กรุงเทพฯ 27 ก.ค. – นักอาชญาวิทยายอมรับ การถูกล่วงละเมิดทางเพศ-กระทำรุนแรงในวัยเด็กเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ถูกกระทำ และมักก่อความรุนแรง หรือก่อคดีอาชญากรรม เมื่อโตขึ้น
รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต กล่าวว่า จากกรณีคนร้ายล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยอ้างว่าฝังใจ เพราะวัยเด็กเคยถูกกระทำในลักษณะดังกล่าวมาก่อนนั้น ในทางอาชญาวิทยา พบงานวิจัยของนักวิชาการ ระบุชัดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่คนร้ายซึ่งเคยถูกกระทำการรุนแรงในช่วงวัยเด็กไม่ว่าจะเป็นการล่วงละเมิดทางเพศในรูปแบบใดหรือถูกทำร้ายร่างกาย ในลักษณะใดก็ตาม เมื่อเติบโตขึ้นก็จะก่อความรุนแรงกับบุคคลอื่น ซึ่งคนร้ายมากเลือกลงมือกับเพศสภาพที่อ่อนแอกว่า เช่น เด็ก คนพิการ คนชรา หรือแม้แต่ผู้หญิง โดยเฉพาะเด็กตกเป็นเหยื่อมากที่สุด เนื่องจากเด็กยังเป็นบุคคล ไร้ซึ่งความสามารถในการตอบโต้หรือต่อสู้หรือขัดขวางการกระทำของคนร้ายได้ จึงมักตกเป็นเหยื่อของอาชญากร
สำหรับวิธีการแก้ปัญหา พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรต้องให้คำแนะนำคอยดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดคอยสอน ให้เด็กหลีกเลี่ยงบุคคลที่ไม่น่าไว้ใจ หรือแนะนำวิธีการเอาตัวรอดจากการตกเป็นเหยื่อของอาชญากร เช่น ไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า ไม่รับอาหาร น้ำดื่ม จากคนแปลกหน้า คนที่ไม่รู้จัก ไม่เข้าใกล้ คนเมาสุรา คนที่อยู่ในภาวะ โกรธโมโห หรือคนที่ไม่น่าไว้ใจ
รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องยุติการกระทำรุนแรงภายในครอบครัว เพื่อป้องกันไม่ให้บุตรหลานซึมซับพฤติกรรมดังกล่าวของบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นบุพการีหรือผู้ปกครอง.-สำนักข่าวไทย
