ผบ.ตร.วางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.4 ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 3 แห่งใหม่

17 ส.ค. – ผบ.ตร.เยี่ยมถิ่นเก่า วางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 และเปิดหอพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ ณ ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 3 (ภ.3) แห่งใหม่ มอบสิ่งของบำรุงขวัญ โดยขอบคุณความเข้มแข็ง ภ.3 ด้านยาเสพติด จราจร ที่นำไปต่อยอดนโยบาย ตร. เน้นย้ำเป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความผาสุกประชาชน


วันนี้ (17 ส.ค.) ณ ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 3 แห่งใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช (รัชกาลที่ 4) และพิธีเปิดหอพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ โดยมี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ท.สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 , พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3, รอง ผบช.ภ.3, ผบก.ในสังกัด ภ.3 ข้าราชการตำรวจ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม

ผบ.ตร.ไปยังลานพิธี ทำทำพิธีบวงสรวง ต่อด้วยพิธีสงฆ์ โดยพระพรหมวชิรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 และเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมคณะสงฆ์ ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ ผบ.ตร.ประกอบพิธีเจิมแผ่นศิลาฤกษ์ ไม้มงคล 9 แท่ง แผ่นอิฐเงิน อิฐทอง อิฐนาถ ถวายพระพรหมวชิรนายก เพื่อเจิม พร้อมปิดแผ่นทอง วางแผ่นศิลาฤกษ์ วางตลับนพรัตน์ลงบนศิลาฤกษ์ วางพวงมาลัย โปรยดอกไม้ เหรียญเงินเหรียญทองลงแผ่นศิลาฤกษ์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา จากนั้น ผบ.ตร. พร้อมพระพรหมวชิรนายก และผู้บังคับบัญชา ร่วมพิธีเปิดหอพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ ต่อด้วยพิธีทำบุญอุทิศทักษิณานุประทาน เป็นอันเสร็จพิธี


สำหรับที่ทำการตำรวจภูธรภาค 3 แห่งใหม่ เป็นดำริของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สมัยเป็น ผบช.ภ.3 เห็นว่าที่เดิมคับแคบ จึงได้หาที่ใหม่ บนที่ดิน 12 ไร่ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 200 ล้านบาท จะสร้างเสร็จปี 2568 พร้อมพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4

ส่วนหอพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ เป็นพระประจำตำรวจ ภ.3 ที่ ผบ.ตร.ได้สร้างขึ้นเมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.3 เช่นกัน โดยขอพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระสังฆราช แล้วนำแจกจ่ายไปสักการะทุกจังหวัดใน ภ.3 โดยมีการจัดพิธียิ่งใหญ่ นิมนต์เกจิอาจารย์มาร่วม และมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก เงินได้มาจากการทำพระประจำ ภ.3 ครั้งนั้น เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ได้นำมาเป็นกองทุนเพื่อข้าราชการตำรวจ ภ.3 ชื่อ “กองทุนบุญรักษา” จำนวน 10,000,000 บาท เพื่อให้ตำรวจที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นทุนที่ใช้จนปัจจุบัน

หลังจากเสร็จพิธี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมตำรวจภูธรภาค 3 สักการะพระพุทธตรีวิสุทธิธรรมประชานาถ ขึ้นแท่นรับความเคารพ มอบสิ่งของตรวจเยี่ยม พร้อมกล่าวให้โอวาทข้าราชการตำรวจ โดยหลังจากตรวจเยี่ยม มอบสิ่งของบำรุงขวัญ ผบ.ตร.ได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน ให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.3 อีกด้วย


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ในอดีตเคยมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อปี 2552 เป็นเวลา 1 ปี และได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อีกครั้งในปี 2560 เป็นเวลา 1 ปี ตลอดระยะเวลาที่มาปฏิบัติหน้าที่ได้รับความร่วมมือร่วมใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการจากข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 ทั้ง 8 จังหวัด ด้วยดีเสมอมา มีการขับเคลื่อนงานโครงการสำคัญ ๆ นำไปต่อยอด และนำไปใช้ในการเป็นแบบอย่างในการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้แก่ข้าราชการตำรวจทั่วทั้งประเทศ จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการปักกลด ที่เริ่มต้นนำไปสู่โครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั่วประเทศ โครงการบันทึกข้อมูลตามแบบรายงานการสืบสวนอุบัติเหตุทางถนน (อบถ.) เพื่อการวางแนวทางในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และนำไปสู่การขับเคลื่อนโครงการสุภาพบุรุษจราจรสัญจรปลอดภัยในปีนี้ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถือว่าตำรวจ ภ.3 ได้มีส่วนสำคัญในการริเริ่มและวางรากฐานในการปฏิบัติงานให้ นำไปใช้ไปต่อยอด และสิ่งหนึ่งที่ตนพยายามจะทำก็คือการดูแลเรื่องสวัสดิการการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ในส่วนของ ภ.3 เอง ได้มีโอกาสจัดตั้งกองทุน “บุญรักษา” ได้นำเงินส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจไม่มากมาใช้ในการดูแลสวัสดิการช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัวและช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่

“ขอขอบคุณ ผู้บังคับบัญชาทุกท่าน กำลังพลเจ้าหน้าที่ทุกนาย ซึ่งอาจจะมาเยี่ยมอำลาหน่วยไม่ครบทุกพื้นที่ แต่ก็ถือว่าได้กลับเข้ามา ภ.3 อีกครั้ง ได้มาพบปะพูดคุย ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีใจ ได้ฝากตำรวจ ภ.3 การที่เป็นข้าราชการตำรวจให้ตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ในการดูแลสารทุกข์สุขดิบแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ให้แก่พี่น้องประชาชน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขอให้เป็นตำรวจมืออาชีพและก็ทำงานเชิงรุก เพื่อความผาสุกของชุมชน”. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่มแผ่นดินไหว

72 ชั่วโมง ยังมีหวังพบผู้รอดชีวิตตึก สตง. ถล่ม

ใกล้ครบ 72 ชั่วโมงเหตุตึก สตง. ถล่ม แต่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม และยังมีความหวังในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก

ตรวจอาคารแผ่นดินไหว

ตรวจอาคารใน กทม.แล้วกว่าหมื่นแห่ง พบสีแดง 2 แห่ง ยังห้ามเข้าใช้ จากเหตุแผ่นดินไหว

หน่วยงานร่วมแถลงสถานการณ์ภาคเศรษฐกิจและระบบทางการเงินจากเหตุแผ่นดินไหว เผยตรวจสอบอาคารแล้วกว่า 10,000 แห่ง เป็นสีเขียว พบ 2 แห่ง ยังมีสีแดงไม่ให้เข้าใช้อาคาร แจง 4 บริษัทประกันภัยตึก สตง.ถล่ม ทำประกันภัยต่อกับบริษัทประกันต่างประเทศ

อพยพออกจากตึก

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ แจ้งให้เข้าใช้งานในอาคารได้แล้ว

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ สั่งคนออกจากตึกทันที หลังเกิดเสียงดัง-รอยร้าว-เศษปูนร่วง ล่าสุดแจ้งให้เข้าใช้งานในอาคารได้แล้ว

ทองคำนิวไฮ

หุ้นร่วง-ทองไปต่อ ขึ้นแรง ทำนิวไฮอีก

หุ้นไทยเปิดตลาดเช้านี้ร่วงราว 20 จุด หลังต้องปิดตลาดชั่วคราวหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 มี.ค.68 ด้านราคาทองคำสร้างสถิติสูงสุดต่อเนื่อง