รวบยกแก๊งตระเวนลักตัดสายไฟ มอเตอร์เวย์ สาย 7

กทม. 13 ก.ย.- ตำรวจทางหลวง (HWPD) รวบยกแก๊งตระเวนลักตัดสายไฟ มอเตอร์เวย์ สาย 7 ความเสียหายราว 10 ล้านบาท


กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล., สั่งการให้ พ.ต.อ. วันชนะ ทิพย์อาสน์ ผกก.๘ บก.ทล .,พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง สวญ.ส.ทล.๑ กก.๘ บก.ทล. กวดขันจับกุมการโจรกรรมทรัพย์สินของทางราชการ ในพื้นที่รับผิดชอบ โดย สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุม นายอนุลักษณ์ (บอย) อายุ 35 ปี และ นายไตรภพ (เอ) อายุ 31 ปี ข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปและใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป” ตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้รับแจ้งจาก ฝ่ายงานควบคุมระบบ แขวงทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง ว่ามีการลักลอบตัดสายไฟ บนถนนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 7 (พัทยา – มาบตาพุด ) ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย (สายไฟ) เป็นจำนวนมาก ผู้บังคับบัญชา จึงสั่งการให้รถวิทยุสายตรวจ เพิ่มความถี่ในการออกปฏิบัติหน้าที่ สามารถจับกุมตัวนาย Mr. XAMMAO BOUTAKEO สัญชาติลาว ได้ 1 คน ส่วนผู้กระทำผิดที่เหลือได้หลบหนีไปได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงทำการสืบสวนหาข่าวขยายผลหาพยานหลักฐานนำให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จนสามารถขอออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดที่เหลือได้ โดยจากการสอบถามผู้ถูกจับให้การรับสารภาพว่า ตนพร้อมพวกรวม 4 คน ได้วางแผนร่วมกันมาลักทรัพย์สายไฟจริง และในวันดังกล่าวได้ไปลักสายไฟกับนาย Mr. XAMMAO BOUTAKEO ชาวลาว จริง โดยใช้รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน เพื่อใช้เป็นยานพาหนะ ในการตระเวนลักตัดสายไฟในถนนมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 และในพื้นที่จังหวัด ชลบุรี ระยอง ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ครั้ง ได้เงินครั้งละประมาณ 20,000 บาท ส่วนเงินที่ได้มาก็จะนำแบ่งกัน ไปเสพยาเสพติดเล่นพนันออนไลน์ และใช้จ่ายในชีวิตประจำวันใช้หมดก็หาตัดใหม่ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงนำตัว พร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย