รวบมือสปาต้าโหด กระหน่ำฟันคอคู่อริดับ หนีคดี 18 ปี

สตูล 12 ส.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบมือสปาต้าโหด กระหน่ำฟันคอคู่อริดับ ใน จ.สงขลา หนีคดีกว่า 18 ปี กบดานใน อ.ละงู จ.สตูล ระหว่างหลบหนีร่วมกับพี่ชายทำร้ายผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส อีก 1 คดี


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุม นายธวัชชัย อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดสงขลาที่ 41/2549 ลง 16 มกราคม 2549 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย”

พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 4 ม.ค.49 เวลาประมาณ 15.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร ได้รับแจ้งแจ้งเหตุคนฆ่ากันตาย เหตุเกิดที่บริเวณ ถนนสายระโนด – สงขลา หน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอสิงหนคร จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้ตายชื่อ นายอภิสาร อายุ 23 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ สภาพศพมีบาดแผลถูกเฉือดด้วยของมีคมที่บริเวณลำคอ หลอดลมขาด ปากขาด ศีรษะด้านหลังมีรอยถูกฟัน ขมับขวาถูกฟัน


จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายมีเรื่องทะเลาะกับนายธวัชชัย และนายจักรี สองพี่น้อง หลังจากนั้นคนร้ายทั้งสองได้ร่วมกันใช้มีดสปาต้า กระหน่ำฟันไปตามลำตัว และศีรษะ ของผู้ตายหลายแผลจนถึงความตาย แล้วหลบหนีไป พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับคนร้ายทั้งสอง ซึ่งจากพฤติการณ์การก่อเหตุที่ทารุณโหดร้าย และนายธวัชชัย ได้ใช้ความชำนาญพื้นที่ หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาได้หลายปี ตร.จึงขึ้นบัญชีหมายจับดังกล่าว ให้อยู่ในประกาศสืบจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ลำดับที่ 184

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบทราบว่า นายธวัชชัย ได้หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ ม.6 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล จึงได้วางแผนเข้าทำการปิดล้อมจับกุม โดยเมื่อเดินทางไปถึงบริเวณบ้านหลังหนึ่งที่เชื่อว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนอยู่ จึงได้วางกำลังปิดล้อมบริเวณโดยรอบ และกดดันให้นายธวัชชัย ออกจากบ้าน มาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งนายธวัชชัย ยอมจำนนและเดินออกมาจากบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าทำการแสดงหมายจับและจับกุมตัวนายธวัชชัย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร ภ.จว.สงขลา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุม นายธวัชชัย รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ ที่เจ้าหน้าที่แสดงให้ดูจริง และรับว่าได้ร่วมกันนายจักรี หรือเอก พี่ชายใช้อาวุธมีดสปาต้า กระหน่ำฟันผู้ตายจนเสียชีวิตจริง จากนั้นได้หลบหนีไปด้วยกันไปพักอาศัยอยู่ที่ จ.พังงา และในปี พ.ศ.2551 ได้ไปก่อเหตุ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส อีกหนึ่งคดี ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี โดยนายธวัชชัย ได้หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก