กทม. 8 ก.ย.- บก.น.1 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง ผกก.สน.พญาไท หลังร่วมงานเลี้ยงบ้าน “กำนันนก” ว่าเป็นการเบียดบังเวลาราชการหรือเป็นการกระทำผิดทางวินัยหรือไม่
จากกรณีคดียิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิตภายในบ้านของกำนันนก ที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวมีการจัดงานเลี้ยงประจำเดือนกันยายนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในและนอกพื้นที่จังหวัดนครปฐม มีตำรวจ ไปร่วมงาน มากกว่า 20 นาย ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ภายในงานไม่ได้มีการเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุหรือผู้เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังพบเรื่องการปล่อย ให้มีการทำลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่ง 1 ใน ตร.ที่ไปร่วมงาน พบว่าเป็น ผกก.สน.พญาไท ซึ่งอยู่ในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล
เรื่องนี้ พลตำรวจตรีอัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่าเบื้องต้นได้สั่งการให้ ผกก.สน. พญาไท ทำรายงานแจ้งเหตุผลการเดินทางไปร่วมงานที่บ้านกำนันนกในวันเกิดเหตุว่าเดินทางออกนอกพื้นที่ได้อย่างไร และชี้แจงรายละเอียดภายในช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุทั้งหมด ซึ่ง ผกก.สน.พญาไท ได้ให้เจ้าหน้าที่นำรายงานมาส่งให้ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้ว โดย ผกก.ชี้แจงว่า มีรุ่นพี่ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปร่วมงานชวนตนให้ไปร่วมงานด้วย ในฐานะที่ในอดีตเคยสังกัดกองบังคับการตำรวจทางหลวงมาก่อน โดยเดินทางออกนอกพื้นที่นครบาลช่วงหลังเลิกงาน ซึ่งเจ้าตัวระบุว่าไม่ได้เป็นการเบียดบังใช้เวลาราชการไปทำเรื่องส่วนตัว ส่วนในระหว่างเกิดเหตุ ผกก. นั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสารวัตรศิวกร ส่วนรายละเอียดเหตุการณ์ทั้งหมดให้ปากคำกับชุดสืบสวนสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจสอบสวนกลางแล้ว จึงไม่สามารถเปิดเผยให้ทราบได้เนื่องจากอยู่ในสำนวน ซึ่งจนถึงขณะนี้ ผกก.สน.พญาไท ก็ยังไม่ได้เดินทางกลับเข้าพื้นที่ เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบปากคำในฐานะพยานในคดี
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเอง จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ ผกก.สน.พญาไท เรื่องการไปร่วมงานดังกล่าวว่าจะเข้าข่ายทำผิดวินัยหรือไม่ ส่วนที่จะจำเป็นต้องให้ไปช่วยราชการหรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณาตามระเบียบและข้อมูลที่ได้รับ
ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับการไม่ได้เข้าไปจับกุมหรืออาจมีส่วนกับการทำลายพยานหลักฐานซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 เรื่องนี้ทราบว่า พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างการดำเนินการ จึงไม่อาจก้าวล่วงได้แต่หากมีการดำเนินคดีจริงก็ต้องพิจารณาตามระเบียบ .-สำนักข่าวไทย