คุมตัวเชฟร้านดัง มือฆ่าหั่นศพเพื่อนต่างชาติบนเกาะพะงัน

สุราษฎร์ธานี 5 ส.ค.-คดีสะเทือนขวัญบนเกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี ที่พบชิ้นส่วนมนุษย์ในถุงขยะสีดำ ล่าสุดตำรวจควบคุมตัวฆาตกรโหดได้แล้วหลังก่อเหตุเพียง 2 วัน เป็นเชฟร้านดังชาวสเปน เพื่อนชายคนสนิทของผู้ตาย รับชำแหละก่อนใส่ถุงขยะทิ้ง

เหตุคนงานคัดแยกขยะของเทศบาลตำบลเกาะพะงัน พบชิ้นส่วนมนุษย์ในถุงขยะสีดำ สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านรวมถึงชาวต่างชาติบนเกาะ ตรวจสอบภายในถุงขยะพบท่อนขาไม่ทราบซ้ายหรือขวา เนื่องจากไม่มีฝ่าเท้า ชิ้นส่วนดังกล่าวมีสองชิ้น เป็นชิ้นท่อนขาเหนือหัวเขา และชิ้นส่วนใต้หัวเขา นอกจากนี้ยังพบเสื้อผ้าที่คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิตซึ่งน่าจะเป็นชาวต่างชาติ  ขณะเดียวก็มีชายชาวต่างชาติคนหนึ่งมาแจ้งความว่าเพื่อนต่างชาติหายตัวไป ตำรวจสืบสวนจนทราบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายเอ็ดวิน สัญชาติโคลัมเบีย อายุ 44 ปี  


ตำรวจเร่งสืบสวนจนพบผู้ต้องสงสัย ชื่อ นายแดเนียล ชาวสเปน อายุ 29 ปี เป็นเชฟร้านอาหารชื่อดัง และนายแดเนียลก็คือคนที่ไปแจ้งความว่านายเอ็ดวินที่เป็นเพื่อนของตนเองหายตัวไป ต่อมาตำรวจได้ข้อมูลเชิงลึกว่านายแดเนียลได้ไปซื้อมีดสับขนาด 8 นิ้ว, ถุงมือยาง, ฟองน้ำ, ฝอยสแตนเลส, น้ำยาล้างทำความสะอาด, และถุงขยะขนาดใหญ่จากร้านสะดวกซื้อในช่วงเย็นวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามตัวนายแดเนียลและสามารถควบคุมตัวได้เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.66)  

หลังเค้นสอบนายแดเนียลยอมรับสารภาพว่าได้ฆ่านายเอ็ดวิน เพื่อนชายสัญชาติโคลัมเบีย จากนั้นได้ใช้ความรู้จากการเป็นเชฟชำแหละชิ้นส่วนก่อนใส่ถุงขยะนำไปทิ้ง  


จากการสอบสวนทราบว่า นายแดเนียลนัดหมายกับนายเอ็ดวินมาเที่ยวที่เกาะพะงันด้วยกัน โดยนายเอ็ดวินเป็นผู้จองห้องพัก ระหว่างวันที่ 31 ก.ค.-3 ส.ค. และเมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายแดเนียลได้เข้าที่พักก่อนที่นายเอ็ดวินจะตามมา จากนั้นวันที่ 2 ส.ค. นายแดเนียลได้ไปรอรับนายเอ็ดวินที่ท่าเรือเกาะพะงันและพาไปรับประทานอาหารและเที่ยว จนกระทั่งหลังเที่ยงคืนของวันที่ 2 ส.ค. นายแดเนียลก็ไปแจ้งความที่ สภ.เกาะพะงัน ว่านายเอ็ดวินหายตัวไป โดยไม่ทราบว่าเดินทางไปไหนไม่สามารถติดต่อได้ 

การสืบสวนยังพบว่า นายแดเนียลได้เปิดโรงแรมอีกแห่งหนึ่งใกล้หาดสลัด และได้พานายเอ็ดวินไปร้านอาหารใกล้กับโรงแรมดังกล่าว หลังจากนั้นนายเอ็ดวินก็หายตัวไป และหลังพบเบาะแสว่านายแดเนียลไปซื้อมีดและอุปกรณ์ต่างๆ ตำรวจจึงได้เข้าตรวจภายในห้องพักที่นายแดเนียลพานายเอ็ดวินเข้าไปพัก พบว่าตู้เย็น ห้องน้ำ อ่างล้างจานภายในห้องถูกทำความสะอาด แต่ในท่อน้ำทิ้งมีคราบเลือด เนื้อเยื่อ คราบไขมัน เส้นขน ส่วนสาเหตุ คาดเป็นกลุ่มชายรักชายที่มีปัญหาความรักจึงก่อเหตุสยองขึ้นในครั้งนี้  

การจับกุมครั้งนี้ ทำให้ชาวเกาะพะงันและเกาะสมุยรวมถึงนักท่องเที่ยวที่อาศัยบนเกาะต่างชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะพะงัน และทีมชุดจับกุมที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ภายใน 2 วัน  เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ลั่นพ่อป่วยจริง แจงสังคมได้

ทำเนียบ 13 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ลั่นแจงสังคมได้ พ่อป่วยจริง ใครจะคิดอย่างไร ห้ามไม่ได้ ชี้มติแพทยสภาว่าไปตามกระบวนการ เผย “ทักษิณ” เตรียมไปศาล 13 มิ.ย.นี้ ย้ำเหตุเกิดก่อนตัวเองนั่งเก้าอี้นายกฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ปรากฏการณ์ดังกล่าวมองว่าเป็นการล้อมกรอบพรรคเพื่อไทย และมองกันว่าเป็นการแบ่งชนชั้นว่า ที่จริงแล้วเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติว่าเป็นอย่างไร และยังไม่มีแพทยสภาคนใด ที่ออกมาพูดว่านายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่จริง ยังไม่ได้มีข้อสรุปตรงนี้และทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ จะแปลว่าอย่างไรก็ไม่ทราบจริงๆ ส่วนจะเป็นชนชั้นอะไรอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลย เมื่อถามว่าหลังแพทยสภามีมติออกมา จะมีผลอะไรตามมากับนายทักษิณหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าไม่มีและคุณพ่อเตรียมที่จะชี้แจงแค่นั้น เป็นการชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง เมื่อถามย้ำว่าประเด็นนี้สามารถแจงสังคมได้ใช่หรือไม่นางสาวแพทองธารกล่าวว่า แจงได้ และพูดมาตลอดว่า นายทักษิณอายุมากแล้ว และเคยเป็นโควิดตั้งแต่ ก่อนกลับประเทศไทยตอนอายุประมาณ 72 ปี ตนจำได้เพราะไม่สบายหนัก และมีประวัติเรื่องนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่การรักษาที่เมืองนอก และเกี่ยวเนื่องกันมา […]

เพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ซอยฉลองกรุง 55 ดับสนิทแล้ว

กทม. 13 พ.ค. – เหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ซอยฉลองกรุง 55 ไฟดับแล้วทุกจุด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบสารเคมี เตรียมปิดศูนย์บัญชาการวันนี้ แต่เปิดศูนย์พักพิงให้บริการประชาชนต่อเนื่อง กรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ เกิดขึ้นตั้งแต่ 16.00 น. ของวันที่ 11 พฤษภาคม กระทั่งเมื่อคืนนี้ช่วง 01.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม เกิดมีไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้งบางจุด เนื่องจากอุณหภูมิพลาสติกที่สูงสะสมประกอบกับลมแรง แต่เป็นเพียงหย่อมเล็กๆ และไม่มีการลามไปยังจุดอื่นๆ เจ้าหน้ายังคงคอยควบคุมอุณหภูมิเพื่อป้องกันการลุกไหม้ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน จนสามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศขณะนี้ พบว่ายังคงมีกลุ่มควันลอยออกมาจากตัวอาคารที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ และยังคงมีกลิ่นสารเคมีลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ วันนี้ นางเกศี จันทราประภาวัฒน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ภายในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ สำนักงานเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ด้วย ด้าน นายธราพงษ์ เพ็ชร์คง ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุด ควบคุมเพลิงได้สนิททั้งหมดในช่วงเที่ยงของวันนี้ […]

กทม.ทำบุญให้ผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากตึก สตง. ถล่ม

กทม. 13 พ.ค.-พิธีตักบาตรพระสงฆ์และสวดพระพุทธมนต์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากอาคาร สตง. ถล่ม พบมี ผู้ว่าฯ สตง.เข้าร่วมพิธี 13 พ.ค.68 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่บริเวณชั้น 3 ภายในพื้นที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 109 รูป และพิธีสวดพระพุทธมนต์ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิต จากอาคาร สตง. ถล่ม โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เป็นประธาน พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม., นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. รวมถึงอาสาหน่วยกู้ภัยและผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงานช่วยเหลือตลอดทั้ง 45 วันของปฏิบัติการ โดยพบว่ามี นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมพิธีด้วย จากนั้นทีมงานที่ปฏิบัติงานทั้งหมด ทั้งหน่วยกู้ภัย รวมถึงทีมจากศูนย์บัญชาการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีมสุนัขกู้ภัย […]

ลา “บิ๊กป้อม” อีก 2 “อุตตม-สนธิรัตน์”

กทม. 13 พ.ค.-ลา “บิ๊กป้อม” อีก 2 “อุตตม-สนธิรัตน์”​ ไขก๊อก สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากพรรคพลังประชารัฐ แจ้งว่า นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พาณิชย์ และพลังงาน ได้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค พลังประชารัฐ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเหตุผลสำคัญคือสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน และความกังวลถึงแนวทางการทำงานของพรรคต่อจากนี้ โดยทั้งนายอุตตม และสนธิรัตน์ ได้เข้าไปลาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. แล้ว และพล.อ.ประวิตรได้อวยพรขอให้ทั้ง2คนโชคดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ถือเป็นหัวหน้าและเลขาฯ พรรค พลังประชารัฐ คู่แรกในการนำพรรคลงเลือกตั้ง เมื่อปี2562 และได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งนี้ ตำแหน่งสุดท้ายของนายอุตตม ใน พรรคพลังประชารัฐ คือรองหัวหน้าพรรค และประธานกรรมการนโยบาย ส่วนนายสนธิรัตน์ เป็นรองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการพรรค.-319.-สำนักข่าวไทย