กทม. 19 ก.ย. – กองปราบฯ เร่งคลี่คลายคดียิงสารวัตรแบงค์ ถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ โดยนำหลักฐานที่ได้จากการค้นบ้านกำนันนก ประชุมสรุปคดี โดยเฉพาะกล้องวงจรปิด 2 ตัวที่ไฟล์ถูกปิด เป็นการเตรียมการก่อเหตุ หรือถูกลบไปหลังเกิดเหตุ
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม หนึ่งในชุดคลี่คลายคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวงเสียชีวิต ในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ได้เรียกชุดสืบสวนที่ลงพื้นที่เก็บหลักฐานภายในบ้านกำนันนกเพิ่มเติมเมื่อวานนี้ มาประชุมสรุปข้อมูล โดยเฉพาะบริเวณจุดติดตั้งกล้องวงจรปิด 2 ตัว ที่ถูกปิดในวันเกิดเหตุ เก็บลายนิ้วมือแฝง รวมไปถึงวิเคราะห์ว่าเหตุใดจึงปิดกล้องเพียง 2 ตัว หากจะปิดจริงทำไมไม่ปิดทั้งหมด และหากมีการลบภาพจากกล้องวงจรปิด ตำรวจต้องตามหาหลักฐานว่าใครเป็นคนลบ เพราะเชื่อว่าหลังเกิดเหตุ กำนันนกไม่น่าจะมีเวลากลับไปเลือกลบไฟล์สำคัญในวันเกิดเหตุได้ เรื่องนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม
ส่วนการดำเนินคดี มาตรา 157 ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กับตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ พ.ต.อ.เอนก เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องส่งเรื่องขอความเห็นจากอัยการ เนื่องจากต้องการทำสำนวนให้รัดกุม และให้มีความเห็นตรงกันว่า พฤติการณ์ใดเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เมื่ออัยการให้ความเห็นมา ตำรวจก็จะนำหลักฐานทั้งจากพยานบุคคล และจากกล้องวงจรปิด มาไล่ดูว่าใครที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงขอเวลาทำงาน ไม่ใช่การประวิงเวลาเพื่อช่วยเหลือใคร
มีรายงานว่า ชุดสืบสวนจะไล่ย้อนไทม์ไลน์กล้องวงจรปิดแต่ละตัวทั้ง 15 ตัว รอบบ้านกำนันนกใหม่ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ 3 วัน ซึ่งเป็นวันจัดเตรียมงาน มีการยกเก้าอี้จัดเตรียมงานเข้ามาในบ้าน ดูความเคลื่อนไหวบุคคลในบ้าน โดยเฉพาะกล้องที่จับภาพโต๊ะวีไอพี 2 ตัว ที่ไม่สามารถกู้ไฟล์ภาพได้ ซึ่งชุดสืบสวนกำลังสงสัยว่ามีการปิดสวิตช์กล้องให้หยุดตอนกี่โมง สอดคล้องกับเวลาของสายแลนที่ถูกดึงออกหรือไม่ และจะตรวจสอบต่อไปว่าภาพหยุดเดินโดยธรรมชาติ หรือมีบุคคลลบไฟล์ภาพออกจากกล้องวงจรปิด ทำไมภาพจคงหายไปเพียง 2 กล้องเท่านั้น
จ่อดำเนินคดีตำรวจ 12 นาย ละเว้นปฏิบัติหน้าที่
ส่วนตำรวจที่อาจถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 157 มีทั้งหมด 13 นาย เสียชีวิตแล้ว 1 นาย คือ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ “ผู้กำกับเบิ้ม” และในจำนวนนี้มี 2 นาย ที่มียศเป็น “ผู้กำกับ” ส่วนนายตำรวจรอดคดี มีทั้งหมด 9 นาย คือ กลุ่มที่เข้าให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจน
ส่วนข้อมูลที่พบว่ามีตำรวจ 1 นาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ขึ้นลำปืนเตรียมต่อสู้หลังได้ยินเสียงปืน คือ พ.ต.ท.ภทร สว.สภ.สระยายโสม จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเจ้าตัวได้ไปเข้าห้องน้ำกับผู้หญิงที่มาด้วยกัน ก่อนได้ยินเสียงปืน จึงกระชากลำกล้องปืนขึ้น และพากันออกไปจากที่เกิดเหตุ
“พ.ต.ท.ภทร” ยืนยันวันเกิดเหตุไม่ได้หลบหนี
เรื่องนี้มีการสอบถามไปทาง “พ.ต.ท.ภทร” ซึ่งยืนยันว่าวันเกิดเหตุ ไม่ได้หลบหนี แต่ตอนนั้นเข้าห้องน้ำ และได้ยินเสียงปืน เลยออกมาดู และขึ้นลำกล้องปืนเพื่อเตรียมป้องกันตัว เพราะตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อออกมาจากห้องน้ำ เห็นคนแตกตื่นกระจัดกระจายกันไป และเห็น พ.ต.ท.วศิน ผู้บาดเจ็บ ล้มลงไปแล้ว ตนกับรุ่นพี่อีกสองคนจึงช่วยกันยกขึ้นท้ายกระบะนำส่งโรงพยาบาลและตามไปทันที อยู่ที่โรงพยาบาลจนถึงตี 2 ซึ่งเป็นไปตามหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด . – สำนักข่าวไทย