“รพี” ยันไม่ขอโทษ “แอม ไซยาไนด์” คดีหมิ่นประมาท

กรุงเทพฯ 24 ก.ค.- “รพี” ยันไม่ขอโทษ “แอม ไซยาไนด์” คดีหมิ่นประมาท มั่นใจทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ ด้านครอบครัว “ก้อย” ที่เสียชีวิต ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม


นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีแอม ไซยาไนด์ พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เดินทางมายังศาลอาญา เพื่อร่วมรับฟังการไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่นายรพี ถูกนางสรารัตน์ หรือแอม ไซยาไนด์ เป็นโจทก์ฟ้องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่นายรพี ไปออกรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง

นายรพี กล่าวว่า วันนี้เตรียมพยานที่จะเบิกความเป็นมารดาของ น.ส.ก้อย เพื่อนของก้อย และตนเอง เพื่อจะเบิกความให้ศาลเห็นถึงเจตนาที่ตนเองพูดออกไป เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์สาธารณะ แต่หากศาลเห็นว่าตนเองทำผิด ก็สามารถพิจารณาลงโทษ พร้อมยอมรับสิ่งที่ตนเองกระทำ และยินดีที่จะไปขอโทษตามข้อเรียกร้องของโจทก์ แต่หากให้ตนเองเข้าไปขอโทษทั้งที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา ก็คงจะไม่ทำ แต่ถ้าศาลพิจารณาว่าตนเองไม่ผิด ก็จะหารือกับทนายเดชา ในการฟ้องกลับอย่างแน่นอน


ด้านทนายเดชา กล่าวว่า ในการฟ้องกลับสามารถทำได้ เพราะเมื่อพิจารณาพยานหลักฐานแล้ว สามารถที่จะชี้แจงและทำความเข้าใจเพื่อหักล้างการถูกกล่าวหาของโจทก์ได้ พร้อมยอมรับว่า เมื่อเช้าได้โทรศัพท์พูดคุยกับทนายพัช โดยทนายพัช ระบุว่าอยากให้นายระพี ไปขอโทษแอม ก็จะยอมถอนฟ้อง

ทั้งนี้ ทนายพัช ยังบอกด้วยว่า ศาลสั่งเบิกตัวแอม ไซยาไนด์ จากเรือนจำ ซึ่งมาถึงตั้งแต่ช่วงเช้า และทางฝ่ายโจทก์ มีพ่อกับแม่ของแอมมาเป็นพยานด้วย

พร้อมกันนี้ ทนายเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ครอบครัวของ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีที่พนักงานอัยการฟ้องแอม, อดีตสามี และทนายพัช ในคดีการเสียชีวิตของก้อยแล้ว แต่ยังไม่ยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติม เนื่องจากจะยึดพยานของพนักงานอัยการเป็นหลัก ซึ่งมีอยู่แล้วถึง 60 ปาก และเตรียมยื่นคำร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนทางแพ่งจากแอม แต่ยังไม่ทราบว่าจะเรียกค่าเสียหายเท่าไร อยู่ระหว่างการหารือ


นางทองพิน เกียรติไชยะ อายุ 63 ปี มารดาของ น.ส.ก้อย เปิดเผยว่า ครอบครัวเข้าร่วมเป็นโจทก์เพื่อลูก และอยากถามแอมว่า ทำไมต้องฆ่าก้อย ตนเองอยากเห็นหน้าลูก ที่ผ่านมาก้อยเป็นเสาหลักของครอบครัว พอก้อยเสียชีวิต ครอบครัวก็ขาดรายได้ จึงจะฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน เพื่อเรียกค่าปลงศพและค่าเสียหายอื่นๆ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่