ผบ.ตร. มอบ “บิ๊กโจ๊ก” สอบสวนปมส่วยบ้านมูโนะ

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – ผบ.ตร. มอบหมาย “บิ๊กโจ๊ก” สอบสวนปมส่วยบ้านมูโนะ ย้ำสำนักงานตำรวจแห่งชาติฯ ไม่มีหน้าที่ออกใบอนุญาตตั้งโรงงานพลุ มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง


จากกรณีที่นายอัจริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำหนังสือร้องเรียนถึงพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนขบวนการรับส่วยบ้านมูโนะ จ.นราธิวาส

พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ให้ตรวจสอบเรื่องทุจริตแล้ว และได้มอบหมาย พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการสอบสวน เพื่อให้ได้รับความกระจ่างว่ามีเรื่องการเรียกรับส่วยหรือไม่ และจะชี้แจงให้ประชาชนทราบเป็นระยะ อีกทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงในการขอใบอนุญาตจัดตั้งโรงงานพลุ มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง ขอตรวจสอบเบื้องต้นก่อน แต่ยังไม่ถึงกับตั้งคณะทำงานตอนนี้ขอให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ก่อน


ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงว่า “จ่าฟาโร” เป็นมือเก็บส่วยนั้น ทราบว่าทางพื้นที่ได้มีคำสั่งย้ายออกจากพื้นที่แล้ว เช่นเดียวกับ 4 เสือ สภ.มูโนะ เพื่อให้ง่ายและโปร่งใสต่อการสอบสวน ส่วนจะมีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ ย้ำว่าขอให้มีความชัดเจนกว่านี้ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจโดยตรง ยังไม่ขอพูดไปก่อนเกรงจะกระทบหน่วยงานอื่นด้วย

ส่วนที่มีการอ้างว่า เมื่อปี 2553 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้ออกหนังสืออำนวยความสะดวกการขนส่งพลุให้บริษัทเจ้าของโกดังว่า จะต้องไปตรวจสอบก่อนเพราะหนังสือดังกล่าวนานหลายปีแล้วไม่รู้ว่าเกี่ยวพันกับเรื่องนี้อย่างไร ยังใช้ได้หรือไม่ เบื้องต้นเชื่อว่า ไม่น่าจะเป็นหนังสืออนุญาตแต่เป็นการแนะนำว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของใคร ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

สำหรับสาเหตุของการเกิดระเบิดน่าจะเกิดจากความประมาทเลินเล่อของคนที่อยู่ในโกดัง ซึ่งหากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องใครมีหน้าที่ดูแลปล่อยให้เข้าไปก็ถือว่าเกี่ยวข้องกับประมาทก็ต้องถูกดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย