กทม. 7 ส.ค.-รวบ “เอส คอลาย” เดนนรกบังคับลูกเลี้ยงวัย 12 ปี เสพยาและข่มขืน ลุ้นระทึกไล่ล่า 48 ชม. ช่วยเด็กปลอดภัย
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หัวหน้าชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปฏิบัติการที่ 5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุด PCT5, สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 110 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายวีรยุทธ หรือ “เอส คอลาย” อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหา “ความผิดเกี่ยวกับเพศ” โดยจับกุมตัวได้ภายในซอยตลาดวังหลัง เมื่อ 6 ส.ค.66 เวลาประมาณ 10.50 น. สอบพบประวัติต้องโทษคดีอาญา 13 คดี เช่น เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1, ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1, ลักทรัพย์, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ชิงทรัพย์, วิ่งราวทรัพย์ และกระทำพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารฯ
พฤติการณ์กล่าวคือ “เอส คอลาย” ได้พาลูกเลี้ยงอายุ 12 ปี ออกจากบ้านและพาไปร่อนเร่ “บังคับเสพยาเสพติดและกระทำชำเรา” ด้านผู้เป็นแม่ทราบเรื่องพยายามติดต่อ โพสต์ข้อความประกาศตามหาลูกสาว เรื่องถึง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. รายงานให้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศอ.ปส.ตร.ทราบ พร้อมส่งมือดีชุดสืบนครบาล และสืบ 110 ติดตามไล่ล่าเดนทรชนรายนี้ทันที กระทั่งไปจับกุมตัวได้ที่ตลาดวังหลัง และสามารถช่วยเหลือ ด.ญ.ได้ก่อนจะถูกคนร้ายพาหนีลงไปทางภาคใต้ ในชั้นจับกุม นายเอส คอลาย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองลงมือกระทำชำเราลูกเลี้ยงวัย 12 ปี จริง
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ประวัติคนร้ายรายนี้ถือว่าโชกโชนมากไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด , ชิงทรัพย์ , อนาจาร ยาวเป็นหางว่าว เป็นภัยสังคม และจากแผนประทุษกรรมในคดีล่าสุดนี้เรียกได้ว่าไม่เหลือศีลธรรมในจิตใจ กระทำกับเด็กผู้หญิงวัยเพียง 12 ปี ที่เป็นลูกเลี้ยงของตนเองได้ และที่ผมรับไม่ได้คือการบังคับให้เด็กเสพยาเสพติดก่อนลงมือกระทำชำเราเด็ก ผมไม่ต้องการให้คนเช่นนี้เพ่นพ่านในสังคม จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน หากพบว่าบุตรหลานของท่านเคยตกเป็นเหยื่อ หรือมีแนวโน้มที่จะถูกคนร้ายรายนี้กระทำมิดีมิร้าย โปรดแจ้งเบาะแสมาที่เราทางเพจเฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง และแม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น.”.-สำนักข่าวไทย