ผบ.ตร.วางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.4 ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 3 แห่งใหม่

17 ส.ค. – ผบ.ตร.เยี่ยมถิ่นเก่า วางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 และเปิดหอพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ ณ ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 3 (ภ.3) แห่งใหม่ มอบสิ่งของบำรุงขวัญ โดยขอบคุณความเข้มแข็ง ภ.3 ด้านยาเสพติด จราจร ที่นำไปต่อยอดนโยบาย ตร. เน้นย้ำเป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความผาสุกประชาชน


วันนี้ (17 ส.ค.) ณ ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 3 แห่งใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช (รัชกาลที่ 4) และพิธีเปิดหอพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ โดยมี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ท.สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 , พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3, รอง ผบช.ภ.3, ผบก.ในสังกัด ภ.3 ข้าราชการตำรวจ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม

ผบ.ตร.ไปยังลานพิธี ทำทำพิธีบวงสรวง ต่อด้วยพิธีสงฆ์ โดยพระพรหมวชิรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 และเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมคณะสงฆ์ ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ ผบ.ตร.ประกอบพิธีเจิมแผ่นศิลาฤกษ์ ไม้มงคล 9 แท่ง แผ่นอิฐเงิน อิฐทอง อิฐนาถ ถวายพระพรหมวชิรนายก เพื่อเจิม พร้อมปิดแผ่นทอง วางแผ่นศิลาฤกษ์ วางตลับนพรัตน์ลงบนศิลาฤกษ์ วางพวงมาลัย โปรยดอกไม้ เหรียญเงินเหรียญทองลงแผ่นศิลาฤกษ์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา จากนั้น ผบ.ตร. พร้อมพระพรหมวชิรนายก และผู้บังคับบัญชา ร่วมพิธีเปิดหอพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ ต่อด้วยพิธีทำบุญอุทิศทักษิณานุประทาน เป็นอันเสร็จพิธี


สำหรับที่ทำการตำรวจภูธรภาค 3 แห่งใหม่ เป็นดำริของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สมัยเป็น ผบช.ภ.3 เห็นว่าที่เดิมคับแคบ จึงได้หาที่ใหม่ บนที่ดิน 12 ไร่ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 200 ล้านบาท จะสร้างเสร็จปี 2568 พร้อมพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4

ส่วนหอพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ เป็นพระประจำตำรวจ ภ.3 ที่ ผบ.ตร.ได้สร้างขึ้นเมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.3 เช่นกัน โดยขอพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระสังฆราช แล้วนำแจกจ่ายไปสักการะทุกจังหวัดใน ภ.3 โดยมีการจัดพิธียิ่งใหญ่ นิมนต์เกจิอาจารย์มาร่วม และมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก เงินได้มาจากการทำพระประจำ ภ.3 ครั้งนั้น เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ได้นำมาเป็นกองทุนเพื่อข้าราชการตำรวจ ภ.3 ชื่อ “กองทุนบุญรักษา” จำนวน 10,000,000 บาท เพื่อให้ตำรวจที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นทุนที่ใช้จนปัจจุบัน

หลังจากเสร็จพิธี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมตำรวจภูธรภาค 3 สักการะพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ ขึ้นแท่นรับความเคารพ มอบสิ่งของตรวจเยี่ยม พร้อมกล่าวให้โอวาทข้าราชการตำรวจ โดยหลังจากตรวจเยี่ยม มอบสิ่งของบำรุงขวัญ ผบ.ตร.ได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน ให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.3 อีกด้วย


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ในอดีตเคยมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อปี 2552 เป็นเวลา 1 ปี และได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อีกครั้งในปี 2560 เป็นเวลา 1 ปี ตลอดระยะเวลาที่มาปฏิบัติหน้าที่ได้รับความร่วมมือร่วมใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการจากข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 ทั้ง 8 จังหวัด ด้วยดีเสมอมา มีการขับเคลื่อนงานโครงการสำคัญ ๆ นำไปต่อยอด และนำไปใช้ในการเป็นแบบอย่างในการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้แก่ข้าราชการตำรวจทั่วทั้งประเทศ จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการปักกลด ที่เริ่มต้นนำไปสู่โครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั่วประเทศ โครงการบันทึกข้อมูลตามแบบรายงานการสืบสวนอุบัติเหตุทางถนน (อบถ.) เพื่อการวางแนวทางในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และนำไปสู่การขับเคลื่อนโครงการสุภาพบุรุษจราจรสัญจรปลอดภัยในปีนี้ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถือว่าตำรวจ ภ.3 ได้มีส่วนสำคัญในการริเริ่มและวางรากฐานในการปฏิบัติงานให้ นำไปใช้ไปต่อยอด และสิ่งหนึ่งที่ตนพยายามจะทำก็คือการดูแลเรื่องสวัสดิการการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ในส่วนของ ภ.3 เอง ได้มีโอกาสจัดตั้งกองทุน “บุญรักษา” ได้นำเงินส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจไม่มากมาใช้ในการดูแลสวัสดิการช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัวและช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่

“ขอขอบคุณ ผู้บังคับบัญชาทุกท่าน กำลังพลเจ้าหน้าที่ทุกนาย ซึ่งอาจจะมาเยี่ยมอำลาหน่วยไม่ครบทุกพื้นที่ แต่ก็ถือว่าได้กลับเข้ามา ภ.3 อีกครั้ง ได้มาพบปะพูดคุย ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีใจ ได้ฝากตำรวจ ภ.3 การที่เป็นข้าราชการตำรวจให้ตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ในการดูแลสารทุกข์สุขดิบแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ให้แก่พี่น้องประชาชน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขอให้เป็นตำรวจมืออาชีพและก็ทำงานเชิงรุก เพื่อความผาสุกของชุมชน”. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผนังโรงงานถล่มทับรถยนต์เสียหาย 7 คัน-เจ็บเล็กน้อย 1 คน

ชลบุรี 16 พ.ค. – ผนังอาคารโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ถล่มทับรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านข้างเสียหายรวม 7 คัน และพนักงานบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน ผนังอาคารพังถล่มที่บริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยส่วนที่พังเป็นฝาผนังที่ต่อเติมยื่นออกมาของอาคารชั้น 2 ถล่มลงมาทับรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านข้าง เสียหายรวม 7 คัน เบื้องต้นมีพนักงานบริษัทเป็นหญิงได้รับบาดเจ็บ 1 คน บริษัทนำส่งโรงพยาบาล สอบถามพนักงานบริษัทเล่าว่า ได้ยินเสียงตึ้มเลยพากันวิ่งออกมา ตอนแรกนึกว่าเสียงฟ้า โดยตรงนั้นเป็นอาคารฝ่ายบุคคล จะไม่มีคนไปนอน ด้านผู้กำกับการ สภ.พานทอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย วิศวกรบริษัทเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว และบริษัททำประกันภัยไว้ คงไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งต้องประเมินความเสียหายทั้งอาคารและรถยนต์ที่เสียหาย เพื่อชดใช้ตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน

เวียดนาม 16 พ.ค.-นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน รวมทั้งสุสานโฮจิมินห์ เน้นย้ำไทยให้ความสำคัญประวัติศาสตร์และมิตรภาพกับเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของนักปฏิวัติผู้เสียสละชีวิต เมื่อปี ค.ศ. 1940 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของขบวนการต่อสู้ของเวียดนามภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ โดยตั้งอยู่บนถนนบั๊กเซิน (Bạch Sơn Street) ในพื้นที่ใกล้กับจัตุรัสบาดิ่งห์ โดยออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยม ที่ประกอบด้วยกลุ่มรูปปั้นนักรบปฏิวัติ แสดงถึงความกล้าหาญและความสามัคคีของนักต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนาม หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสุสานโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิ่งห์ สถานที่ซึ่งอดีตผู้นำโฮจิมินห์เคยอ่านคำประกาศเอกราชของเวียดนามในปี ค.ศ.1945 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงอนุสรณ์สถาน โดยใช้หินอ่อนและหินแกรนิตคุณภาพสูง ผสมผสานระหว่างศิลปะสังคมนิยม กับเอกลักษณ์เวียดนาม โดยโฮจิมินห์เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนาม ผู้ได้รับการยกย่องในฐานะ “บิดาแห่งชาติ” ที่นำพาประเทศสู่การประกาศเอกราช และเป็นผู้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ สถานที่สำคัญของเวียดนามครั้งนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ตลอดจนการให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศพันธมิตรที่สำคัญของไทยอย่างเวียดนาม จากนั้น เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเข้าร่วมประชุมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก กับนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล.-314.-สำนักข่าวไทย

“เปรมชัย” นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัว กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม

กทม. 16 พ.ค.-“เปรมชัย” ผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม ด้านวิศวกร ผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ทยอยเข้ามอบตัวเช่นกัน เวลา 08.00 น. นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประมูลโครงการก่อสร้างหลัก อาคาร สตง.แห่งใหม่ ซึ่งพังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 , 238 นายเปรมชัย นั่งวีลแชร์ มีพยาบาลส่วนตัวประกบ เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ พร้อมทนายความและญาติ เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้บริหารบริษัทกิจการร่วมค้า รวมถึงกลุ่มวิศวกร อีก 13 […]