กรุงเทพฯ 25 ก.ค.- ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ล้างบางอาวุธปืน คืนสันติชาวประชา” ค้น 1,658 จุด ทั่วประเทศ ยึดอาวุธปืนกว่า 3,000 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนกว่า 160,000 นัด
เวลา 11.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. แถลงผลปฏิบัติการ “ล้างบางอาวุธปืน คืนสันติชาวประชา” ระดมกวาดล้างอาชญากรรมตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการบังคับใช้กฎหมายฯ ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 กันยายน โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การกวาดล้างอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุน ผิดกฎหมาย ผ่านทางช่องทางออนไลน์ รวมถึงความผิดที่เกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง
โดยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ตำรวจ สอท.มีการระดมตรวจค้นเป้าหมายผู้จำหน่ายปืนออนไลน์ส่งขายให้ลูกค้าทั่วประเทศกว่า 300 จุด ร่วมกับการเข้าตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกันทั่วประเทศจำนวน 1,658 จุด จับกุมผู้ต้องหา 966 ราย ตรวจยึดของกลางอาวุธปืนเถื่อน 811 กระบอก อาวุธปืนมีทะเบียนเป็นของบุคคลอื่น 99 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 44,540 นัด ระเบิด 2 ลูก และยาบ้า 6,239 เม็ด
ในวันดังกล่าวตำรวจได้วิสามัญนายบูม อายุ 28 ปี คนร้ายในคดียาเสพติด และพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน มีหมายจับจำนวน 3 หมาย ขณะเข้าตรวจค้นบ้านของนายบูม ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี และใช้อาวุธปืนยิง ตำรวจจึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้จนเสียชีวิต จากการตรวจสอบศพ พบอาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. ตกอยู่ข้างตัว ลูกระเบิดชนิดกว้าง M 67 1 ลูก และระเบิดควัน 2 ลูก อยู่ในกระเป๋าสะพายของผู้ต้องหา
ขณะที่ผลระดมกวาดล้างตลอดทั้งเดือนตั้งแต่วันที่ 1-21 กรกฎาคม สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 3,016 ราย ตรวจยึดอาวุธปืนกว่า 3,120 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนกว่า 163,880 นัด ระเบิด 2 ลูก และยาบ้า 6,239 เม็ด
ด้าน พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้มุ่งเน้นตรวจค้น จับกุม กลุ่มคนที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ทั้ง On Ground และผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้ คาดหวังว่าจะสามารถลดการใช้อาวุธปืนก่ออาชญากรรม และทำให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนกับสังคมด้วย พร้อมขอบคุณตำรวจทุกหน่วยงาน ฝ่ายปกครอง และประชาชนที่ร่วมกันทำงานและแจ้งเบาะแสจนสามารถกวาดล้างอาวุธปืนและเครื่องกระสุนได้เป็นจำนวนมาก โดยจะดำเนินการกวาดล้างต่อไป แม้จะสิ้นระยะเวลามาตรการหลังเดือนกันยายนก็ตาม.-สำนักข่าวไทย