่สอด

กทม. 23 ก.ย.- กสทช. ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนแม่สอด


พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมายและประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ, พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านป้องกันและปราบปราม, พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช. สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สำนักงาน กสทช. และ สอท. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมสถานีวิทยุคมนาคมและเสาสัญญาณผิดกฎหมายตามแนว ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก

หลังพบการลักลอบส่งสัญญาณโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตไปยัง ประเทศเพื่อนบ้านโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอาชญากรรมด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์


ก่อนหน้านี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมมือกับ สำนักงาน กสทช. ในการเดินหน้าปราบปรามสถานีโทรคมนาคมผิดกฎหมาย และจัดระเบียบเสาสัญญาณตลอดแนวชายแดนประเทศ เพื่อนบ้าน ตั้งแต่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด, อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อสกัดไม่ให้ มีการเผยแพร่สัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับมีการกวาดล้างจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการย้ายฐานปฎิบัติ การเข้าสู่พื้นที่ใหม่ๆ ที่ยังสามารถอาศัยสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตจากฝั่งไทยได้ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนด้าน อ.แม่สอด จว.ตาก ที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและบางส่วนอยู่ ภายใต้อิทธิพลของชนกลุ่มน้อย

โดยตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการร่วมตำรวจและ กสทช. ได้มีการ ลงพื้นที่หาข่าวจนนำมาสู่การปฎิบัติการในวันนี้ โดยจับกุมสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และหันทิศทางสายอากาศไปยังประเทศเพื่อนบ้านในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 2 สถานี และในพื้นที่ อ.แม่สาย และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย จำนวน 4 สถานี

เป็นความผิดฐาน “มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมและตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาต” ตามมาตรา 6 และ 11 แห่ง พรบ.วิทยุคมนาคมฯ มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งปรับทั้งจำ และความผิดฐาน “ประกอบกิจการโทรคมนาคมซึ่งต้องได้รับ ใบอนุญาตแบบที่หนึ่งโดยไม่ได้อนุญาต” ตามมาตรา 67 (1) แห่งพรบ.ว่าด้วยการประกอบกิจการ โทรคมนาคมฯ มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท


พร้อมทั้งจับกุมผู้กระทำผิด จำนวน 3 ราย ในการนี้ ได้ทำการ รื้อถอนสถานีวิทยุคมนาคมผิดกฏหมายดังกล่าวทั้งหมด และทำการยึดอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ใช้กระทำ ความผิดได้เป็นจำนวนมาก นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ ตรวจพบการตั้งสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ และหันทิศทางสายอากาศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งทำให้คลื่นสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ข้ามเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเหตุให้พื้นที่การให้บริการผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมเกินกว่าอาณาเขตพื้นที่ประเทศไทย และล่วงล้ำ ไปยังอาณาเขตประเทศข้างเคียง โดยตรวจสอบพบสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เข้าลักษณะดังกล่าวจำนวน หลายสถานี สำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการแจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ถอนการติดตั้งสายอากาศบางจุด หรือ ปรับทิศทาง สายอากาศ หรือ ดำเนินการด้วยวิธีอื่นใด มิให้แพร่สัญญาณคลื่นความถี่ออกนอกเขตพื้นที่ประเทศไทย เพื่อให้พื้นที่การให้บริการ อยู่ภายในอาณาเขตพื้นที่ประเทศไทย

นอกจากนี้ ตั้งแต่ พ.ค.66 – ปัจจุบัน ได้ตรวจพบการจำหน่ายซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลงทะเบียนการใช้งานโดยใช้ชื่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ใช้งานที่แท้จริงเพื่อจำหน่ายให้กับบุคคลอื่น จำนวน 7,668 ซิมการ์ด จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 20 คน แบ่งเป็นคนไทย 12 คน และต่างชาติ 8 คน ดำเนินคดีตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กสทช. ได้มีการบูรณาการความร่วมมือในการเดินหน้าปราบปรามสถานีโทรคมนาคมผิดกฎหมาย ควบคู่ไปกับการจัดระเบียบเสาสัญณาณไม่ให้แพร่สัญญาณ โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน กวดขันจับกุมผู้ขายและผู้เป็นธุระจัดหา ซิมผี บัญชีม้า เพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ไม่ให้ทำงานได้สะดวกเหมือนเคย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการผู้รับใบอนุญาตเป็นอย่างดี พร้อมทั้งมีการหารือในการปรับปรุงระเบียบและกฎหมายที่ เกี่ยวข้อง เพื่อตีกรอบการใช้เทคโนโลยีให้เป็นไปตามที่ภาครัฐกำหนด สร้างความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ได้ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ให้มีความระมัดระวังการใช้การใช้งานเทคโนโลยี เพราะปัจจุบันแก๊งมิจฉาชีพมีการพัฒนารูปแบบการหลอกลวงอยู่ตลอดเวลา มีการออกอุบายใหม่ๆ ที่เน้น สร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้เหยื่อตกใจตื่นตระหนก ตกหลุมพรางของแก๊งมิจฉาชีพ ขอให้ประชาชนตั้งสติ อย่า ตกใจ ไม่เชื่อ ไม่โอน ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังพบว่า แก๊งมิจฉาชีพได้มีการจ่ายเงินซื้อ โฆษณา เพื่อให้ลิงก์หรือเว็บไซด์ปลอมมาแสดงอยู่ในลำดับต้นๆ หรือสามารถเข้าถึงผู้ใช้แพลตฟอร์มเป็น จำนวนมาก มีการปลอมยอดติดตามหรือยอดไลค์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้เมื่อประชาชนที่ถูกหลอกลวง ออนไลน์ต้องการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ กดเข้าไปในลิงก์หรือเว็บไซต์ปลอม ถูกหลอกซ้ำซ้อนสร้างความ เสียหายมากขึ้นไปอีก ดังนั้น หากเกิดข้อสงสัยหรือต้องการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน ขอให้สืบค้น ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]