ปฏิบัติการยุบวงจรหลอกลงทุน กลุ่มอมตะ เฟส 2

กรุงเทพฯ 5 ก.ย. – ตร.ไซเบอร์ ปฏิบัติการยุบวงจรหลอกลงทุน กลุ่มอมตะ เฟส 2 จับเพิ่มเครือข่ายบัญชีม้า หลังพบเส้นเงิน ถูกแปลงเป็นคริปโต มูลค่าความเสียหายกว่า 66 ล้านบาท


พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ร่วมกับ ตัวแทน บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น แถลงขยายผลปฏิบัติการยุบวงจรหลอกลงทุนกลุ่มอมตะ เฟส 2 หลังก่อนหน้านี้ บช.สอท.ได้ตรวจพบมิจฉาชีพแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มเทรดหุ้นของกลุ่มอมตะ จึงได้สืบสวนสอบสวนจนสามารถจับกุมเครือข่ายผู้กระทำความผิด ซึ่งแถลงผลการจับกุมใน เฟส 1 ไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหา 9 คน จากหมายจับ รวม 11 หมาย ต่อมาได้มีการสืบสวนขยายผลจับกุมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดสืบสวนได้เปิดปฏิบัติการทลายขบวนการหลอกลงทุนกลุ่มอมตะ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 ราย จาก 11 ราย เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาพบว่า ยังมีเพจปลอม เกิดเพิ่มขึ้นอีก จึงได้สืบสวนปฏิบัติการเฟส 2 พบเพจที่ปลอมว่าเป็นเพจกลุ่มอมตะมากถึง 73 เพจ ซึ่งลดลงจากจำนวนเพจปลอมใน เฟส 1 ที่มีมากถึง 217 เพจ มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ 203 ราย รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 66 ล้านบาท โดยตำรวจไซเบอร์ ได้ดำเนินการ สืบสวนจนพบว่า มีบัญชีม้าถึง 32 บัญชี รวบรวมพยานหลักฐานจนออกหมายจับบัญชีม้าได้ 19 ราย ติดตามจับกุมได้ 10 ราย ที่เหลืออยู่ในระหว่างการติดตามตัว


สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการนี้ จะสร้างเพจ Facebook ปลอมว่า เป็นเพจของกลุ่มอมตะ คอร์ปอเรชั่น โดยนำภาพของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ กรรมการผู้จัดการและกรรมการบริษัทอมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA มาโฆษณเพื่อหลอกลวงชักชวนให้ลงทุนกับกองทุนอมตะ จากนั้นคนร้าย ก็จะสร้างบัญชี Line อ้างตัวเองว่าเป็นโบรกเกอร์ โดยใช้ชื่อ Line ที่แตกต่างกันออกไปหลายบัญชี เช่น @amata4978 / @amataservice7891 / @amata2788 เป็นต้น เพื่อทำทีแอดไลน์ผู้เสียหาย แล้วพูดคุยชักชวนลงทุนระยะสั้น โดยจูงใจผู้เสียหายว่าจะได้ผลกำไรที่ดีในระยะสั้นและนำภาพในเพจ Facebook ปลอมที่มีรูปของคุณวิกรม มาอวดอ้างเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือจนผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีผลตอบแทนที่ดี

เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ มิจฉาชีพก็จะแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปลงทุน โดยยอดต่ำสุดครั้งละ 1,000 บาท เพื่อเป็นการปิดพอร์ตแบบระยะสั้น ได้ผลตอบแทนสูงถึง 50% แล้วค่อย ๆ ชักชวนให้ผู้เสียหายโอนครั้งถัดไปในจำนวนน้อย ๆ หลายครั้ง จนบางรายยอดทะลุหลักแสนกว่าบาท

ซึ่งในระยะแรกมิจฉาชีพกระทำที่แสดงผลกำไรแจ้งกลับมาให้ผู้เสียหาย เพื่อให้ผู้เสียหายดีใจตื่นเต้นและหลงเชื่อว่าจริง ปรากฏว่าพอผู้เสียหายเทรดมากเข้า ก็จะขอปิดบัญชีเพื่อเบิกเงิน มิจฉาชีพจะแจ้งว่า ต้องโอนเงินเสียค่าภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ก่อน ในจำนวนหลักแสนกว่าบาท หากผู้เสียหายไม่โอนเงินค่าดังกล่าว ทางมิจฉาชีพจะตัดการติดต่อและไม่สามารถติดตามเงินคืนได้อีก ส่วนเงินที่ผู้เสียหายโอนไปนั้น จะเป็นการโอนเข้าบัญชีม้า และบัญชีม้าก็จะกระจายเม็ดเงินต่อไปหลาย ๆ แถว


พล.ต.ท.วรวัฒน์ บอกว่า ประชาชนทุกคนต้องรู้เท่าทันบรรดามิจฉาชีพที่ปลอมบัญชีเฟซบุ๊กมีลักษณะเหมือนจริงจนตกเป็นเหยื่อ โดยบรรดาเพจลงทุนทั้งหลาย ต้องสังเกตให้ดีว่า เพจนั้นได้รับเครื่องหมาย Verified Badge หรือเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าหรือไม่ เพจนั้นเคยถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเพจอื่น ๆ มาก่อนหรือไม่ จำนวนคนที่มารีวิวหรือการเปิดให้รีวิว และแอดมินที่จัดการเพจนี้ หากพบว่าเพจนั้นไม่มีเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า เคยถูกเปลี่ยนชื่อเพจจนไม่ตรงกับชื่อปัจจุบัน ไม่พบหรือเปิดให้ใครมารีวิว และแอดมินที่จัดการเพจอยู่ในต่างประเทศ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นเพจปลอมหลอกลวง อย่าได้ลงเชื่อให้ข้อมูลหรือโอนเงินเด็ดขาด การดูจำนวนคนที่มากดไลค์เพจอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ เพราะในปัจจุบัน มิจฉาชีพสามารถปั๊มยอดไลค์เพจได้

นอกจากนี้ยังพบว่า มีหลายบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงในลักษณะใกล้เคียงกัน ซึ่งตำรวจไซเบอร์กำลังดำเนินการสืบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี เพราะถือว่าสร้างความเสียหายแก่ประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศชาติ โดยเน้นย้ำนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ต้องรีบจัดการจับกุมมิจฉาชีพออนไลน์ทันที พร้อมเตือนประชาชนว่า ไม่เชื่อ ไม่รีบ และไม่โอน ส่วนคดีนี้จะมีต้นตอตัวใหญ่ในประเทศหรือไม่นั้น อยู่ในระหว่างการขยายผลการสอบสวนแต่พบว่าเส้นเงินถูกไปแปลงไปเป็นคริปโต

ด้าน นายวิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคนิควิศวกรรม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุยืนยันว่า ทางบริษัทไม่มีนโยบายให้ประชาชนมาร่วมลงทุนในลักษณะดังกล่าว จากการจับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิดใน เฟส1 ก็คิดว่าจะทำให้เบาบางลงไปได้ แต่ที่ไหนได้ก็ยังมีมิจฉาชีพปลอมเพจ บมจ.อมตะ หลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่องอีก จนมีการขยายผลการจับกุมเพิ่มเติมใน เฟส 2 จึงฝากถึงประชาชนว่า ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัด ก่อนจะตัดสินใจลงทุนอะไรไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

จับ 6 ล้อขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกลำโพง

30 มิ.ย. – ขบวนค้ายาเสพติดยังพยายามขนยาบ้าเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือของไทย ช่วง 9 เดือนมานี้ เจ้าหน้าที่สกัดได้กว่า 130 ล้านเม็ด แต่ที่หลุดรอดไปได้อีกมหาศาล ซึ่งพบว่ามีการขนยาบ้าลอตใหญ่เข้าสู่พื้นที่ชั้นในมากขึ้น โดยเปลี่ยนจุดพักยาบ้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขนยาบ้าที่ซุกซ่อนมากับสินค้ามากขึ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดรถ 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ได้ที่จังหวัดแพร่ โดยซุกซ่อนในตู้ลำโพง คนขับอ้างว่า รับงานจากบริษัทให้ไปส่งสินค้าที่ลพบุรี โดยไม่รู้ว่ามีการซุกซ่อนยาบ้าไว้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู คนงานสูญหาย 9 คน

สระบุรี 30 มิ.ย. – เหตุไฟไหม้โรงงานผลิตทิชชู จ.สระบุรี มีผู้บาดเจ็บ 7 คน และยังสูญหายอีก 9 คน เป็นพนักงานประจำสำนักงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ล่าสุดมีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่โรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี รถดับเพลิงรถน้ำจาก อ.หนองแค และใกล้เคียงกว่า 50 คัน รวมถึงอาสาสมัครจากหลายมูลนิธิ รุดไปที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ภายในโรงงานพร้อมกับได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัดดับเพลิงแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ขณะที่รถจากโรงพยาบาลหลายแห่ง พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลมายังจุดเกิดเหตุเพื่อรอรับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมกับตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ รับแจ้งตรวจสอบรายชื่อผู้สูญหาย เบื้องต้นทราบว่ามีผู้สูญหายยังไม่มารายงานตัวจำนวน 11 คน แต่ต่อมาช่วยเหลือออกมาได้ 2 คน จึงยังมีผู้สูญหายในเหตุการณ์นี้อีก […]

โผ ครม.แพทองธาร 1/2 หลังนำรายชื่อทูลเกล้าฯ

ทำเนียบ 30 มิ.ย.-โผ ครม.แพทองธาร 1/2 หลังนำรายชื่อทูลเกล้าฯ นายกฯ ควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำรายชื่อคณะรัฐมนตรีแพทองธาร 1/2 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแล้ว สำหรับโผการปรับ ครม. ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.วัฒนธรรม ซึ่งวันนี้ (30 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรี ยอมรับเองว่าจะนั่งตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม เพราะต้องการผลักดันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ส่วน รมว.กลาโหม ยังเว้นว่างไว้ ตามรายงานข่าวแจ้งว่า จะให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการแทนไปก่อน ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะนั่งควบ รมว.มหาดไทย โดยมีนายเดชอิศม์ ขาวทอง และ […]

นายกฯ รับควบ รมว.วัฒนธรรม กังวลปมศาล รธน.

ทำเนียบ 30 มิ.ย.-นายกฯ รับควบ รมว.วัฒนธรรม อยากผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ บอกกังวลปมศาล รธน. จะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ชี้ไม่อยากให้งานสะดุด ลั่นพร้อมรับฟังโพลทุกสำนัก มองผลโพลดีเป็นกำลังใจ ส่วนผลลบต้องพัฒนาตัวเอง ย้ำม็อบชุมนุมมีสิทธิ์แสดงออก ขอเน้นเรื่องการทำงาน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้ นายกฯ จะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมด้วยใช่หรือไม่ ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ และที่จะต้องดูกระทรวงวัฒนธรรมด้วยเนื่องจากต้องดูเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ไม่ว่ากระทรวงวัฒนธรรมจะเป็นเกรดบี หรือเกรดซี แต่เป็นกระทรวงที่สำคัญ เพราะเป็นกระทรวงที่สามารถแนะนำวัฒนธรรมของไทยได้ และส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ของไทยได้จริงๆ เมื่อถามว่าสาเหตุที่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นเพราะส่วนหนึ่งมาจากความกังวลต่อคำร้องที่ขอให้ศาลวินิจฉัยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรีนิ่งคิด ก่อนบอกว่า “ไม่เกี่ยวนะคะ” แต่เป็นเรื่องที่จะต้องเน้นซอฟต์พาวเวอร์ไปด้วย ทำให้ต้องควบวัฒนธรรมด้วย ส่วนต้องการเน้นอะไรในกระทรวงวัฒนธรรม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องไปดูในกระบวนการต่างๆ ว่ามีอะไรที่สามารถผลักดันเพิ่มเติมได้หรือไม่ เพราะวัฒนธรรมของไทยมีความเข้มข้นและน่าผลักดันอีกเยอะ ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งไปด้วยกันได้ เมื่อถามถึง กระทรวงกลาโหม ที่มีรายงานว่า จะมีการเว้นว่างตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไว้ก่อน นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้รอดู ขณะนี้ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการขอให้จบขั้นตอนทุกอย่าง ก็จะเห็นรายชื่อออกมา […]