ขุดรากถอนโคนแก๊งจีนเทา ตามยึดทรัพย์นับพันล้าน

กทม. 31 ส.ค.- “พล.ต.ท.จิรภพ” แถลงผลการจับกุมแก๊งจีนเทา ขุดรากถอนโคนตั้งแต่ผู้เปิดบัญชีม้าจนถึงตัวการระดับหัวหน้า อายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท


พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับกุม 2 คดี โดยคดีแรกตำรวจ บก.ปอท. ร่วมกับ สำนักงานอัยการสูงสุด และ ปปง. เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 30 จุด ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ชลบุรี และอุดรธานี ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (ไฮบริดสแกม) ตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่ายที่มีหน้าที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปจนถึงคนควบคุมบัญชีม้า คนรับจ้างเปิดบัญชีม้า และคนที่ดูแลเรื่องฟอกเงิน ตามหมายจับ 14 คน จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 คน ในจำนวนนั้นเป็นชาวจีน 2 คน และคนไทย 7 คน

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายได้ถูกกลุ่มคนร้ายใช้ Facebook ปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดีเข้ามาพูดคุยตีสนิท จนผู้เสียหายไว้เนื้อเชื่อใจ แล้วชักชวนให้ร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล อ่านเว็บไซต์ชื่อ CBOEX ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่กลุ่มคนร้ายปลอมขึ้นมาทั้งหมด ทำให้มีลักษณะคล้ายกับแอปพลิเคชันดั้งเดิมที่ใช้ชื่อ CBOE ซึ่งปัจจุบันได้ปิดไปแล้ว โดยคนร้ายจะแนะนำให้ผู้เสียหายสมัครเปิดบัญชีกับแพลตฟอร์มเทรดสกุลเงินดิจิทัลของไทยเพื่อสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล ไปซื้อเหรียญดิจิทัลสกุลเงิน USDT ผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว จากนั้นคนร้ายก็หลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินเหรียญดิจิทัลเข้าไปยังกระเป๋าเหรียญดิจิทัลของคนร้าย มีการแจ้งยอดผลกำไรจากการลงทุนให้แก่ผู้เสียหาย ยิ่งทำให้หลงเชื่อโอนเงินไปลงทุนเพิ่มอีก รวมเป็นเงินความเสียหายกว่า 13 ล้านบาท


จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินและเส้นทางของเหรียญดิจิทัลของผู้เสียหายพบว่า มีการโอนจากกระเป๋าผู้เสียหายไปยังกระเป๋าเหรียญดิจิทัลส่วนตัวกว่า 20 กระเป๋า เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ก่อนจะโอนไปรวมที่กระเป๋าเหรียญดิจิทัลของคนร้าย แล้วเทขายเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทย โดยพบว่าในปี 2565 แก๊งคนร้ายรายนี้มีการขายเหรียญดิจิทัลที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีเงินหมุนเวียนกว่า 1 พันล้านบาท ส่วนรูปแบบการกระทำความผิดพบว่าทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ คือ ระดับหัวหน้าสั่งการ กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ติดต่อพูดคุยหลอกลวงเหยื่อ กลุ่มนายหน้าจัดหาบัญชีม้า และกระเป๋าเงินดิจิทัลม้า กลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีม้า และกระเป๋าเงินดิจิทัลม้า และกลุ่มที่ทำหน้าที่ฟอกเงิน โดยนำเงินไปซื้อทรัพย์สินมีค่า และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ

พลตำรวจโท จิรภพ เปิดเผยว่า การขยายผลจับกุมคดีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกๆ ที่สามารถขุดรากถอนโคนตั้งแต่ผู้เปิดบัญชีม้าไปจนถึงตัวการสั่งการระดับหัวหน้า สามารถอายัดทรัพย์สินได้จำนวนมาก ซึ่งจากการขยายผลตรวจสอบข้อมูลของบริษัทนอมินี และคนไทยที่เป็นนอมินี ที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้ายพบว่า มีการครอบครองบ้านหรู 17 หลัง รถยนต์หรู 12 คัน เงินสดกว่า 6 ล้านบาท ทองรูปพรรณกว่า 10 รายการ นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนด์เนม คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และสมุดบัญชีธนาคารหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งหลังตรวจสอบในเบื้องต้นได้ทำการอายัดบ้านหรูจำนวน 15 หลัง ส่วนของกลางอื่นๆ ได้ทำการอายัดไว้ และส่งให้ ปปง. ตรวจสอบเพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 5 คนที่ยังหลบหนี และจะขยายผลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป

โดยหนึ่งในผู้ต้องหาคนสำคัญ คือ กิกี้ นางแบบเซ็กซี่คนดังรวมอยู่ด้วย โดยทำหน้าที่ เปิดบัญชีม้าและเป็นกระเป๋า wallet ม้า และยักย้ายถ่ายเทเงินออกจากบัญชี ก่อนส่งต่อให้กับบริษัทรับฟอกเงิน ส่วนตัวการคนสำคัญซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้บงการ เป็นคนจีน ขณะนี้ ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านรวม 3 ประเทศ โดยทางการจีนได้ออกหมายจับไว้แล้ว เนื่องจากมีคนจีนแจ้งความถูกแก๊ง Call Center กลุ่มนี้ หลอกลวง ชักชวนลงทุน เงินตราดิจิทัล สูญเสียเงินหลายพันล้านหยวน รวมกว่า 1,300 คดี ซึ่งตำรวจไทย จะร่วมมือกับตำรวจจีน ทางการพม่า ลาว และกัมพูชา ดำเนินการติดตามตัว และจับกุมตัวดำเนินคดีต่อไป


ส่วนคดีที่ 2 ตำรวจ บก.ปคม. จับกุม นางสาวภาพิมล อายุ 20 ปี นางสาวปาริฉัตร อายุ 28 ปี และนางสาวโดกี้ อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งนายหน้าค้ากามเด็ก นอกจากนี้ยังจับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อบริการได้อีก 5 คน สืบเนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีผู้ใช้บัญชี Twitter ชื่อ Buble มีการโพสต์โฆษณาเชิญชวนค้าประเวณีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ในพื้นที่จังหวัดระยอง จึงให้สายลับอำพรางตัวติดต่อขอซื้อบริการทางเพศกับผู้ใช้บัญชี Twitter ดังกล่าว ผ่านแอปพลิเคชัน LINE โดยผู้ใช้บัญชี Twitter ดังกล่าวได้ส่งภาพหญิงสาวมาให้เลือก แล้วติดต่อล่อซื้อโดยโอนเงินให้กับผู้ต้องหา โดยใช้บัญชีม้ารับโอนเงินเพื่อหลบเลี่ยงการจับกุม ซึ่งต่อมาสามารถเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 15 ปี ที่ถูกล่อลวงมาค้าประเวณี

จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า นางสาวภาพิมล และนางสาวปาริฉัตร เป็นนายหน้าค้าประเวณีเด็ก จึงขอศาลอนุมัติหมายจับ และไปจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ค่านายหน้าในการหาลูกค้าให้กับเด็กครั้งละ 500 บาท ทำมานานกว่า 2 เดือน นอกจากนี้ยังมีเด็กสาวในสังกัดอีก 2 คน มีอายุ 14 ปีและ 16 ปี ซึ่งจากการสอบถามพบว่า การรับงานแต่ละครั้งจะได้รับการติดต่อผ่านนายหน้าอีกทอดคือ นางสาวโดกี้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานของศาลอนุมัติหมายจับ และไปจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย