กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – ตำรวจทางหลวง เชื่อปม “ส่วยทางหลวง” ต้นเหตุยิง “สารวัตรแบงค์” เพราะบ้าน “กำนันนก” มีรถบรรทุกกว่า 100 คัน ซึ่งมีน้ำหนักเกิน “กำนันนก” พยายามติดต่อขอเจรจาก่อนหน้านี้ แต่ “สารวัตรแบงค์” ไม่ยอม
วันนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ โดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกอีกครั้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากปมปัญหาส่วยรถบรรทุก เพราะบ้านของกำนันนกมีรถบรรทุกกว่า 100 คัน ซึ่งมีน้ำหนักเกิน สารวัตรแบงค์ได้ดำเนินการตามกฎหมาย กำนันนกพยายามติดต่อขอเจรจาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ทางสารวัตรแบงค์ไม่ยอม เพราะเป็นคนตรงไปตรงมาและเป็นเรื่องของนโยบายที่ต้องปราบปรามเรื่องนี้ แต่เมื่อมีงานเลี้ยงและผู้บังคับบัญชาโทรศัพท์ให้สารวัตรแบงค์ไปร่วมงาน เพื่อปรับความเข้าใจกับกำนันนก กำนันนกกลับใช้โอกาสนี้ขอตำแหน่งให้กับหลาน ซึ่งได้รับการปฏิเสธอีกครั้ง ทำให้เสียหน้า เป็นที่มาในการสั่งการให้ลูกน้องจัดการ
รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง บอกด้วยว่า การสูญเสียสารวัตรแบงค์ ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และผู้บังคับบัญชาระดับชั้น รวมถึงเพื่อนข้าราชการตำรวจ อีกทั้งอดีตตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ต่างรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และย้ำต้องว่าดำเนินการกวาดล้างเลือดเสีย หรือข้าราชการตำรวจไม่ดี ให้หมดไปให้ได้
ด้านนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง นายกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ออกมาตอกย้ำประเด็นนี้ว่า ประเด็นของคดีนี้ เรื่องที่กำนันนกสั่งให้นายหน่องยิงสารวัตรแบงค์ ประเด็นที่บอกว่ามาจากการขอสลับตำแหน่งตำรวจ เวรรถกับเวรวิทยุ พอไม่ได้จึงสั่งยิง ไม่น่าจะเป็นเหตุผลหนักแน่นพอ น่าจะมีประเด็นอื่นด้วย ซึ่งไม่อยากให้ตำรวจทิ้งประเด็นเรื่องส่วยทางหลวง และอยากให้ถอดบทเรียนเรื่องนี้ ทั้งประเด็นการทำงานของตำรวจชั้นผู้น้อยที่ทำงานด้วยความเสียสละ
อยากฝากประเด็นเรื่องส่วยทางหลวงนี้ถึงนายกรัฐมนตรี ก่อนเกิดเหตุทราบว่าปัญหาส่วยจะกลับมารุนแรงอีก และปัญหานี้ลงรากฝังลึก 20-30 ปีที่ผ่านมา การบรรทุกน้ำหนักรถบรรทุกเกิน และใช้ส่วยสติกเกอร์เป็นใบเบิกทาง ทำให้ถนนหลวงของไทยเสียหาย ต้องใช้เงินในการซ่อมบำรุงแต่ละปีเป็นเงินมหาศาล.-สำนักข่าวไทย