ปฏิบัติการยุบวงจรหลอกลงทุน กลุ่มอมตะ เฟส 2

กรุงเทพฯ 5 ก.ย. – ตร.ไซเบอร์ ปฏิบัติการยุบวงจรหลอกลงทุน กลุ่มอมตะ เฟส 2 จับเพิ่มเครือข่ายบัญชีม้า หลังพบเส้นเงิน ถูกแปลงเป็นคริปโต มูลค่าความเสียหายกว่า 66 ล้านบาท


พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ร่วมกับ ตัวแทน บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น แถลงขยายผลปฏิบัติการยุบวงจรหลอกลงทุนกลุ่มอมตะ เฟส 2 หลังก่อนหน้านี้ บช.สอท.ได้ตรวจพบมิจฉาชีพแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มเทรดหุ้นของกลุ่มอมตะ จึงได้สืบสวนสอบสวนจนสามารถจับกุมเครือข่ายผู้กระทำความผิด ซึ่งแถลงผลการจับกุมใน เฟส 1 ไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหา 9 คน จากหมายจับ รวม 11 หมาย ต่อมาได้มีการสืบสวนขยายผลจับกุมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดสืบสวนได้เปิดปฏิบัติการทลายขบวนการหลอกลงทุนกลุ่มอมตะ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 ราย จาก 11 ราย เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาพบว่า ยังมีเพจปลอม เกิดเพิ่มขึ้นอีก จึงได้สืบสวนปฏิบัติการเฟส 2 พบเพจที่ปลอมว่าเป็นเพจกลุ่มอมตะมากถึง 73 เพจ ซึ่งลดลงจากจำนวนเพจปลอมใน เฟส 1 ที่มีมากถึง 217 เพจ มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ 203 ราย รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 66 ล้านบาท โดยตำรวจไซเบอร์ ได้ดำเนินการ สืบสวนจนพบว่า มีบัญชีม้าถึง 32 บัญชี รวบรวมพยานหลักฐานจนออกหมายจับบัญชีม้าได้ 19 ราย ติดตามจับกุมได้ 10 ราย ที่เหลืออยู่ในระหว่างการติดตามตัว


สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการนี้ จะสร้างเพจ Facebook ปลอมว่า เป็นเพจของกลุ่มอมตะ คอร์ปอเรชั่น โดยนำภาพของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ กรรมการผู้จัดการและกรรมการบริษัทอมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA มาโฆษณเพื่อหลอกลวงชักชวนให้ลงทุนกับกองทุนอมตะ จากนั้นคนร้าย ก็จะสร้างบัญชี Line อ้างตัวเองว่าเป็นโบรกเกอร์ โดยใช้ชื่อ Line ที่แตกต่างกันออกไปหลายบัญชี เช่น @amata4978 / @amataservice7891 / @amata2788 เป็นต้น เพื่อทำทีแอดไลน์ผู้เสียหาย แล้วพูดคุยชักชวนลงทุนระยะสั้น โดยจูงใจผู้เสียหายว่าจะได้ผลกำไรที่ดีในระยะสั้นและนำภาพในเพจ Facebook ปลอมที่มีรูปของคุณวิกรม มาอวดอ้างเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือจนผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีผลตอบแทนที่ดี

เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ มิจฉาชีพก็จะแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปลงทุน โดยยอดต่ำสุดครั้งละ 1,000 บาท เพื่อเป็นการปิดพอร์ตแบบระยะสั้น ได้ผลตอบแทนสูงถึง 50% แล้วค่อย ๆ ชักชวนให้ผู้เสียหายโอนครั้งถัดไปในจำนวนน้อย ๆ หลายครั้ง จนบางรายยอดทะลุหลักแสนกว่าบาท

ซึ่งในระยะแรกมิจฉาชีพกระทำที่แสดงผลกำไรแจ้งกลับมาให้ผู้เสียหาย เพื่อให้ผู้เสียหายดีใจตื่นเต้นและหลงเชื่อว่าจริง ปรากฏว่าพอผู้เสียหายเทรดมากเข้า ก็จะขอปิดบัญชีเพื่อเบิกเงิน มิจฉาชีพจะแจ้งว่า ต้องโอนเงินเสียค่าภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ก่อน ในจำนวนหลักแสนกว่าบาท หากผู้เสียหายไม่โอนเงินค่าดังกล่าว ทางมิจฉาชีพจะตัดการติดต่อและไม่สามารถติดตามเงินคืนได้อีก ส่วนเงินที่ผู้เสียหายโอนไปนั้น จะเป็นการโอนเข้าบัญชีม้า และบัญชีม้าก็จะกระจายเม็ดเงินต่อไปหลาย ๆ แถว


พล.ต.ท.วรวัฒน์ บอกว่า ประชาชนทุกคนต้องรู้เท่าทันบรรดามิจฉาชีพที่ปลอมบัญชีเฟซบุ๊กมีลักษณะเหมือนจริงจนตกเป็นเหยื่อ โดยบรรดาเพจลงทุนทั้งหลาย ต้องสังเกตให้ดีว่า เพจนั้นได้รับเครื่องหมาย Verified Badge หรือเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าหรือไม่ เพจนั้นเคยถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเพจอื่น ๆ มาก่อนหรือไม่ จำนวนคนที่มารีวิวหรือการเปิดให้รีวิว และแอดมินที่จัดการเพจนี้ หากพบว่าเพจนั้นไม่มีเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า เคยถูกเปลี่ยนชื่อเพจจนไม่ตรงกับชื่อปัจจุบัน ไม่พบหรือเปิดให้ใครมารีวิว และแอดมินที่จัดการเพจอยู่ในต่างประเทศ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นเพจปลอมหลอกลวง อย่าได้ลงเชื่อให้ข้อมูลหรือโอนเงินเด็ดขาด การดูจำนวนคนที่มากดไลค์เพจอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ เพราะในปัจจุบัน มิจฉาชีพสามารถปั๊มยอดไลค์เพจได้

นอกจากนี้ยังพบว่า มีหลายบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงในลักษณะใกล้เคียงกัน ซึ่งตำรวจไซเบอร์กำลังดำเนินการสืบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี เพราะถือว่าสร้างความเสียหายแก่ประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศชาติ โดยเน้นย้ำนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ต้องรีบจัดการจับกุมมิจฉาชีพออนไลน์ทันที พร้อมเตือนประชาชนว่า ไม่เชื่อ ไม่รีบ และไม่โอน ส่วนคดีนี้จะมีต้นตอตัวใหญ่ในประเทศหรือไม่นั้น อยู่ในระหว่างการขยายผลการสอบสวนแต่พบว่าเส้นเงินถูกไปแปลงไปเป็นคริปโต

ด้าน นายวิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคนิควิศวกรรม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุยืนยันว่า ทางบริษัทไม่มีนโยบายให้ประชาชนมาร่วมลงทุนในลักษณะดังกล่าว จากการจับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิดใน เฟส1 ก็คิดว่าจะทำให้เบาบางลงไปได้ แต่ที่ไหนได้ก็ยังมีมิจฉาชีพปลอมเพจ บมจ.อมตะ หลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่องอีก จนมีการขยายผลการจับกุมเพิ่มเติมใน เฟส 2 จึงฝากถึงประชาชนว่า ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัด ก่อนจะตัดสินใจลงทุนอะไรไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง