อัยการฟ้องแล้ว “แอม ไซยาไนด์” คดีการเสียชีวิต “ก้อย”

กทม. 19 ก.ค. – อัยการฟ้องแล้ว “แอม ไซยาไนด์” และอดีตสามี รอง ผกก.สวนผึ้ง พร้อมทนายพัช คดีการตายของ “ก้อย ศิริพร” โดนวางไซยาไนด์ในอาหารดับ ก่อนฉกทรัพย์ 9 รายการ กว่า 1.5 แสนบาท ทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขอสู้คดี ศาลนัดตรวจหลักฐานวันที่ 2 ต.ค.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ อายุ 35 ปี, พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 39 ปี อดีตสามี และอดีตรอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือทนายพัช อายุ 35 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้และการปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย, เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด, เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด

โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า จำเลยทั้งสามได้บังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมายต่างกรรมกัน กล่าวคือ เมื่อวันที่ 14 เม.ย.66 เวลากลางวัน นางสรารัตน์จำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร หรือก้อย อายุ 32 ปี ด้วยการวางแผนใช้กำลังประทุษร้ายต่อชีวิต น.ส.ศิริพร โดยนำสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanide) อันเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ซึ่งเป็นสารพิษที่เมื่อบุคคลเสพรับสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายแล้วร่างกายจะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เลือดมีภาวะความเป็นกรดสูง เกิดภาวะขาดพลังงานและออกซิเจน ส่งผลให้สมองและหัวใจขาดพลังงานและออกซิเจน อันเป็นอันตรายต่อร่างกายและชีวิตของผู้เสพรับสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย ทำการปลอมปนใส่ลงในอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคบริโภค ชนิดใดและปริมาณเท่าใดไม่ปรากฏชัดให้น.ส.ศิริพร ดื่มหรือรับประทาน หรือเสพรับสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายด้วยวิธีใดไม่ปรากฏชัด แต่เป็นปริมาณที่มากพอที่ทำให้สารโพแทสเซียมไซยาไนด์ดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย น.ส.ศิริพร จนหมดสติและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา จากนั้นจำเลยที่ 1 ได้บังอาจชิงทรัพย์โดยใช้ลักเอาเงิน จำนวน 50,000 บาท, กระเป๋าถือ ยี่ห้อ Louis Vuitton สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ ราคา 30,000 บาท, กระเป๋าถือยี่ห้อ MAC สีดำ จำนวน 1 ใบ ราคา 300 บาท, กระเป๋าใส่บัตร ยี่ห้อ COACH สีน้ำเงิน จำนวน 1 ใบ ราคา 2,000 บาท, กระเป๋าสตางค์ ยี่ห้อ COACH สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ ราคา 2,000 บาท, กระเป๋าสตางค์ ยี่ห้อ CHARLES & KEITH สีน้ำเงิน จำนวน 1 ใบ ราคา 1,000 บาท, สลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 18 ฉบับ ราคา 1,440 บาท, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO รุ่น Reno 6 Pro 5 G จำนวน 1 เครื่อง ราคา 22,990 บาท และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ IPhone รุ่น ๑๔ Pro Max จำนวน 1 เครื่อง ราคา 44,900 บาท รวมทรัพย์ สิน 9 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 154,630 บาท ของ น.ส.ศิริพร ผู้ตายไปโดยทุจริต เพื่อความสะดวกแก่การชิงทรัพย์ การพาทรัพย์นั้นไป ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ ปกปิดการกระทำความผิดนั้น และเพื่อให้พ้นจากความผิด


เหตุเกิดที่ ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี, และที่อื่นเกี่ยวพันกัน

คำฟ้องระบุอีกว่า ต่อมาวันที่ 19 เม.ย.66 เวลากลางวันและเวลากลางคืนต่อเนื่องกัน ภายหลังเกิดเหตุตามฟ้องแล้ว พ.ต.ท.วิฑูรย์ จำเลยที่ 2 มีเจตนาเพื่อจะช่วยนางสรารัตน์ จำเลยที่ 1 มิให้ต้องรับโทษหรือให้ได้รับโทษน้อยลงในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายฯ, โดยบังอาจช่วยซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ เป็นทรัพย์สินของ น.ส.ศิริพร ผู้ตายซึ่งเป็นทรัพย์บางส่วนที่จำเลยที่ 1 ได้มาจากการกระทำความผิด และเป็นพยานหลักฐานในคดีการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ได้รับทรัพย์ดังกล่าวมาไว้ในความครอบครองแต่มิได้นำทรัพย์ดังกล่าวส่งมอบให้แก่ทายาทของ น.ส.ศิริพร ผู้ตาย หรือเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญาคดีนี้ยึดไว้เป็นของกลางในคดี แต่กลับนำทรัพย์ดังกล่าวส่งมอบให้แก่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1ได้ส่งทรัพย์ดังกล่าวไปให้แก่ผู้มีชื่อ เพื่อซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ตามที่จำเลยที่ 3 ได้ใช้ หรือยุยงส่งเสริมจำเลยที่ 2 เพื่อมิให้เจ้าพนักงานตำรวจติดตามหาทรัพย์ของน.ส.ศิริพร ผู้ตาย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือจำเลยที่ 1 มิให้ต้องรับโทษตามกฎหมาย หรือให้ได้รับโทษน้อยลงอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

โดยเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2566 ภายหลังเกิดเหตุดังกล่าวแล้ว จำเลยที่ 3 ได้บังอาจก่อให้จำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง โดยทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์สิน 6 รายการ ของ น.ส.ศิริพร ผู้ตาย อันเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 ด้วยการใช้ ยุยงส่งเสริม หรือด้วยวิธีอื่นใด ให้ พ.ต.ท.วิฑูรย์ จำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานดังกล่าว โดย น.ส.ธันย์นิชา จำเลยที่ 3 ได้พูดยุยงบอกให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ได้รับทรัพย์ของ น.ส.ศิริพร มาไว้ในความครอบครองว่า “ถ้าจะสู้ให้หลุด ก็ต้องไม่ปรากฏของกลาง” และ “มีคดีที่ศาลยกฟ้องเพราะไม่มีของกลางซึ่งคดีนี้ก็ควรทำให้ไม่มีของกลาง” โดยยกตัวอย่างคดีอาวุธปืนให้จำเลยที่ 2 ฟัง ซึ่งจำเลยที่ 2 เข้าใจว่าทำยังไงก็ได้ให้กระเป๋าหายไป อันเป็นการใช้ หรือยุยงส่งเสริม หรือด้วยวิธีอื่นใดเพื่อให้จำเลยที่ 2 ช่วยเหลือจำเลยที่ 1 ไม่ให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง โดยช่วยซ่อนเร้น เอาไปเสีย ทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์สินของ น.ส ศิริพร อันเป็นพยานหลักฐานในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 เพื่อมิให้จำเลยที่ 2 นำทรัพย์ดังกล่าวส่งมอบให้แก่ทายาทของ น.ส.ศิริพร ผู้ตาย หรือเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญาคดีนี้ยึดไว้เป็นของกลางในคดี อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย


ต่อมาเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2566 ภายหลังจากที่จำเลยที่ 3 ได้ก่อให้จำเลยที่ 2 กระทำความผิดด้วยการใช้ ยุยงส่งเสริมหรือด้วยวิธีอื่นใดดังกล่าวแล้ว จำเลยที่ 2 ได้กระทำความผิดตามที่จำเลยที่ 3 ก่อให้เกิดขึ้นดังกล่าว อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

ต่อมาวันที่ 22 เม.ย.66 ภายหลังเกิดเหตุเจ้าพนักงานตรวจยึดขวดยาบรรจุ สารโพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanide) 1 ขวด ที่จำเลยที่ 1 มีไว้และได้ใช้ปลอมปนเพื่อฆ่าและชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร ไว้เป็นของกลาง และต่อมาวันที่ 11 พ.ค.66 เจ้าพนักงานตรวจยึดทรัพย์สินของผู้ตายบางส่วนรวม 6 รายการ เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน กระทั่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาคดีนี้แก่จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 ถูกจับและถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.2566 ต่อมาวันที่ 16 พ.ค.66 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาคดีนี้แก่จำเลยที่ 2 และในวันที่ 26 พ.ค.2566 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาคดีนี้แก่จำเลยที่ 3

ชั้นสอบสวน จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการโจทก์ระบุด้วยว่าคดีนี้จำเลยที่ 1 กระทำผิดซึ่งข้อหาที่มีอัตราโทษสูง โจทก์ขอคัดค้านการประกันตัวของจำเลยที่ 1 เนื่องจากเกรงว่าจำเลยที่ 1 จะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ศาลอาญา ประทับฟ้องคดีไว้พิจารณา เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2084/2566

โดยศาลได้สอบคำให้การจำเลยที่ 1 ผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเร้นซ์ ไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนจำเลยที่ 2-3 เดินทางมาศาลตามที่พนักงานอัยการฟ้องส่งตัว โดยจำเลยทั้งสาม แถลงให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายวันที่ 2 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ต่อมา พ.ต.ท.วิฑูรย์ จำเลยที่ 2 และ น.ส.ธันย์นิชา จำเลยที่ 3 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ทั้งสองมีประกันตัวไปโดยตีราคาประกันคนละ 100,000 บาท ขณะที่นางสรารัตน์ ไม่ยื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก

สงขลา 12 พ.ค.- ตำรวจไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก คดีทำร้ายร่างกาย “ด.ต.” คาหน่วยเลือกตั้ง พร้อมนำกำลังค้น 7 จุดหาหลักฐานเพิ่มเติม ความคืบหน้าเหตุการณ์นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา ลูกชายนายสมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 จ.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ หรือโกถึก ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนนกับภรรยา ล่าสุดวันนี้ ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุแล้วรวม 7 คน ประกอบด้วย 1. นายสิรดนัย หรือสจ.กอล์ฟ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่1 ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน2. นายพงษ์เทพ หรือหนึ่งฟรีด้อม อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ในฐานะรับคำสั่งจากนายสิรดนัย แล้วสั่งการให้ นายหนุ่มเสกกับพวกรวม […]

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]