โฆษกราชทัณฑ์ ยันชัด “ทักษิณ” ยังไม่ยื่นขอพักโทษ เหตุจำคุกไม่ครบเกณฑ์

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – โฆษกราชทัณฑ์ ยันชัด “ทักษิณ” ยังไม่ยื่นขอพักโทษ เหตุจำคุกไม่ครบเกณฑ์ ชี้โทษจำคุกหลังอภัยลดโทษจะสุดที่ห้วงเดือน ก.พ. 67 แย้มใกล้รักษาตัวครบ 30 วัน แพทย์ รพ.ตำรวจ ต้องส่งรายงานสุขภาพ เพื่ออธิบดีพิจารณานอนต่อหรือส่งกลับเรือนจำ


จากกรณีมีการรายงานข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้ต้องขังเด็ดขาด ได้ดำเนินการยื่นเอกสารต่อเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขอเข้าโครงการพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิเศษเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายสิทธิ สุธีวงศ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ ถึงประเด็นและข้อเท็จจริงดังกล่าวว่า สำหรับกระแสข่าวดังกล่าว ยืนยันว่านายทักษิณหรือครอบครัวยังไม่ได้มีการยื่นขอพักโทษแต่อย่างใด และทางราชทัณฑ์ยังไม่ได้รับทราบการยื่นเอกสารดังกล่าว ส่วนกระบวนการขอพักโทษนั้นจะเป็นกระบวนการที่เรือนจำจะเป็นผู้พิจารณายื่นเรื่องให้กรมราชทัณฑ์พิจารณา ซึ่งทางเรือนจำจะสามารถยื่นรายชื่อบุคคลที่จะดำเนินการพักโทษได้จะต้องพิจารณาจากคุณสมบัติของนักโทษรายนั้นๆ โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1.แบบปกติ นักโทษรายนั้นๆ จะต้องโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของโทษจำคุกที่ได้รับ และ 2.แบบพิเศษ มีเกณฑ์แยกย่อย 3 ข้อ คือ จะต้องเป็นนักโทษที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป, มีภาวะป่วยชราภาพ และต้องโทษไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของโทษจำคุก หรือต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งในกรณีของนายทักษิณ สามารถเข้าเกณฑ์ได้ทั้งแบบปกติและแบบพิเศษก็ได้ เพราะนายทักษิณเองถือเป็นผู้ต้องขังสูงอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป และป่วยร่วมด้วย


โฆษกราชทัณฑ์ เปิดเผยอีกว่า สำหรับขั้นตอนแรกในโครงการการพักการลงโทษนั้น จะเป็นทางเรือนจำที่ทำหน้าที่สำรวจรายชื่อผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์ และพิจารณาจากคุณสมบัติของนักโทษรายนั้นว่าเข้าเกณฑ์แบบปกติหรือแบบพิเศษตามที่เรียนแจ้งข้างต้น ถ้าหากดูคุณสมบัติของนายทักษิณแล้วอาจจะได้รับการพิจารณาเข้าโครงการพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป แต่ตามกฎหมายมีการระบุชัดเจนว่าจะต้องมีการรับโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือตั้งแต่ 6 เดือน อย่างใดอย่างหนึ่งมากกว่า

ปัจจุบันนี้นายทักษิณได้การอภัยลดโทษเหลือจำคุกเพียง 1 ปี ดังนั้น 1 ใน 3 ที่นี้ก็คือ 4 เดือน แต่ตามกฎหมายมีการระบุว่าหรือ 6 เดือน อย่างใดอย่างหนึ่งมากกว่า หมายความว่านายทักษิณจะต้องจำคุกมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน การยื่นมาก่อนก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะยังไม่เข้าเกณฑ์ จึงทำให้กรณีของนายทักษิณ โทษจำคุกจะไปสิ้นสุดอยู่ที่ห้วงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 อย่างไรก็ตาม นายทักษิณจะถูกพิจารณาพร้อมกับผู้ต้องขังเด็ดขาดรายอื่นๆ เนื่องจากทางเรือนจำจะมีการเสนอเรื่องขึ้นมาแล้วจึงจะมีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการพักการลงโทษของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งจะเกิดขึ้นเดือนละ 1 ครั้ง

โฆษกราชทัณฑ์ เปิดเผยด้วยว่า หากนายทักษิณเข้าเกณฑ์ได้รับการพักการลงโทษ ทางเรือนจำจะมีการแจ้งไปยังทนายความประจำตัวของผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังเองด้วย เพื่อแจ้งเงื่อนไขให้ทราบว่านักโทษจะต้องรู้คุณสมบัติของตัวเอง แล้วต้องเตรียมเอกสาร อีกทั้งจะมีการสัมภาษณ์ เพราะผู้ต้องขังเด็ดขาดแต่ละรายที่ผ่านเกณฑ์จะต้องเข้าให้การสัมภาษณ์กับทางเรือนจำ เพื่อทางเรือนจำได้ดูตัวและสอบถามพูดคุยว่าครบเกณฑ์หรือไม่ และยังมีกระบวนการอื่นๆ อีกมาก


โฆษกราชทัณฑ์ เปิดเผยต่อว่า สำหรับกรณีของนายทักษิณ ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำ หรือที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งปกติแล้วจะต้องมีคุณสมบัติผ่านเข้ารับการอบรมต่างๆ แต่ในเมื่อเจ้าตัวไม่สามารถเข้ารับการอบรมได้ก็จะมีข้อยกเว้นอื่นๆ ซึ่งคณะกรรมการจะต้องไปลงรายละเอียดเพื่อหารือกันอีกครั้ง แต่ในตอนนี้นายทักษิณยังไม่ถึงเวลาที่จะอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาสำหรับโครงการดังกล่าว เพราะยังต้องโทษจำคุกไม่ครบตามเกณฑ์ อย่างไรก็ตาม ปกติทางเรือนจำจะมีการสำรวจล่วงหน้าสักประมาณ 1-2 เดือน ก่อนจะถึงเดือน ก.พ. 67 เพราะจะมีขั้นตอนในส่วนของกรมคุมประพฤติที่จะต้องไปสืบเสาะและรายงานผลกลับมา เราจึงจะมีการประชุมของคณะกรรมการ

เมื่อถามว่าใกล้ครบกำหนดระยะเวลาการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำสำหรับ 30 วัน ทางเรือนจำหรือราชทัณฑ์จะมีการพูดคุยกับทีมแพทย์ผู้ทำการรักษาของโรงพยาบาลตำรวจหรือไม่ว่าจะพิจารณาให้นายทักษิณรักษาต่อเนื่อง หรือส่งกลับเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โฆษกราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อใกล้ครบ 30 วัน ทางโรงพยาบาลตำรวจจะต้องส่งผลประเมินเรื่องสุขภาพมายังเรือนจำ และกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเราจะพิจารณาจากความเห็นของแพทย์ และอาจจะไม่ได้มีการประชุมอะไรร่วมกันกับนายแพทย์ใหญ่อย่างเป็นทางการขนาดนั้น ถ้าหากนายทักษิณยังคงมีอาการไม่ทุเลาดีขึ้น หรือแพทย์มีความเห็นให้มีความจำเป็นจะต้องรับการรักษาเฉพาะทางต่อเนื่อง เรือนจำจะพิจารณาจากความเห็นของแพทย์ดังกล่าว และอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะอนุญาตให้พักรักษาตัวภายนอกเรือนจำต่อได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพร “ปีใหม่-วันเด็ก” ให้นายกฯ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ 2568 – วันเด็ก ให้ “นายกฯ พี่อิ๊งค์” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง อยู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้า บริหารประเทศไปนานๆ พร้อมฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯ ทักษิณ”

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล