ผบ.ตร.วางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.4 ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 3 แห่งใหม่

17 ส.ค. – ผบ.ตร.เยี่ยมถิ่นเก่า วางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 และเปิดหอพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ ณ ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 3 (ภ.3) แห่งใหม่ มอบสิ่งของบำรุงขวัญ โดยขอบคุณความเข้มแข็ง ภ.3 ด้านยาเสพติด จราจร ที่นำไปต่อยอดนโยบาย ตร. เน้นย้ำเป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความผาสุกประชาชน


วันนี้ (17 ส.ค.) ณ ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 3 แห่งใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช (รัชกาลที่ 4) และพิธีเปิดหอพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ โดยมี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ท.สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 , พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3, รอง ผบช.ภ.3, ผบก.ในสังกัด ภ.3 ข้าราชการตำรวจ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม

ผบ.ตร.ไปยังลานพิธี ทำทำพิธีบวงสรวง ต่อด้วยพิธีสงฆ์ โดยพระพรหมวชิรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 และเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมคณะสงฆ์ ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ ผบ.ตร.ประกอบพิธีเจิมแผ่นศิลาฤกษ์ ไม้มงคล 9 แท่ง แผ่นอิฐเงิน อิฐทอง อิฐนาถ ถวายพระพรหมวชิรนายก เพื่อเจิม พร้อมปิดแผ่นทอง วางแผ่นศิลาฤกษ์ วางตลับนพรัตน์ลงบนศิลาฤกษ์ วางพวงมาลัย โปรยดอกไม้ เหรียญเงินเหรียญทองลงแผ่นศิลาฤกษ์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา จากนั้น ผบ.ตร. พร้อมพระพรหมวชิรนายก และผู้บังคับบัญชา ร่วมพิธีเปิดหอพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ ต่อด้วยพิธีทำบุญอุทิศทักษิณานุประทาน เป็นอันเสร็จพิธี


สำหรับที่ทำการตำรวจภูธรภาค 3 แห่งใหม่ เป็นดำริของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สมัยเป็น ผบช.ภ.3 เห็นว่าที่เดิมคับแคบ จึงได้หาที่ใหม่ บนที่ดิน 12 ไร่ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 200 ล้านบาท จะสร้างเสร็จปี 2568 พร้อมพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4

ส่วนหอพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ เป็นพระประจำตำรวจ ภ.3 ที่ ผบ.ตร.ได้สร้างขึ้นเมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.3 เช่นกัน โดยขอพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระสังฆราช แล้วนำแจกจ่ายไปสักการะทุกจังหวัดใน ภ.3 โดยมีการจัดพิธียิ่งใหญ่ นิมนต์เกจิอาจารย์มาร่วม และมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก เงินได้มาจากการทำพระประจำ ภ.3 ครั้งนั้น เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ได้นำมาเป็นกองทุนเพื่อข้าราชการตำรวจ ภ.3 ชื่อ “กองทุนบุญรักษา” จำนวน 10,000,000 บาท เพื่อให้ตำรวจที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นทุนที่ใช้จนปัจจุบัน

หลังจากเสร็จพิธี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมตำรวจภูธรภาค 3 สักการะพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ ขึ้นแท่นรับความเคารพ มอบสิ่งของตรวจเยี่ยม พร้อมกล่าวให้โอวาทข้าราชการตำรวจ โดยหลังจากตรวจเยี่ยม มอบสิ่งของบำรุงขวัญ ผบ.ตร.ได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน ให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.3 อีกด้วย


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ในอดีตเคยมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อปี 2552 เป็นเวลา 1 ปี และได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อีกครั้งในปี 2560 เป็นเวลา 1 ปี ตลอดระยะเวลาที่มาปฏิบัติหน้าที่ได้รับความร่วมมือร่วมใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการจากข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 ทั้ง 8 จังหวัด ด้วยดีเสมอมา มีการขับเคลื่อนงานโครงการสำคัญ ๆ นำไปต่อยอด และนำไปใช้ในการเป็นแบบอย่างในการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้แก่ข้าราชการตำรวจทั่วทั้งประเทศ จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการปักกลด ที่เริ่มต้นนำไปสู่โครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั่วประเทศ โครงการบันทึกข้อมูลตามแบบรายงานการสืบสวนอุบัติเหตุทางถนน (อบถ.) เพื่อการวางแนวทางในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และนำไปสู่การขับเคลื่อนโครงการสุภาพบุรุษจราจรสัญจรปลอดภัยในปีนี้ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถือว่าตำรวจ ภ.3 ได้มีส่วนสำคัญในการริเริ่มและวางรากฐานในการปฏิบัติงานให้ นำไปใช้ไปต่อยอด และสิ่งหนึ่งที่ตนพยายามจะทำก็คือการดูแลเรื่องสวัสดิการการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ในส่วนของ ภ.3 เอง ได้มีโอกาสจัดตั้งกองทุน “บุญรักษา” ได้นำเงินส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจไม่มากมาใช้ในการดูแลสวัสดิการช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัวและช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่

“ขอขอบคุณ ผู้บังคับบัญชาทุกท่าน กำลังพลเจ้าหน้าที่ทุกนาย ซึ่งอาจจะมาเยี่ยมอำลาหน่วยไม่ครบทุกพื้นที่ แต่ก็ถือว่าได้กลับเข้ามา ภ.3 อีกครั้ง ได้มาพบปะพูดคุย ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีใจ ได้ฝากตำรวจ ภ.3 การที่เป็นข้าราชการตำรวจให้ตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ในการดูแลสารทุกข์สุขดิบแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ให้แก่พี่น้องประชาชน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขอให้เป็นตำรวจมืออาชีพและก็ทำงานเชิงรุก เพื่อความผาสุกของชุมชน”. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

คปท.รวมตัวหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงจุดยืนกรณีพิพาทพรมแดน

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชูธงชาติไทย-ป้ายสัญลักษณ์ หน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงเจตจำนงปกป้องประเทศชาติ กรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง เพื่อเคลื่อนไหวจากกรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างประดับประดาด้วยธงชาติ และชูป้ายสัญลักษณ์ข้อความแสดงอุดมการณ์เจตนารมณ์ถึงการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้นำรถขยายเสียงมาพูดปราศรัยแสดงเจตจำนงที่จะปกป้องประเทศชาติในช่วงสถานการณ์พิพาทระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชา เปิดกระจกออกมาเพื่อใช้มือถือถ่ายภาพการชุมนุมเป็นระยะๆ สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ทาง สน.วังทองหลาง และ บก.น.4 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมวด ประมาณ 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา พร้อมนำแผงรั้วเหล็กกั้นมาวางเป็นแนวยาว เพื่อไม่ให้ม็อบเข้าประชิดติดตัวกำแพงสถานเอกอัครราชทูต เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะส่งผลต่อความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ.-414-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ร่วมวงถก สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” เลื่อนวาระงาน เพื่อร่วมประชุม สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งเลื่อนการประชุมติดตามมาตรการป้องกันปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลเป็น 11.00 น. เพื่อมาร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. หารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสรุปมาตรการตอบโต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มารอต้อนรับ ซึ่งการร่วมประชุม กับ สมช. ในวันนี้นายกรัฐมนตรี ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าและเป็นการมาร่วมประชุมกับ สมช. เป็นครั้งแรก .-316 -สำนักข่าวไทย

โคราชพบเด็ก 5 ขวบ เสียชีวิตจากโควิด-19

นครราชสีมา 6 มิ.ย. – จ.นครราชสีมา พบเด็ก 5 ขวบ เสียชีวิตจากโควิด-19 เจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 เผยตัวเลขเก็บศพโควิด เดือนนี้ 8 ราย ส่วนยอดติดเชื้อวันที่ 4 มิถุนายน 68 วันเดียวเพิ่ม 2 หมื่นคน นายชัยสิทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิพุทธธรรมฮุก 31 โพสต์ภาพลงในโซเชียล ขณะอาสากู้ภัย “ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ COVID-19 มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา หรือ ฮุก 31” กำลังช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 จากโรงพยาบาล ไปฌาปนกิจ พร้อมข้อความเตือน “ระวังกันนะครับ ให้ระวังกัน เพราะช่วงนี้ติดเชื้อกันเยอะ คนที่ไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว ไม่เกี่ยงอายุ วันนี้ มีตั้งแต่ไม่กี่ขวบ จนถึงสูงอายุ ทีมงานฮุก 31 บ้านหลังสุดท้าย ทุกๆ เขตรับผิดชอบ เริ่มมีภารกิจถี่ขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. […]

“ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “เตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารจากจุดปะทะ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “พลเอกเตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารออกจากจุดปะทะ ออกไป 200 เมตร กลับไปอยู่จุดเดิม ฝากข้อเสนอนี้ให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา-สมเด็จฮุนเซน พิจารณา ย้ำไทยไม่ยอมรับศาลโลก ระบุไม่อยากให้เกิดสงคราม ยันเดินหน้าประชุมเจบีซี 14 มิถุนายนนี้ วอนเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังได้หารือร่วมกับ พลเอก เตีย เสฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อวานนี้ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ว่า ได้มีการหารือกันว่าจะคลี่คลายกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ โดยรัฐบาลไทยได้ยืนยันแล้ว ว่าไม่อยากเห็นสงคราม และไทยไม่ได้กังวลที่จะมีการสู้รบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการสูญเสีย ซึ่งไม่ต้องการเห็นตรงนั้น ดังนั้นความสัมพันธ์ที่มีอยู่จึงน่าจะพูดคุยกันได้ ดังนั้นได้มีการพูดคุยกันในภาพรวม โดยสรุปตนเองก็ได้ฝากไปว่า เมื่อคุยกันแล้วและเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่ายแล้ว เราอยากให้เป็นการคุยจำกัดเฉพาะที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา พร้อมยืนยันว่าไทยไม่ได้เข้าศาลโลก เพราะตั้งแต่ปี 2503 มา จนกระทั่งปี 2567 นายเศรษฐา ทวีศิลป์ […]