รับตัว 4 ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากกัมพูชา

18 ก.ย. – ตำรวจรับตัว 4 ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงินจากกัมพูชา ภายหลัง “รอง ผบ.ตร.” ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศชี้เป้าจุดซ่อนตัว


จากกรณีนายสาณิช เกิดความเครียด ใช้อาวุธมีดปาดคอภรรยาและบุตร 2 คน อายุ 13 ปี และ 11 ปี เสียชีวิตรวม 3 ศพ และปาดคอตัวเองหวังฆ่าตัวตายตาม เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุจากความเครียดปัญหาหนี้สิน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเป็นแอปฯ เงินกู้ และสูญเงินกว่า 1.7 ล้านบาท

หลังจากเมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อประสานขอความร่วมมือกับ พล.ต.อ.ซอ เทศ ผบ.ตร.กัมพูชา ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ในประเทศกัมพูชา และวางแผนร่วมกันระหว่างกำลังตำรวจของทั้งสองประเทศ


จนต่อมาเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ร่วมกับ พล.ต.ท.เสียง เทีย ริต รองผู้อำนวยการ กองบัญชาการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติกัมพูชา พลตำรวจจัตวา ดารา สุเภีย รองผู้อำนวยการ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติกัมพูชา พ.ต.อ.ฮุง วี แรก ผู้บังคับการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติกัมพูชา และ พ.ต.ท.ชิ โคโบตร้า เลขาธิการผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีอยู่ในกัมพูชาได้อีกจำนวน 4 คน เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทย

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (18 ก.ย.66) เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประเทศกัมพูชา ได้ส่งมอบตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ภายหลังจากรับโทษในประเทศกัมพูชาแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายจับผู้ต้องหา แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ และจะส่งตัวไป สภ.บางแก้ว เพื่อสอบสวนปากคำ ขยายผลดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายอื่นเพิ่มเติมต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากท่าน ผบ.ตร. สั่งการให้ไปควบคุมดูแลคดีฆ่ายกครัวของ สภ.บางแก้ว ก็ได้สั่งการให้ขยายผลดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งในไทยและกัมพูชา ซึ่งได้มีการประสานงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ในการเข้าทลายจุดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งคนจีนและคนไทย โดยผู้ต้องหาจีนนั้นทางการกัมพูชาได้ขอดำเนินคดีที่กัมพูชาก่อน ส่วนผู้ต้องหาคนไทยจำนวน 4 คน ในวันนี้ได้รับตัวกลับมาจากกัมพูชาแล้ว โดยทั้ง 4 คน ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคนไทย คอยฝึกสอนวิธีการโทรหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงิน หลังจากนี้จะนำตัวทั้ง 4 คนมาขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งไทยเพิ่มเติมต่อไป


ส่วนในกรณีที่มีประเด็นจากโซเชียลมีเดียว่าการโอนคดีกำนันนกไปยังกองปราบฯ ทำให้รู้สึกน้อยใจนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงการดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ป้องกันประเด็นที่ว่าจะมีการวิ่งเต้นคดีจากท้องถิ่น ไม่ได้รู้สึกน้อยใจแต่อย่างใด เพราะวันนี้ยังมุ่งมั่นตั้งใจทำงานในการสืบสวนขยายผล ทั้งประเด็นเรื่องการร่ำรวยผิดปกติและการฮั้วประมูล เพื่อทำความจริงให้ปรากฏและสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง