กทม. 20 ก.ย.- DSI สรุปลอตวันสุดท้าย 18 คู่แข่ง สางปมฮั้วประมูล “กำนันนก” ด้าน ผอ.กองคดีฮั้ว เผยยอดรวม 3 วัน เข้าให้ปากคำเพียง 35 จากทั้งหมด 58 บริษัท ส่วนที่เหลือขอเลื่อนนัดสอบภายหลัง แย้ม เตรียมหลักฐานเสนอ “อธิบดี“ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ
จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูลฯ ออกหมายเรียกพยานแก่ 58 บริษัท โดยทั้งหมดเคยยื่นซื้อซองใน 2 โครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ได้แก่ โครงการประกวดราคาจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย อ.ดอนตูม – ต.ลำลูกบัว (ปีงบประมาณ 2560) และโครงการประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย ต.ลำลูกบัว – บรรจบทางหลวงหมายเลข 346 (ปีงบประมาณ 2564) ซึ่งเป็นโครงการเดียวกับบริษัทของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ผู้ต้องหาในคดีสั่งยิงสารวัตรแบงค์ สามารถประมูล e-bidding ชนะไปได้นั้น โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพบพฤติการณ์ส่อฮั้วประมูลจากทั้ง 2 โครงการ เนื่องจากทั้ง 58 บริษัท ได้จ่ายค่าธรรมเนียมซื้อซอง แต่ถอนตัวไม่เข้าร่วมในวันประมูล e-bidding ทำให้เป็นเหตุอันน่าสงสัยว่าเป็นการสมยอมราคาโดยกีดกันเพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันเสนอราคาอย่างเป็นธรรม เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทของกำนันนก หรือบริษัททั้งหมดถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าร่วมการประมูลโครงการหรือไม่ อีกทั้งเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีบริษัทจำนวน 9 แห่ง ให้ความร่วมมือเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ขณะที่บริษัทอีก 11 แห่งเลื่อนการเข้าพบ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเรียกสอบปากคำในฐานะพยานแก่บริษัททั้งหมด 58 แห่ง ตลอดทั้ง 3 วัน คือ 18-20 ก.ย. ที่ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 7 กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ สำหรับในวันที่ 20 ก.ย. เหลือเพียง 18 บริษัทที่จะต้องเข้าให้ปากคำ ประกอบด้วย 9 บริษัท ซึ่งเคยยื่นซื้อซองประมูลในโครงการประกวดราคาจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย อ.ดอนตูม – ต.ลำลูกบัว (ปีงบประมาณ 2560) ส่วนอีก 9 บริษัท เคยยื่นซื้อซองประมูลในโครงการประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย ต.ลำลูกบัว – บรรจบทางหลวงหมายเลข 346 (ปีงบประมาณ 2564)
ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีฮั้วประมูลฯ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำในวันที่สาม ว่า หลังจากเรียกตัวแทนบริษัทมาสอบปากคำเสร็จสิ้น หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ม.21 วรรค 1 (ง) คดีความผิดทางอาญาที่มีผู้ทรงอิทธิพลที่สาคัญเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน โดยการสอบปากคำในวันนี้ คณะพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกไป 18 บริษัท และตลอดทั้งวันที่ผ่านมา เข้ามาพบพนักงานสอบสวน จำนวน 14 บริษัท ส่วนอีก 4 บริษัท ขอเลื่อนนัดหมาย โดยให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสาร
ทั้งนี้ รวมการสอบปากคำทั้ง 3 วัน (18-20 ก.ย.) สรุปยอด ณ ปัจจุบันมีบริษัทเข้ามาให้ปากคำแล้ว 35 บริษัท จากทั้งหมด 58 บริษัท แบ่งเป็น วันที่ 18 ก.ย. จำนวน 12 บริษัท, วันที่ 19 ก.ย. จำนวน 9 บริษัท และวันที่ 20 ก.ย. จำนวน 14 บริษัท อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทรายใดแจ้งขอเลื่อนเข้าพบตามกำหนดนัดหมายนั้น ก็จะต้องเดินทางมาชี้แจงแม้ว่าดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ถ้าหากไม่มาโดยไม่มีเหตุอันควร จะมีโทษจำคุก 1 ปี ส่วนรายละเอียดคำให้การของแต่ละบริษัทว่า “กำนันนก” เป็นผู้มีอิทธิพลหรือข่มขู่หรือไม่นั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องในสำนวนการสอบสวน ขณะนี้ขอเวลาในการดำเนินการตรวจสอบอย่างครบถ้วนในทุกมิติ
นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าห้องสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้นำกระดาษมาปิดไว้ที่กระจกด้านประตู เพื่อป้องกันสื่อมวลชนบันทึกภาพบรรยากาศการสอบปากคำพยาน อีกทั้งตัวแทนบริษัทที่เข้าให้ปากคำล้วนปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ระหว่างการสอบปากคำ ตัวแทนบริษัทหลายรายต่างไม่สะดวกให้ข้อมูลว่าตัวเองถูกข่มขู่จากกำนันนกหรือยอมรับว่าสมยอมราคากับบริษัทกำนันนก แต่แม้ว่าจะไม่ได้ประโยชน์จากการสอบปากคำ ดีเอสไอก็มีการรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้บางส่วนแล้ว เพื่อใช้ในการประกอบโครงสำนวนคดี จึงไม่หวั่นแม้พยานจะมีความพยายามหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อพนักงานสอบสวน. – สำนักข่าวไทย