กทม. 30 ส.ค.- “อัจฉริยะ” หอบหลักฐานเอกสารนำเข้าหมูเถื่อนแช่แข็ง จำนวน 4 ตู้คอนเทนเนอร์ ร้อง ปปป. เอาผิด อธิบดีกรมศุลกากรพร้อมพวก
เวลา 10.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารหลักฐานการนำเข้าและขนส่งหมูเถื่อนจากต่างประเทศจำนวน 4 ตู้คอนเทนเนอร์ มาแจ้งความดำเนินคดี ที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีอาญากับอธิบดีกรมศุลกากร คนปัจจุบัน พร้อมผู้ใต้บังคับบัญชา 12 คน และขอให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ดำเนินการตรวจสอบ ว่า ยังมีข้าราชการสังกัด กรมศุลกากรรวมและบริษัทนำเข้าส่งออก หรือชิปปิ้งอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ร่วมขบวนการด้วยหรือไม่ และมีจำนวนมากน้อยเพียงใด พร้อมขอให้ดำเนินคดีอาญากับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หลังพบหลักฐานจากการเข้าตรวจค้นห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ การคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. พบกันสำแดงเอกสารอันเป็นเท็จ แจ้งสำแดงเป็นเม็ดพลาสติก แต่ภายในเป็นเนื้อหมูแช่แข็ง ที่ถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย และไม่ผ่านการเสียภาษีศุลกากร
ในความผิดฐาน ตามมาตรา 154 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ หรือแสดงว่าตนมีหน้าที่เรียกเก็บหรือตรวจสอบภาษีอากรค่าธรรมเนียมหรือเงินอื่นใดโดยทุจริตเรียกเก็บหรือละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีอากรค่าธรรมเนียมหรือเงินนั้นหรือกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดเพื่อให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีอากรหรือเสียค่าธรรมเนียมนั้นมิต้องเสียหรือเสียน้อยไปกว่าที่จะต้องเสีย รวมถึงมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และมาตรา 162 เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสารรับรองเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารประจำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติหน้าที่(1) รับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าที่อันเป็นเท็จ( 2) รับรองเป็นหลักฐานว่าได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันนี้ได้มีการแจ้ง(3) ละเว้นไม่จดข้อความซึ่งตนมีหน้าที่ต้องรับจดหรือจดเปลี่ยนแปลงข้อความเช่นว่านั้นหรือ(4) รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อความเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ซึ่งตามมาตรา 154 มีอัตราโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต
นายอัจฉริยะกล่าวว่า หลักฐานที่นำมาวันนี้ เป็นหลักฐานที่ได้จากบริษัทขนส่ง และบริษัท เดินเรือ ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์หมูเถื่อนทั้ง 4 ตู้ ว่าอธิบดีกรมศุลกากรกับพวก จำนวนมาก มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนจาก 44 ประเทศ เข้ามาจำหน่าย ภายในประเทศตั้งแต่ช่วงปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาเนื้อหมูในประเทศ เกษตรกร ผู้เลี้ยงหมูรายย่อย ได้รับความเดือดร้อน ถูกกดราคา ขาดทุน ย่อยยับ เพราะพ่อค้ารับซื้อหน้าฟาร์ม นำข้ออ้างดังกล่าว มากดราคาผู้เลี้ยงรายย่อย ตลอด 1 ปี 6 เดือน สร้างความเสียหายให้กับผู้เลี้ยงหมู แล้ว 75,000 ล้านบาท
นายอัจฉริยะยังระบุอีกว่าสำหรับปัญหา การนำเข้าส่งออกเนื้อหมูเถื่อนแช่แข็งเข้ามาจำหน่ายภายในประเทศนั้นคดีนี้ DSI ได้รับเป็นคดีพิเศษดำเนินการตรวจสอบไปแล้วและพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปมี เกี่ยวข้องรวมถึง อดีตที่ปรึกษา รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงเจ้าหน้าที่ DSI และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าดำเนินการตรวจค้นโกดังและห้องเย็นในเร็วๆนี้
โดยมีพันตำรวจโท พงษ์ประณต บัวแก้ว รองผู้กำกับสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือบก.ปปป. เป็นผู้รับเรื่อง ก่อนดำเนินการสอบปากคำนายอัจฉริยะ ไว้ประกอบคำร้อง แจ้งความ .-สำนักข่าวไทย