รวบพ่อเลี้ยงกาน ลอบขนยาบ้าเข้ากรุง

กทม. 14 ส.ค.- สืบนครบาลโชว์สกัดยาบ้าก่อนเข้าเมืองหลวง รวบพ่อเลี้ยงกาน นักซิ่งเจ้าความเร็วขนยาบ้าเข้ากรุง 1,180,000 เม็ด ตามยึดทรัพย์กว่า 10 ล้านบาท


สืบนครบาลสกัดยาบ้าคาปั๊มน้ำมัน ถนนสายเอเชีย จังหวัดสิงห์บุรี ก่อนเข้ากรุงเทพ ใช้เวลากว่า 2 เดือนจับตาพฤติกรรม พ่อเลี้ยงกาน แม่อาย เชียงใหม่ เจ้าของอู่แต่งรถซิง โมดิหายรถแข่ง อำพรางยาบ้า 1.18 ล้านเม็ดซุกซ่อนอยู่ในลังบรรจุเครื่องปั่นไฟ ที่มีการแปลงสภาพถอดเครื่องและอุปกรณ์ปั่นไฟออก คงเหลือแต่ Case หุ้ม บรรทุกหลังรถยนต์กระบะ การลักลอบขนยาเสพติดทุกครั้งจะทำงานเพียงคนเดียวโดยใช้รถที่ตนเองโมดิฟายความเร็ว รถยนต์เจ้าหน้าที่สืบนครบาลพังไป 1 คันเพราะพยายามทำความเร็วสู้คนร้าย และตามยึดทรัพย์สินผู้ต้องหากว่า 10 ล้านบาท

ตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและเป็นหนึ่งในปัญหาชาติที่สำคัญ ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ลงมาให้ความสำคัญด้วยตนเอง


เมื่อวันที่ 11-13 สิงหาคม 2566 พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตร. ( ผอ.ศอ.ปส.ตร.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.สําเริง สวนทอง รอง ผบช.น. สั่งการให้พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่างรอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข  ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ, พ.ต.ท.นิติกรณ์  ระวัง รอง ผกก.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ ให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายลงพื้นที่ตอนใน และกระจายสู่ชุมชนพื้นที่กรุงเทพฯ จนกระทั่งทำการจับกุมตัว นายจิรศักดิ์ หรือกาน บุญชัย อายุ 42 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 1,181,200 เม็ด รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนด์ ทะเบียน งต 2112 เชียงใหม่  จำนวน 1 คัน พร้อมตามตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติม เป็น รถยนต์ จำนวน 11 คัน พร้อมรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน

โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” สถานที่จับกุม บริเวณภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.หงษ์ชวลิต สิงห์บุรี ติดถนนสายเอเชีย ต.บางมัญ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี

พฤติการณ์ในการกระทำความผิดคือ สืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ จำนวนหลายคดีอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้สืบสวนขยายผลเรื่อยมา จนสืบทราบว่ามีบุคคลลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือเพื่อมาจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  ฉายา พ่อเลี้ยงกานทราบชื่อภายหลังคือ นายจิรศักดิ์ อายุ 42 พักอาศัย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ต่อมาวันที่ 11 ส.ค.2566 จากการสืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนด์ ทะเบียน งต 2112 เชียงใหม่ ของนายจิรศักดิ์ พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข  ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. จึงได้รายงานให้พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และผู้บังคับบัญชาทราบและได้สั่งการให้นำกำลังไปเฝ้าและวางกำลังในเส้นทาง ต่อมา พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนด์ ทะเบียน งต 2112 เชียงใหม่ ผ่านบริเวณ ถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพมหานคร จึงได้ติดตามและสามารถให้รถยนต์คันดังกล่าวหยุดจอดได้ที่บริเวณปั้มน้ำมัน ป.ต.ท.หงษ์ชวลิต สิงห์บุรี ติดถนนสายเอเชีย ต.บางมัน อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว


ผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบ ยาบ้า ของกลางซุกซ่อนอยู่ในลังบรรจุเครื่องปั่นไฟ ยี่ห้อ BISON รุ่น  DG – 6700 418 CC  ที่มีการแปลงสภาพถอดเครื่องและอุปกรณ์ปั่นไฟออก คงเหลือแต่ Case หุ้ม จำนวน 2 ลัง บรรทุกหลังรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนด์ ทะเบียน งต 2112 เชียงใหม่ จึงได้ทำการจับกุม พร้อมขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านและยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกว่า 10 ล้านบาท

สอบถามผู้ต้องหาให้การว่าตนเปิดอู่แต่งรถ เพื่อโมดิฟายรถแข่ง และในการลักลอบขนยาเสพติดทุกครั้งจะทำงานเพียงคนเดียวโดยใช้รถที่ตนเองโมดิฟายความเร็วแล้ว จะใช้วิธีนำยาเสพติดมาอำพรางด้วยการซุกซ่อนไว้ในอุปกรณ์ต่างๆ บรรทุกท้ายรถยนต์กระบะ ก่อนลำเลียงลงไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล ภายหลังจากถูกจับกุมพร้อมของกลาง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สืบสวนนครบาล ได้เร่งรัดทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายสู่ชุมชน พื้นที่ กทม. และปริมณฑล  ผู้ต้องหารายนี้เป็นบุคคลกว้างขวางในพื้นที่ และรับว่าในแต่ละครั้งตนจะขนยาเสพติดเพียงคนเดียวเพื่อไม่ต้องแบ่งเงินกับใคร เห็นว่าเป็นรายได้ที่ดีมาก แต่อย่างใรก็ตามเมื่อถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ไม่มีใครที่จะรอดจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ แม้จะเก่งแค่ใหนก็ตาม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย