17 ก.ค. – “กัน จอมพลัง” พาพี่ชายแจ้งความจับน้องชายและน้องสะใภ้ ปลอมเป็นโจรชิงทรัพย์แม่ตัวเอง ใช้สากทุบไม่ยั้ง ยังทำทีไปเยี่ยมที่ รพ. แกล้งถามใครทำ แม่ตอบ “มึงนั่นแหละที่ทำ” ตำรวจนำหมายศาลจังหวัดราชบุรี ไปคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมแฟนสาว สอบปากคำให้การปฏิเสธ พี่ชายสุดทนปรี่ชกหน้า
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมทนายความ พานายธวัชชัย เข้าพบผู้กำกับการ สภ.บ้านโป่ง เพื่อขอให้เร่งติดตามตัวนายวรายุทธ หรือนายปอนด์ น้องชาย หลังก่อเหตุร่วมกับ น.ส.ละอองดาว ภรรยา ปลอมเป็นโจรชิงทรัพย์นางมณีรัตน์ แม่แท้ๆ ของตัวเอง โดยเอาเชือกมัดมือมัดขา ปิดตา เพื่อไม่ให้เห็น แต่แม่จำได้ ได้เงินสดไป 3,000 บาท ทอง 3 สลึง โทรศัพท์ 1 เครื่อง จากนั้นนำสากกะเบือทุบหัว ทุบท้ายทอยเพื่อให้แม่สลบ แต่แม่ไม่สลบ จึงทุบไม่ยั้ง ก่อนทิ้งแม่ไว้ ผู้บาดเจ็บร้องให้คนช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล
“กัน จอมพลัง” ยังบอกว่า หลังจากก่อเหตุ ลูกชายกับลูกสะใภ้ยังไปที่โรงพยาบาล แกล้งถามแม่ว่าใครทำ แม่ก็เลยตอบว่า “มึงนั่นแหละที่ทำ” ซึ่งแม่ได้แจ้งความไว้แล้ว แต่ผู้ก่อเหตุซึ่งตอนแรกโพสต์เฟซบุ๊กตามหาใครทำแม่ตัวเอง แต่พอเห็นว่าแม่แจ้งความก็ขึ้นเฟซบุ๊กด่าแม่อีก
วันนี้จึงมาตามคดีให้ โดยประสานทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาด้วย เพราะเป็นเรื่องในครอบครัว และขอให้ ผกก.ช่วยเร่งรัดติดตามตัว เพราะคนเป็นแม่กลัวมาก เนื่องจากลูกชายยังวนเวียนอยู่ ตอนนี้ทางโรงพยาบาลต้องย้ายห้องหนีให้ ส่วนที่แม่รอดมาได้เพราะร้องขอชีวิตไว้
นายธวัชชัย ลูกชายคนโต บอกว่า ทราบเรื่องจากเพื่อนบ้านที่แม่ไปขออาศัยอยู่ด้วย จึงเดินทางมาที่บ้านโป่งทันที แต่ยังไม่ได้เจอน้องชายและแฟนของน้องชาย ยอมรับว่ารู้สึกโกรธอย่างมาก เท่าที่สอบถามกับแม่ ยืนยันจำได้ชัดเจนว่าคนที่ก่อเหตุทำร้ายเป็นน้องชายของตน เพราะชุดที่ใส่ แม่ก็เป็นคนซักให้ และขณะที่จับมัดและปิดตานั้น น้องชายก็ได้เอ่ยปากขึ้นมา แม่จำเสียงได้ดี
เพื่อนผู้บาดเจ็บ บอกว่า จะไปตัดหน่อไม้ด้วยกัน แต่โทรหาแล้วไม่รับสาย จึงมาดูที่บ้าน พบนางมณีรัตน์นอนอยู่ในห้องเช่าและตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงผลักประตูที่คล้องโซ่ไว้เข้าไป ถึงกับช็อก เพราะสภาพที่เห็น คือ นางมณีรัตน์ ได้รับบาดเจ็บ ถูกมัดมือมัดเท้าอยู่ จึงรีบเรียกเพื่อนบ้านมาช่วย เมื่อถามว่าใครทำก็ว่า “ไอ้ปอนด์” ซึ่งเป็นลูกชายคนกลาง
จากนั้นตำรวจนำหมายจับจากศาลจังหวัดราชบุรี ไปจับกุมนายวรายุทธ และนางละอองดาว นำมาสอบปากคำ ด้านพี่ชายเห็นแล้วทนไม่ไหว ปรี่เข้าชกหน้าน้องชาย จนเจ้าหน้าที่ต้องกันตัวออก
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส โดยมีอาวุธ ร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่2คนขึ้นไป แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ. – สำนักข่าวไทย