กทม. 10 ก.ย.-พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และกองปราบฯ สอบเข้ม 2 คนสนิท “กำนันนก” ที่ช่วยเหลือซ่อนเร้นของกลางสำคัญ ทั้งอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด เพื่อเค้นหาความจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น
วันนี้ 10 ก.ย.66 นายโบ๊ท พนักงานราชการเรือนจำกลางราชบุรี เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน พร้อมกับนายระยอง พ่อของนายโบ๊ท หลังพบความเชื่อมโยงว่านายโบ๊ทเป็นคนนำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดภายในบ้านกำนันนก ไปทิ้งในอ่างเก็บน้ำ
ขณะที่นายโบ๊ทเดินทางมาถึง ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด มีเพียงพ่อของนายโบ๊ท ให้สัมภาษณ์แทน โดยเผยว่า ลูกชายยอมรับอยู่ในงานเลี้ยงที่บ้านของกำนันนกในคืนเกิดเหตุจริง แต่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุพอสมควร โบ๊ทยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ประเด็นที่ลูกชายนำเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดไปโยนทิ้งน้ำ นายระยอง เผยว่า ลูกชายก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แต่ได้แนะนำลูกชายให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา หากผิดจริงก็ให้ยอมรับผิดไป แต่ถ้าลูกชายไม่ได้กระทำความผิด ก็อยากได้รับความเป็นยุติธรรม
นายระยอง ยอมรับว่าที่ผ่านมารู้จักและคุ้นเคยกับกำนันนกดี กำนันนกมักจะโทรชวนไปงานเลี้ยงสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน ส่วนนิสัยของกำนันนก ที่ผ่านมาเขาก็เป็นคนดี ดูแลประชาชนในชุมชนดี แต่เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องส่วนตัว ขอไม่ยุ่งเกี่ยว
นายเก่ง คนงานที่บ้านของกำนันนก เป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกคุมตัวมาสอบปากคำตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยวันนี้ยังคงให้ปากคำกับตำรวจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะที่นายเก่งถูกนำตัวออกจากห้องสอบสวนขึ้นไปชั้นบนของอาคาร เพื่อให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามสอบปากคำต่อ นายเก่งใช้มือกุมหน้าหลั่งน้ำตา โดยพยักหน้ายอมรับว่าเครียด และไม่มีเจตนาให้การช่วยเหลือนำปืนไปซ่อน
ส่วนตำรวจทั้ง 6 คนที่ถูกจับกุม หลังศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับเมื่อวานนี้ ยังถูกควบคุมตัวที่ สภ.เมืองนครปฐม ยังไม่ได้นำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เช่นเดียวกับตำรวจนายอื่น ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ยังไม่พบว่าเดินทางเข้ามาให้การกับพนักงานสอบสวนที่ตำรวจภูธรภาค 7 เพิ่มเติม
ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าทางคดีเพิ่มเติมช่วงเย็นของวันนี้ เวลา 18.00 น.-สำนักข่าวไทย